ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน นิยาย บท 70

คนสองคนที่กำลังจ้องมองซือลั่วเขม็งอยู่คือจางฮุ่ยฉินคู่หมั้นของซิ่วไฉจย่ากับหวังซื่อพี่สะใภ้ของนาง

ด้วยความคิดแบบเด็กสาว จางฮุ่ยฉินคิดเพียงว่าจะมาเยี่ยมเยียนซิ่วไฉจย่า แต่ไม่คาดคิดว่ากระทั่งตัวของซิ่วไฉจย่าก็ยังไม่ได้เห็น แต่กลับเห็นนังปีศาจจิ้งจอกชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่มาสำนักศึกษาเช่นกันเข้าเสียได้ ทั้งสองมองดูใบหน้างดงามที่เย้ายวนผู้คนของซือลั่วก็เกิดความรู้สึกแค้นเคืองจนคิดเพ้อไปเองว่านางมาเพื่อป้วนเปี้ยนซิ่วไฉจย่าอีก

ซือลั่วไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ทั้งสองขุ่นเคืองใจเข้า นางสัมผัสใบหน้าตนเองด้วยความงุนงง หรือว่านางจะหน้าตางดงามเกินไปจนถูกริษยาเสียแล้ว

นางพึ่งจะคิดจบก็ได้ยินหวังซื่อถ่มน้ำลายพร้อมกับกล่าว “นังปีศาจจิ้งจอก!”

ซือลั่วผงะ แทนที่จะโกรธแต่กลับยิ้ม "หา จริงหรือ”

หวังซื่อคาดไม่ถึงว่านางจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้ พอกำลังจะเปิดปากก็เห็นซือลั่วลูบใบหน้าและกล่าวว่า “ในอดีตทุกคนต่างก็เรียกข้าว่าเจ้าปีศาจจิ้งจอกตัวน้อยกันทั้งนั้น ถึงในตอนนี้จะโตแล้วแต่ก็ไม่เป็นไร ปีศาจจิ้งจอกก็ค่อนข้างเยี่ยมเลยทีเดียว”

ซือลั่วรู้สึกว่า "ปีศาจจิ้งจอก" เป็นสิ่งที่ยืนยันความงามของนางได้ดีที่สุด

หวังซื่อเตรียมคำพูดไว้พร้อมมากแต่กลับพูดไม่ออก ได้แต่มองซือลั่วราวกับเห็นผี นางคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนเรียกนางว่าเจ้าโง่ซือ ท่าทางเช่นนี้จะไม่ใช่คนโง่ได้อย่างไร

ทันใดนั้นหวังซื่อก็หมดความสนใจที่จะคิดเล็กคิดน้อยต่อไปอีก นางจะขายหน้าเพราะไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนโง่ไม่ได้

จางฮุ่ยฉินมองไปยังซือลั่วแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจก็คิดแบบเดียวกับหวังซื่อ

นางก็รู้สึกว่าซือลั่วสมองไม่ค่อยปกติเช่นกัน

เมื่อซือลั่วเห็นว่าพวกนางไม่พูดอะไรอีก นางจึงกล่าวด้วยความสงสัยว่า “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับข้า เพราะเหตุใดกัน”

จางฮุ่ยฉินยังไม่ได้ออกเรือนด้วยซ้ำจึงไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอย่างไรดี กลับเป็นหวังซื่อที่เอ่ยว่า "จย่าซื่อเหรินซิ่วไฉจย่าหมั้นหมายกับฮุ่ยฉินแล้ว”

ซือลั่วเข้าใจในพริบตา นางลอบด่าเจ้าของร่างเดิมว่าน้ำท่วมสมองแล้วใช่ไหม ตกหลุมรักซิ่วไฉจย่าก็แล้วไปเถิด ลำพังดูแค่ชื่อของเขา จย่าซื่อเหริน หวงซื่อเหริน ฟังดูก็รู้แล้วว่าไม่เหมือนคนดี

ทว่าเรื่องนี้ล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องกับซือลั่ว

นางคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่สาวทั้งสอง ที่ผ่านมาข้ายังไม่รู้ความ แต่ทุกคนเข้าใจผิดไปกันหมดแล้ว แต่ไหนแต่ไรข้าก็ไม่เคยมีความคิดเลยเถิดกับซิ่วไฉจย่าเลยแม้แต่น้อย พี่สาวทั้งสองวางใจได้ ภายภาคหน้าข้าจะไม่มีทางไปพบหน้า"เขาแน่ หากไปเจอกันโดยบังเอิญ รับรองได้เลยว่าข้าจะไม่มีทางมองไปทางเขาแม้แต่แวบเดียว”

การกระทำของซือลั่วทำให้หวังซื่อกับจางฮุ่ยฉินอึ้งงันอยู่ที่เดิม

พวกนางทั้งสองอ้าปากพะงาบ ผ่านไปสักพักก็พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

หญิงผู้นี้โง่จริงใช่หรือไม่

ซือลั่วไม่คิดว่าการเอ่ยคำขอโทษจะมีอะไรน่าอาย สำหรับเรื่องของซิ่วไฉจย่า เจ้าของร่างเดิมได้กระทำผิดไป และในเมื่อทำผิดแล้วก็ควรจะพูดขอโทษผู้อื่นไม่ใช่หรือ

คิดในอีกมุมหนึ่ง หากคู่หมั้นของตนเองไปพัวพันกับสตรีที่แต่งงานแล้ว และยังเป็นเรื่องใหญ่โตจนรู้กันไปทั่วอีก ตัวนางเองก็คงเดือดดาลเช่นเดียวกัน

ดังนั้นนางจึงทำสิ่งที่ตรงไปตรงมาอย่างมากโดยไม่เยิ่นเย้อ

หากทำผิดไป ก็จงขอโทษเสีย ไม่น่าขายหน้า

หลังจากกล่าวไปอย่างถ่อมตัว นางจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ทั้งสองท่าน เช่นนั้นข้าไปก่อนนะ"

“...ได้” หวังซื่อตอบกลับไปโดยไม่รู้ตัว

เมื่อซือลั่วจากไปไกลแล้ว จางฮุ่ยฉินก็สะกิดพี่สะใภ้ของตนเอง “อันที่จริงนางก็ไม่ได้น่าชิงชังถึงเพียงนั้นใช่หรือไม่”

หวังซื่อพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหัว "อาจเป็นไปได้ว่านางจงใจพูดแบบนี้เพื่อที่จะแอบไปล่อลวงซิ่วไฉจย่าลับหลัง”

จางฮุ่ยฉินกลับไม่คิดเช่นนั้น นางร่ำเรียนตำรามาหลายปี บิดาเป็นผู้ใหญ่บ้าน และด้วยเหตุนี้ซิ่วไฉจย่าจึงได้ถูกตาต้องใจนาง จางฉุ่ยฉินเองก็เป็นคนที่มีเหตุผลเช่นกัน

จางฮุ่ยฉินเคยพบหน้ากับซิ่วไฉจย่าเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและรู้สึกว่าดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วไม่เลวเลยทีเดียว นางเองก็เลื่อมใสในตัวปัญญาชนเช่นกันจึงได้ตอบตกลงไป

เมื่อเห็นซือลั่วในตอนนี้ จางฮุ่ยฉินรู้สึกว่าข่าวลือก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือ สุดท้ายแล้วก็ต้องได้เจอกับตัวจึงจะเชื่อถือได้

“ช่างมันแล้วกัน ไปกันเถอะ เจ้าโง่ซือผู้นี้ทำสิ่งใดไม่มีขอบเขต คำพูดชองนางเอามาคิดเป็นจริงเป็นจังไม่ได้” หวังซื่อกล่าว

จางฮุ่ยฉินพยักหน้าและเดินตามพี่สะใภ้พร้อมกับจากไป

หลังจากที่พวกนางจากไปแล้วก็มีคุณชายรูปงามสองคนปรากฏตัวออกมาจากด้านข้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน