ซือลั่วกลับไปที่ห้อง นางนอนไม่หลับเพราะเรื่องราวมากมายที่อัดอั้นอยู่ในใจ เว่ยฉงซีก็ไม่ได้ดีไปกว่าซือลั่วเสียเท่าไหร่ อันที่จริงเขาคิดมากกว่านางเสียอีก
ทั้งสองต่างก็นอนไม่หลับ
ในยามกลางดึก ซือลั่วนอนไม่หลับอย่างแท้จริงจึงออกจากห้องไปนั่งอยู่ในลานบ้านเพื่อมองดูหมู่ดาวที่เต็มท้องฟ้า และคิดถึงช่วงเวลาที่นางมีชีวิตอยู่อย่างยิ่ง
เป็นความบังเอิญที่เว่ยฉงซีก็นอนไม่หลับเช่นกัน พอเขาเปิดหน้าต่างก็เห็นซือลั่วนั่งอยู่ในลานบ้าน แม้ว่ารูปร่างของนางจะไม่ได้เตี้ย แต่เมื่อมองดูนางที่นั่งอยู่ตรงนั้นกลับดูเหมือนเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ
ทันใดนั้นที่แห่งหนึ่งในหัวใจของเว่ยฉงซีก็อ่อนยวบ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถเผยมันออกมาได้ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ของเขาจะให้เกิดความเสียหายที่คาดไม่ถึงแม้แต่น้อยไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับซือลั่วดี
และในตอนนี้เอง จู่ ๆ ซือลั่วหันกลับมาและพบเข้าเว่ยฉงซี ทั้งสองคนจ้องมองกันและกันผ่านหน้าต่าง ซือลั่วรีบเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็วและหันกายเข้าไปในห้องทันที
ชั่วขณะนั้นที่ประตูปิดลง เว่ยฉงซีก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจขึ้นมา
ในหลายวันต่อมา ซือลั่วก็ไม่เคยปล่อยให้เว่ยฉงซีอดอาหารอีก ในทางตรงข้าม นางทำอาหารให้เขาโดยเปลี่ยนวิธีการสารพัดรูปแบบในทุก ๆ วัน ด้านการใช้ชีวิตก็ดูแลเขาอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้เว่ยฉงซีกลับยิ่งรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขากับซือลั่วยิ่งไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ซือลั่วไปที่ร้านขนมเหยาจี้รอบหนึ่ง เมื่อได้พบเจ้าสามอีกครั้ง หัวใจของซือลั่วก็บีบรัด
นางไม่รู้แล้วว่าผู้คนที่ตนเองติดต่อด้วยจะยังมีอีกกี่คนที่เป็นคนของเว่ยฉงซี
เจ้าสามยังคงเป็นเช่นเดิม มีรอยยิ้มอันอบอุ่นและไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อย
ซือลั่วบอกเรื่องที่ตนจะร่วมลงทุนด้วยไป เจ้าสามจึงกล่าวว่าต้องชอใตร่ตรองดูสักหน่อย
ซือลั่วรู้ว่าเขาต้องการขอคำแนะนำจากเว่ยฉงซี นางจึงจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดสักคำ
ในคืนนั้น เจ้าสามก็มาด้วยตนเอง เมื่อเห็นห้องของเว่ยฉงซี เจ้าสามก็รู้สึกว่าเจ้าสี่พูดเกินจริงไปมาก แม้ว่าห้องของท่านอ๋องน้อยจะทรุดโทรม แต่สิ่งที่ควรมีก็มีทั้งนั้น ทั้งสะอาด ทั้งเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้ว่าชุดที่สวมใส่อยู่จะเป็นผ้าฝ้ายธรรมดาทั่วไป แต่ดูแล้วค่อนช้างใหม่เลยทีเดียว ตัวท่านอ๋องน้อยไม่มีทางที่จะออกไปซื้อเองได้ ผความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือซือลั่วเป็นผู้ที่ซื้อมัน
เจ้าสามมีความประทับใจที่ไม่เลวต่อซือลั่ว
“นายท่าน” เจ้าสามกล่าวด้วยความเคารพ
เว่ยฉงซีเพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ
"วันนี้ซือลั่วมาหาและพูดถึงเรื่องที่ต้องการจะร่วมลงทุน"
เจ้าสามต้องการฟังความคิดเห็นของเว่ยฉงซี ในตอนสุดท้ายวันนี้ซือลั่วยังกล่าวอีกว่า หากจะร่วมมือกันก็ต้องทำตามข้อเรียกร้องของนาง เหยาจี้จำเป็นต้องสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง
เว่ยฉงซีพยักหน้า "นางรู้แล้ว ดังนั้นทำตามที่นางพูดเถอะ"
เจ้าสามชะงักกึก แม้ว่าเขาจะมีความประทับใจที่ไม่เลวต่อซือลั่ว แต่การที่จะให้นางมาเป็นพวกเดียวกันก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นบุตรสาวของซือเทียนอี้อีกด้วย
เว่ยฉงซีกล่าว "หากนางมีใจเป็นอื่น เจ้าสามารถจัดการนางได้เลย”
เจ้าสามเข้าใจในทันที
“ข้าน้อยรับทราบ”
“มีข่าวคราวจากเจ้าสี่หรือเปล่า” เว่ยฉงซีถาม
เจ้าสามส่ายหัว "เขาไปตามหาดินประสิวที่ภูเขาหมาป่าเมื่อหลายวันก่อน คาดว่าใกล้จะกลับมาภายในสองสามวันนี้แล้ว”
เจ้าสามลังเลครู่หนึ่ง
“เจ้ามีอะไรจะพูดไหม” เว่ยฉงซีเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วถาม
เจ้าสามผงะกับสายตาของเว่ยฉงซี ด้วยเพราะสายตาที่เว่ยฉงซีมองเขาเมื่อครู่ทำให้เขาคิดถึงคนผู้หนึ่ง
ท่านอ๋องเว่ยเซียวผู้ล่วงลับ
เจ้าสามรู้สึกปิติยินดีจึงกล่าวด้วยความเคารพมากยิ่งขึ้นว่า "ซือลั่ว9เป็นเพียงคุณหนูที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนรู้วิธีทำน้ำแข็งได้อย่างไร"
ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าสามจะสงสัย ไม่เพียงแต่การทำน้ำแข็งเท่านั้นแต่ยังมีอาหารแปลกๆ พิสดารเหล่านั้นด้วย หากไม่ใช่เพราะเว่ยฉงซีพบสิ่งผิดปกติ คนอื่น ๆ ก็จะต้องสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ในบ้านของซือเทียนอี้มีตำรามากมาย”
แค่ประโยคเดียวก็สามารถอธิบายได้อย่างกระจ่างแจ้ง
เว่ยฉงซีไม่อยากให้ผู้อื่นรับรู้เรื่องราวของซือลั่ว
เจ้าสามจึงไม่ถามอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...