เมื่อโจวชิงไป๋กลับมาบ้าน เขาก็นำสร้อยทอง แหวนทอง ต่างหูทอง และกำไลทองคู่หนึ่งมาให้ภรรยา และยังมีชิ้นหยกสลักที่อาจเก็บไว้เพื่อแสดงความเคารพด้วย
ในตอนนี้ ของเก่าพวกนี้ไม่อาจเปิดเผยต่อสายตาใคร ๆ ได้
โจวชิงไป๋รับของพวกนี้มาได้เพราะว่ามีสหายเก่าอยู่ในกรมตำรวจ ไม่อย่างนั้นแล้วอย่าว่าแต่ได้ของพวกนี้เลย ตัวเขาเองก็คงจะถูกหมายจับอีกด้วย
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเขาก็มอบของเหล่านี้ให้ภรรยา
และหลินชิงเหอก็มีท่าทีประหลาดใจอย่างที่คิดไว้
หญิงสาวตกใจมากจนนิ่งงัน ไม่เคยคิดว่าผู้ชายหัวโบราณอย่างสามีจะนำของเหล่านี้กลับมาเพื่อเอาใจเธอ
“อย่าเอาออกมาให้คนอื่นเห็นนะ” เมื่อเห็นแววตกใจสุดขีดในสายตาของภรรยา โจวชิงไป๋ก็กระแอมและเอ่ยเสียงแข็ง
หลินชิงเหอเก็บของเหล่านี้ไว้อย่างมิดชิด เด็ก ๆ ยังเล็กอยู่ เธอไม่อยากให้พวกเขาเห็นแล้วเที่ยวโพนทะนาไปทั่ว
“คราวที่แล้วคุณฟังแล้วเก็บไปคิดเหรอคะ?” หลินชิงเหอเก็บของพวกนี้ไว้ในที่ปลอดภัยซึ่งก็คือพื้นที่มิติของเธอเอง จากนั้นก็เอ่ยกับโจวชิงไป๋
โจวชิงไป๋ไม่เคยแสดงความรักใคร่ให้เห็น แต่หลินชิงเหอก็รับรู้ เธอมองเขาด้วยรอยยิ้ม สมกับที่เป็นเขาจริง ๆ หากไม่ใช่เธอแล้วจะมีผู้หญิงคนไหนเข้าใจบุคลิกที่เผยออกมาของเขากันล่ะ?
“ฉันก็แค่พูดลอย ๆ น่ะค่ะ แต่คราวหลังอย่าเสี่ยงทำอะไรแบบนี้อีกเลยนะคะ” หลินชิงเหอเดินมากอดเอวและซบใบหน้าลงกับอกของเขา จากนั้นก็เอ่ยขึ้นขณะฟังเสียงหัวใจของชายหนุ่ม
โจวชิงไป๋ส่งเสียงรับรู้
“เมื่อกลางวันคุณกินอะไรมาคะ? แล้วอิ่มไหม?” หลินชิงเหอถาม
“กินเกี๊ยวน่ะ แต่อร่อยสู้คุณทำไม่ได้หรอก” โจวชิงไป๋ตอบ
นี่ไม่ใช่คำชมแต่อย่างใด เขากินอาหารฝีมือภรรยามามาก จนไม่คุ้นลิ้นกับอาหารนอกบ้านไปแล้ว รสชาติอาหารเหล่านั้นช่างต่างจากอาหารที่ภรรยาทำเหลือเกิน
หลินชิงเหอหัวเราะคิกคัก “วันนี้เราจะกินขนมกุยช่ายทอดกับโจ๊กข้าวฟ่างกันนะคะ
“ได้สิ” โจวชิงไป๋พยักหน้า
หลินชิงเหอปล่อยให้เขาได้พัก วันนี้เขาออกไปนอกบ้านทั้งวันเลย
เธอเริ่มหุงโจ๊กข้าวฟ่าง ขณะเดียวกันก็นวดแป้งไปด้วย
ไม่ต้องกล่าวเลยว่าทักษะการทำอาหารของหลินชิงเหอเป็นอย่างไรโดยเฉพาะหลังจากทะลุมิติมาแล้ว ซึ่งเธอเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เหตุผลก็ไม่มีอย่างอื่นนอกจากเด็กชายสามคนในครอบครัวที่ต้องเลี้ยงเช่นเดียวกับชายหนึ่งคนที่ต้องพึ่งพาเธอ ดังนั้นเธอจะทำอาหารไม่เก่งได้อย่างไรล่ะ?
หลังต้มโจ๊กข้าวฟ่างเสร็จและตักออกจากหม้อแล้ว หลินชิงเหอก็ขัดหม้อและเดินมาตัดกุยช่ายที่สวนหลังบ้าน จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเอาลงผัด เมื่อตักใส่จานแล้ว เธอก็ทำไข่คน จากนั้นก็ผัดกุยช่ายกับไข่เข้าด้วยกันและเติมเกลือลงไป หลังจากนั้นก็ตักออกมาเพื่อใช้เป็นไส้ขนมกุยช่ายทอด
หญิงสาวห่อผัดกุยช่ายกับไข่คนใส่ในแป้งที่นวดเสร็จแล้ว ก่อนเติมน้ำมันลงในกระทะและหย่อนขนมกุยช่ายที่ห่อเสร็จแล้วลงไปทอดจนกระทั่งมีสีเหลืองทองทั้งสองด้านพร้อมกับกลิ่นหอมภายในที่โชยออกมา
เจ้าใหญ่ยังไม่เลิกเรียน ขณะที่เจ้ารองกับเจ้าสามก็ออกไปเล่นนอกบ้าน
โดยเฉพาะเจ้าสามที่ความซุกซนของเขาเทียบได้กับพี่ใหญ่ตอนที่เขายังเด็กกว่านี้
แต่หลินชิงเหอก็ไม่ได้ห้ามเขา ได้แต่ห้ามไม่ให้เขาไปเล่นใกล้แม่น้ำ หากเขาไปที่นั่นจะต้องมีเธอไปด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าเธอพบว่าเขาแอบลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำ เขาก็จะถูกงดขนมไป 7 วัน
มีครั้งหนึ่งที่เจ้าใหญ่ไม่เชื่อฟังและแอบไปเล่นน้ำจนหลินชิงเหอจับได้ เธอจึงไม่ให้ขนมเขาไป 7 วันหลังจากนั้น
เจ้าใหญ่จำเรื่องนี้ฝังใจจนกระทั่งถึงตอนนี้
น้องชายทั้งสองของเขาได้กินแตงโมกันขณะที่เขาไม่ได้กิน พวกเขาได้กินขนมหวานแต่เขาไม่ได้กิน แม้กระทั่งปลาเค็มทอดเขาก็ยังไม่ได้กิน
ในระหว่าง 7 วันนั้น แม่ของเขาเตรียมของว่างน่าอร่อยหลายอย่าง แต่เขาไม่ได้กินสักอย่าง
ไม่มีบทลงโทษใดเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้แล้ว
แม้เจ้ารองกับเจ้าสามจะยังเด็ก แต่พวกเขาก็ถือเอาเรื่องนี้เป็นคำเตือน พวกเขาไม่อยากทำตามพี่ชายแล้วโดนลงโทษแบบนี้โดยเด็ดขาด
หลินชิงเหอจัดการเวลาของเธอได้ดี เมื่อเจ้าใหญ่กลับมาจากโรงเรียน ขนมกุยช่ายทอดก็ทอดเสร็จจนเกือบหมด
“แม่ครับ มันหอมจังเลย ใช่ขนมกุยช่ายทอดหรือเปล่าครับ?” ดวงตาของเจ้าใหญ่เป็นประกาย
“ใช่แล้วจ้ะ ไปเรียกเจ้ารองกับเจ้าสามกลับบ้านเร็ว ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว” หลินชิงเหอบอก
“เร็วไปไหมครับ?” เจ้าใหญ่เอ่ยอย่างอดไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...