โจวชิงไป๋ไม่เคยคัดค้านการตัดสินใจของเธอเลยเมื่อเทียบกับพ่อแม่ของเขา เขารู้ว่าภรรยาของเขายังคงทำการขายต่อเนื้อหมูอยู่ และเห็นชัดว่างานขายธัญพืชก็มีด้วย
ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกไร้พลัง เธอไม่ฟังเขาเลย แต่อย่างน้อยเรื่องนี้ก็เป็นการเห็นด้วยระหว่างพวกเขาสองคน เมื่อใดที่เธอเผชิญกับเหตุไม่คาดฝันครั้งหนึ่ง เธอก็คงจะไม่ทำมันอีก
จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอไม่เคยเผชิญกับปัญหาใด ๆ เลย นับว่าเธอมีความสามารถไม่น้อย ต่อให้เขาจะไม่รู้ก็ตามว่าเธอทำได้อย่างไร
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภรรยาของเขาช่างฉลาด เพียงแต่เธอไม่ได้นำความฉลาดมาใช้ให้ถูกทางเท่านั้นเอง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอก็มีเขาอยู่ ดังนั้นมันจะไม่เกิดปัญหาใหญ่อะไรหรอก
คนทั้งคู่เดินทางกลับมาถึงบ้าน
ในขณะที่สะใภ้รองบ้านหลินเดินกลับบ้านด้วยสองเท้าของตัวเองพร้อมกับเพลิงโทสะอัดแน่นกระเพาะ
ทันทีที่หล่อนกลับถึงบ้าน หล่อนก็นำเรื่องนี้มาบอกกับท่านพ่อหลินและท่านแม่หลิน บอกว่าหลินชิงเหอผู้เป็นน้องสามีคนเล็กมีชีวิตที่ดีมาก
“คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ค่ะ นมผงถุงนั้นราคา 3 หยวน แต่หล่อนกลับซื้อ 2 ถุงในคราวเดียว แถมยังมีลูกกวาดกับพุทราจีนด้วย ฉันไม่รู้เลยว่าหล่อนใช้จ่ายเงินไปทั้งหมดเท่าไหร่!” สะใภ้รองบ้านหลินแค่นเสียงเย็นชาทันทีที่หล่อนอยู่ที่บ้าน
“เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ชิงไป๋ไม่มีเงินเดือนแล้วนี่ หล่อนไปเอาเงินมากมายมาจากที่ไหน” ท่านแม่หลินเอ่ยพลางนิ่งงัน
“คุณแม่คงจะลืมไปแล้วสินะคะว่าน้องเขยยังมีเงินบำนาญหลังลาออกอยู่ ใครจะรู้ว่ามันมีเยอะเท่าไหร่ การที่น้องชิงเหอมาเยี่ยมเราเมื่อครั้งก่อนต้องเป็นเพราะหล่อนกลัวว่าเราจะเอาเปรียบ ก็เลยมาตัดความสัมพันธ์กับทางเรา คุณแม่คะ ลูกสาวคุณแม่ช่างน่ากลัวจริง ๆ!” สะใภ้รองบ้านหลินอนุมาน
“ชิงเหอไม่น่าจะคิดแบบนั้นได้นะ” พี่ชายใหญ่ตระกูลหลินเอ่ย
“ใครจะรู้ล่ะ คราวที่แล้วหล่อนมายืมของกลับไปเหมือนกับว่ามีคนติดหนี้อย่างนั้นแหละ จนถึงตอนนี้หล่อนนก็ยังไม่กลับมาที่นี่เลย ถ้าหล่อนถูกรังแก ใครจะคอยช่วยเหลือล่ะ” พี่ชายรองตระกูลหลินแค่นเสียง
“ใครจะคอยช่วยเหลือก็ช่าง แต่ไม่ใช่พี่รองแน่ครับ พี่รองน่ะซ่อนตัวไวกว่าทุกคนเลย” น้องชายสามตระกูลหลินเอ่ย
“แกพูดเรื่องอะไรหา!” พี่ชายรองตระกูลหลินถลึงตา
“อย่าทำเป็นวางมาดหน่อยเลยค่ะ เราทุกคนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ทำไมจะไม่รู้ไส้กันล่ะคะ” สะใภ้สามตระกูลหลินเอ่ยทะลุกลางปล้อง
“พวกเธอได้ประโยชน์จากหล่อนนี่ ก็เลยเข้าข้างหล่อนอยู่แล้ว” สะใภ้รองตระกูลหลินแค่นเสียง
“ฉันรู้นิสัยพี่สาวสามอยู่นะคะ ก่อนหน้านี้หล่อนรวยก็จริง แต่ตอนนี้ก็คงจะใช้เงินจนหมดแล้วด้วยนิสัยใช้จ่ายของหล่อน ถ้าพี่ต้องการจะขอเงินจากหล่อนแล้วล่ะก็ มันเป็นแผนที่แย่มากค่ะ” สะใภ้สามตระกูลหลินเอ่ยพลางลูบหน้าท้อง
ใช่แล้วล่ะ หลังจากที่คลอดลูกสาวสองคนแรกไป หล่อนก็ตั้งครรภ์อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็เข้าเดือนที่เจ็ดแล้ว หากมันดำเนินไปอย่างปกติ อีกสองเดือนหล่อนก็คงจะคลอด
“แผนแย่อะไรกัน? คุณพ่อกับคุณแม่คลอดและเลี้ยงดูหล่อนมานะ ลูกสาวจะทำตัวอย่างหล่อนได้เหรอ? หล่อนไม่คิดที่จะกลับมาเลยในหลายปีแต่กลับอยู่ดีกินดีในบ้านฝั่งสามี เรื่องนี้ใจดำกันเกินไปแล้ว” สะใภ้รองตระกูลหลินแค่นเสียง
“งั้นถ้าพี่อยู่ดีกินดีในบ้านฝั่งสามีแล้ว พี่จะเก็บข้าวของกลับไปอยู่ที่บ้านฝั่งแม่ไหมล่ะคะ?” สะใภ้สามตระกูลหลินแย้ง
“เธอพูดอะไรน่ะ? เธอกับน้องชายสามแยกตัวไปแล้ว ทำไมถึงมายุ่งเรื่องในบ้านตระกูลหลินอีก?” สะใภ้รองสาดคำพูดกลับ
สะใภ้สามตระกูลหลินพยักหน้า “เป็นเหตุเป็นผลดีค่ะ” จากนั้นหล่อนก็กุมท้องเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป ส่วนน้องชายสามตระกูลหลินก็ไม่สนใจที่จะอยู่ต่อเพื่อฟังสิ่งที่พวกเขาพูดถึงพี่สาวสาม เขาจึงเดินกลับห้องไปด้วย
“อย่างน้อยเราก็ควรหาเวลาไปที่บ้านของพี่สาวสามและแจ้งเรื่องนี้ให้หล่อนนะคะ ดูจากปฏิกิริยาของคุณแม่แล้ว ท่านต้องบุกไปที่บ้านของหล่อนแน่” สะใภ้สามตระกูลหลินบอก
หล่อนจะไม่รู้นิสัยของแม่สามีได้อย่างไรล่ะ?
น้องชายสามตระกูลหลินย่นคิ้วและพยักหน้า “ถ้างั้นผมจะไปที่นั่นบ่ายวันนี้”
แน่นอนว่าหลังจากได้ฟังสิ่งที่ลูกสะใภ้ฟ้องแล้ว ท่านแม่หลินก็วางแผนจะทำอย่างนั้นจริง ๆ
“ฉันไม่เคยเห็นลูกสาวบ้านไหนเป็นแบบนี้เลย ต้องให้คนแก่ ๆ อย่างฉันไปเยี่ยมมันถึงที่ขนาดนี้!” ท่านแม่หลินเอ่ยเสียงเย็น
“ไปถึงที่นั่นแล้วก็พูดจากับมันดี ๆ นะ ดูจากนิสัยของมันแล้ว ใครจะอุ้มชูมันได้หากไปท้าทายใครเข้าโดยที่ไม่มีตระกูลหลินหนุนหลัง?” ท่านพ่อหลินเอ่ยขณะอัดควันบุหรี่มวนใหญ่เข้าปอด
“คุณแม่คะ ไม่ต้องไปสนใจสิ่งที่สะใภ้สามพูดนะคะ จากที่ฉันเห็นมากับตา หล่อนต้องมีเงินในมือเยอะมากแน่ ๆ ค่ะ คุณแม่คะ เมื่อไปถึงแล้ว คุณแม่ต้องพูดเน้นนะคะว่าบ้านตระกูลหลินของเราเก่าคร่ำคร่าจนต้องซ่อม ไม่อย่างนั้นมันคงทนหิมะปีนี้ไปไม่ได้ อะไรแบบนี้น่ะค่ะ” สะใภ้รองตระกูลหลินยืนกราน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...