“พี่สะใภ้อะไรของคุณ? ทำไมก่อนหน้านี้ที่หล่อนอยู่คุณถึงไม่ทักทายหล่อน? ฉันเห็นคนแบบคุณมามากแล้ว รีบออกไปซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้ายหากจะเรียกคนมาจับคุณนะคะ!” พนักงานขายเอ่ยอย่างไม่แสดงท่าทีสุภาพอีกต่อไป
ในยุคนี้พนักงานขายถือเป็นอาชีพยอดนิยมและมีเกียรติอย่างยิ่ง
ต้องขอบคุณบุคลิกเฉพาะตัวของหลินชิงเหอที่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอดูน่าเกรงขามตั้งแต่แรกเห็นและได้เห็นการกระทำของเธอ พนักงานขายจึงเต็มใจที่จะขายผ้าในราคาถูกลงให้ ไม่แปลกใจเลยที่จะได้ยินว่าเธอไม่ต้องการมัน แถมยังรู้สึกว่าเธออาจจะดูถูกของลดราคาอยู่ด้วยซ้ำ
แต่พอเป็นคนอื่น หล่อนก็ไม่ปรานีใด ๆ โดยเฉพาะกับเหล่าคนที่เหมือนจะมาจากชนบทยามได้เห็นครั้งแรก
นิสัยของหล่อนช่างก้าวร้าวนัก
ส่วนผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่สะใภ้รองบ้านหลินของหลินชิงเหอหรอกเหรอ?
โดยปกติแล้วสะใภ้รองบ้านหลินไม่กล้าปะทะกับพนักงานขายโดยตรง หล่อนเองก็มาซื้อของเหมือนกัน และซื้อผ้าบางส่วนเพื่อจะมาตัดชุดใหม่ให้ตัวเอง แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ปะกับน้องสะใภ้ที่ตัดขาดจากครอบครัวทางแม่ไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นหล่อนก็ยังต้องอึ้งไปกับการใช้จ่ายของอีกฝ่าย
สวรรค์เถอะ ไหนเธอบอกว่าไม่มีเงินอย่างไรล่ะ? เธอซื้อของเยอะขนาดนี้ได้อย่างไรหากไม่มีเงิน ถ้าเดาไม่ผิด เกรงว่าของทั้งหมดนี้ดูท่าจะมีราคาเกิน 10 หยวนขึ้นไปด้วย
โดยเฉพาะนมผง 2 ถุงนั่น หนึ่งถุงก็ปาไปแล้ว 3 หยวน แม้แต่ทองยังไม่แพงขนาดนั้นเลย เธอยังกล้าซื้อโดยไม่ทันได้กระพริบตา!
เป็นเพราะแบบนี้แหละหล่อนถึงอยากจะตรวจสอบดู หากมีอะไรที่สามารถใช้ได้ หล่อนก็จะหยิบฉวยไป แต่ไม่คิดเลยว่าจะโดนพนักงานขายดุเอา
หล่อนไม่กล้าอยู่นานกว่านี้และรีบออกจากร้านค้าสหกรณ์ในทันที ต่อให้หล่อนยืนกรานว่าจะเป็นพี่สะใภ้บ้านหลินของหลินชิงเหอ พนักงานขายก็คงจะไม่เชื่อ
เมื่อหลินชิงเหอซื้อของอื่น ๆ ที่เหลือเสร็จ เธอก็เห็นพี่สะใภ้รองบ้านหลินรอเธออยู่ที่หน้าร้านค้าสหกรณ์
ความจริงก็คือ หากสะใภ้รองบ้านหลินไม่โบกมือเรียกทันทีที่เห็นเธอ หญิงสาวก็คงจะเมินหล่อนไปแล้ว
ต่อให้หล่อนเรียกร้องความสนใจ หลินชิงเหอก็ไม่มีความตั้งใจจะไปหาแม้แต่น้อย เธอเดินผ่านหล่อนเข้าไปในร้านค้าสหกรณ์ทันที
“ผู้หญิงคนนั้นอยากดูของที่คุณซื้อไปน่ะค่ะ ฉันเลยคิดว่าหล่อนจะขโมยของของคุณ แล้วหล่อนก็บอกฉันด้วยนะคะว่าหล่อนเป็นพี่สะใภ้จากครอบครัวฝั่งแม่ของคุณ” พนักงานขายบอกเธอ
“ต้องขอบคุณคุณมากนะคะ ฉันไม่รู้จักหล่อนเลย ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาจากไหนด้วย ฉันคิดว่าหล่อนต้องรอฉวยโอกาสฉันอยู่แน่เลยค่ะ” หลินชิงเหอเหลือบมองสะใภ้รองบ้านหลินและเอ่ยด้วยเสียงดังลั่น
เรื่องนี้ทำให้สะใภ้รองบ้านหลินเดือดควันออกหู เธอพูดถึงหล่อนแบบนี้เลยเหรอเนี่ย!
“ฉันเห็นคนแบบนี้เยอะเลยล่ะค่ะ” พนักงานขายแสดงออกว่าหล่อนรับรู้
ก่อนที่โจวชิงไป๋จะกลับมา หลินชิงเหอก็ได้สนทนากับพนักงานขายคนนั้น และไม่คิดที่จะเดินออกมาสนทนากับสะใภ้รองบ้านหลินแต่อย่างใด
ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว พนักงานขายคนนี้จึงได้คุยกับเธออย่างออกรสชาติ ขณะที่ฟังวาจาฉะฉานของหลินชิงเหอนั้น พนักงานขายคนนี้ก็ไม่กล้าประเมินเธอไว้ต่ำต่อให้จะบอกได้ว่าเธอมาจากชนบทก็ตาม หล่อนเดาว่าหญิงสาวคนนี้จะต้องเป็นครูอาจารย์แน่
ไม่อย่างนั้นแล้วหญิงชาวไร่ชาวนาธรรมดาจะเอ่ยคำพูดฟังดูมีการศึกษาแบบนี้ได้อย่างไรล่ะ?
“คุณจะไม่ออกไปคุยกับหล่อนจริง ๆ เหรอคะ?” พนักงานขายถาม
“คุณยังไม่เห็นตอนที่หล่อนอาละวาดน่ะสิคะ ตอนนี้หล่อนแค่แกล้งทำตัวน่าสงสารเท่านั้นแหละค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
“ดูภาพรวมของหล่อนแล้ว ฉันก็คิดว่าหล่อนไม่น่าคบเหมือนกันค่ะ” พนักงานขายเอ่ย
แต่สะใภ้รองบ้านหลินตัดสินใจที่จะยืนคอย หลินชิงเหอจึงเดินออกมาพร้อมกับนิ่วหน้าหลังประมาณเวลาว่าโจวชิงไป๋คงจะกลับมาในไม่ช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“คุณน้องจ๊ะ” สะใภ้รองบ้านหลินที่ยืนคอยอยู่ครึ่งชั่วโมงยังคงปั้นหน้ายิ้มให้
“มีอะไรเหรอคะพี่สะใภ้? ฉันตัดขาดจากตระกูลหลินโดยเด็ดขาดแล้ว ที่ฉันพูดเมื่อก่อนหน้านี้พี่เห็นว่าฉันล้อเล่นหรือไงคะ?” หลินชิงเหอปรายตามองอย่างเยาะเย้ย
สะใภ้รองตระกูลหลินกลั้วหัวเราะ “คุณน้องจ๊ะ อย่าล้อเล่นกันสิ คุณพ่อกับคุณแม่ที่บ้านยังพูดถึงน้องกันอยู่เลยว่าทำไมน้องถึงไม่กลับ ปีนี้อย่าเอ่ยคำพูดขุ่นข้องหมองใจกันเลยจ้ะ น้องกลับไปเถอะ”
“ฉันรู้จักนิสัยของพ่อแม่ฉันดีค่ะ ตัวฉันที่เป็นลูกสาวแต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนกับสาดน้ำออกไป ไม่มีค่าอะไรในสายตาของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องใจดำและโหดร้ายใส่ฉันในคราวก่อนเลย อีกอย่างหนึ่งฉันมีลูกชายสามคนต้องเลี้ยง ต่อให้ฉันมีความกตัญญูอยู่ ฉันก็ไม่มีพลังที่จะทำได้ พวกเขามีลูกชายตั้งหลายคน ทำไมถึงมาร้องขออะไรจากลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วให้มาดูแลด้วยล่ะคะ ถ้าคนอื่นรู้เข้าพวกเขาจะกลายเป็นหมาหัวเน่าของคนในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้านนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยเสียงเรียบ
สะใภ้รองบ้านหลินไม่รู้เลยว่าน้องสามีจะน่าสะพรึงขนาดนี้ จากที่หล่อนเห็นก็คือ เธอวางแผนจะตัดช่องทางการติดต่อทั้งหมดจริง ๆ
“คุณน้องคะ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องการให้น้องเลี้ยงดูพวกเขาหรอกค่ะ ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราก็คงจะแยกตัวออกไปแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่แค่คิดถึงน้องและอยากให้น้องกลับบ้านมาเยี่ยมเท่านั้นเองจ้ะ” สะใภ้รองบ้านหลินเอ่ยโน้มน้าว
“อย่าเลยค่ะ พวกเขาจำฉันได้แน่” หลินชิงเหอแค่นเสียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...