ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 147

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 147 ฉันก็อาจจะสอบผ่านเหมือนกัน
บทที่ 147 ฉันก็อาจจะสอบผ่านเหมือนกัน
โดย
EnjoyBook
บทที่ 147 ฉันก็อาจจะสอบผ่านเหมือนกัน

ในปีหนึ่ง ๆ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พ่อแม่จะพาพวกเขาสามพี่น้องมาเที่ยวสนุกในอำเภอ

ถ่ายรูปครอบครัว ดูหนัง กินข้าว กินขนม

พวกเขาสามารถเที่ยวเล่นได้แบบนี้ตลอดทั้งวันเลย

เจ้าใหญ่ เจ้ารอง และเจ้าสามต่างปิติยินดีอย่างยิ่งและไม่เหนื่อยล้าเลยสักนิดเดียว

การถ่ายรูปหมู่ครอบครัวเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามปกติและที่บ้านตอนนี้ก็มีรูปของพวกเขาอยู่มากมาย ทุกรูปล้วนถูกเก็บสะสมด้วยฝีมือของหลินชิงเหอ

ในบางครั้งเด็กชายทั้งสามก็ขอดูรูปของพวกเขาจากมือเธอ

ทั้งครอบครัวเที่ยวเล่นกันทั้งวัน เมื่อพวกเขากลับบ้าน เจ้าใหญ่กับเจ้ารองยังคงเป็นปกติ มีเพียงเจ้าสามที่ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของพ่อ

ขณะที่ปั่นจักรยานกลับ เจ้าใหญ่ก็ได้นั่งซ้อนท้ายหลินชิงเหอขณะที่เจ้าสามอยู่ในอ้อมกอดของเธอ

ส่วนเจ้ารองนั้นนั่งอยู่ตรงคันบังคับจักรยานตรงด้านหน้า

เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน เจ้าสามก็มีพลังฟื้นคืน

เป็นเพราะหลินชิงเหอรู้สึกอ่อนเพลียหลังจากเที่ยวเล่นมาตลอดทั้งวันนี้ พวกเขาจึงกินอาหารง่าย ๆ ในตอนเย็นก่อนที่ทั้งครอบครัวจะเข้านอนแต่หัวค่ำหลังอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ

“พี่ชายสี่กับพี่สะใภ้สี่มีธรรมเนียมประจำบ้านเหมือนกันนะเนี่ย” โจวเสี่ยวเม่ยเอ่ยขึ้นมาอย่างมีความรู้สึกร่วม

“งั้นเรา…มาเที่ยวกันบ้าง…ในปีนี้…ไหมครับ?” ซูต้าหลินถาม

“งั้นเราไปพรุ่งนี้เลยได้ไหมคะ?” โจวเสี่ยวเม่ยถามกลับ

“ตกลงครับ” ซูต้าหลินยิ้มกริ่ม

วันต่อมาทั้งคู่จึงพาลูกชายของพวกเขาเข้าไปในอำเภอ ต้องบอกว่าการออกไปเที่ยวข้างนอกทั้งครอบครัวถือเป็นเรื่องสนุกสนานไม่ใช่น้อย

เดิมทีหลินชิงเหอไม่รู้เรื่องนี้จนกระทั่งท่านแม่โจวได้เอ่ยถึง

“เมื่อไหร่คุณพ่อกับคุณแม่จะไปถ่ายรูปกันเหรอคะ?” หลินชิงเหอถามขึ้นมาขณะที่กำลังรับประทานอาหาร

“ทั้งคุณพ่อกับฉันอายุปูนนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปหรอก” แม้ท่านแม่โจวจะรู้สึกอยากอยู่ในใจ แต่นางก็ยังอยากประหยัดเงินจึงได้แต่ส่ายหน้า

“ถ่ายสักสองรูปคงไม่ใช้เงินมากนักหรอกค่ะ” หลินชิงเหอบอก

“ก็ยังไม่จำเป็นอยู่ดี” ท่านแม่โจวยังคงยืนกราน

หลินชิงเหอไม่ได้ว่าอะไร แต่พูดกับโจวชิงไป๋สองต่อสอง “ฉันคิดว่าพ่อของคุณอยากถ่ายรูปจริง ๆ นะคะ”

ในวันที่ 30 ธันวาคม เจ้าใหญ่ก็ได้ร้องขอรูปจากเธอ เมื่อท่านพ่อโจวได้เห็นรูปก็วางไม่ลง เขารู้สึกอยากขึ้นมาเมื่อเห็นเธอบอกว่าจะพาไปถ่ายรูปในตอนนี้

ไม่ต้องพูดถึงตอนที่ท่านแม่โจวบอกเขาเลย เขาไม่เอ่ยอะไรทั้งสิ้น

“ถ้างั้นผมจะพาคุณพ่อไปให้ช่างถ่ายรูปให้ถ้ามีเวลาว่างดีไหมครับ?” โจวชิงไป๋ตอบหลังได้ยินดังนี้

“ถ้าคุณอยากจะพาคุณพ่อไป ก็พาคุณแม่ไปด้วยสิคะ ไว้ค่อยคุยกันตอนที่มีรถแทรกเตอร์ผ่านเข้าอำเภอแล้วกันค่ะ” หลินชิงเหอบอก

การที่คนเฒ่าคนแก่อยากถ่ายรูปมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก

แต่ต้องบอกก่อนว่าการถ่ายรูปในยุคนี้เป็นเรื่องฟุ้งเฟ้ออย่างยิ่งจริง ๆ

คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องนี้ นับว่าพวกเขาใช้ชีวิตดีจนน่าประหลาดใจอย่างมาก

วันเวลาในปฏิทินดำเนินมาจนถึงวันที่เจ็ดของเทศกาลปีใหม่ และวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันที่แปด ซูต้าหลินกับโจวเสี่ยวเม่ยก็ต้องกลับเข้าอำเภอไปทำงานแล้ว วันนี้ทั้งคู่จึงตื่นนอนกันค่อนข้างเช้า

พวกเขาตัดสินใจกลับไปในวันนี้

ซูเฉิงน้อยที่คุ้นเคยกับการมีพ่อแม่อยู่ด้วยพอรู้ว่าพวกเขากำลังจะจากไปก็เริ่มงอแง เด็กชายกอดซูต้าหลินไว้และไม่ยอมปล่อยมือจากพ่อของเขา เรื่องนี้ทำให้ซูต้าหลินรู้สึกซาบซึ้งใจจนดวงตาของชายหนุ่มกลายเป็นสีแดง

แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังต้องจากไปอยู่ดี

ซูเฉิงน้อยร้องไห้เสียใจอยู่สองหรือสามวันติด แต่หลังวันที่สามไปแล้วเขาก็มีอาการดีขึ้น

เด็ก ๆ ก็เป็นแบบนี้ รักใครก็รักจนสุดหัวใจ

ตระกูลโจวดูมีชีวิตชีวามากขึ้นยามมีเด็ก ๆ หลายคน ยิ่งกว่านั้นเจ้ารองกับเจ้าสามยังมาเล่นกับเขาบ่อย ๆ ด้วย

แต่อากาศในเดือนมกราคมยังหนาวเย็นมากนัก โดยเฉพาะในปีนี้ที่มีหิมะตกค่อนข้างหนักในเดือนมกราคม

“ผลผลิตในปีนี้ก็น่าจะดีด้วยเหมือนกันนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยเมื่อเห็นหิมะปกคลุมเต็มลานบ้านยามตื่นนอนแต่เช้าตรู่

หิมะตกเป็นเวลาแบบนี้หมายถึงปีอันอุดมสมบูรณ์ การมีหิมะตกหนักแบบนี้ก็แสดงว่าผลผลิตในปีนี้ต้องดีเยี่ยมอย่างแน่นอน

“ผมจะลองขึ้นภูเขาไปดูกระต่ายนะ” โจวชิงไป๋เอ่ย

“งั้นไปเถอะค่ะ” หลินชิงเหอไม่คัดค้าน ในช่วงฤดูหนาวปีนี้เขาไม่มีอะไรจะทำเลยนอกจากคิดจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอ เป็นเรื่องดีแล้วที่ปล่อยให้เขาได้ออกไปปลดปล่อยพลังงานบ้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม