เพราะเรื่องนี้ทำให้คนฟังรู้สึกตื่นเต้นมาก สองสามีภรรยาชราจึงคุยกันมากกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเข้านอน
ถ้าเกิดเจ้าใหญ่เข้ามหาวิทยาลัยได้ในอนาคต เขายังต้องการความช่วยเหลือจากปู่ย่าคู่นี้ในเรื่องการแต่งงานอยู่ไหมนะ?
และมันก็ไม่จำเป็นเลย
หากเขาได้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจริง เจ้าใหญ่จะต้องการคู่ครองแบบไหนในอนาคตก็เป็นเรื่องที่เขาต้องเลือกเอง
จากนั้นสองสามีภรรยาชราก็พึมพำใส่อารมณ์ในเรื่องที่ว่าสะใภ้สี่ช่างมีชีวิตที่โชคดีเหลือเกิน
เธอไม่ได้เก็บเงินเลยสักเหมา แต่ลูกชายของเธอกลับมีความสามารถมากเช่นนี้ ในภายภาคหน้าพวกเขาก็ไม่ต้องหาภรรยาให้เขาแล้ว เพราะเด็กชายพวกนั้นคงจะได้ภรรยาด้วยตัวเอง
หลินชิงเหอไม่รู้เลยว่าสองปู่ย่ารู้สึกอย่างไรกันอยู่ ในตอนนี้เธอกำลังพัลวันอยู่กับโจวชิงไป๋
ถึงตอนนี้ทั้งคู่จะเป็นสามีภรรยากันนานแล้ว แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นมากอยู่ดี
เมื่อกิจกรรมจบลง หลินชิงเหอก็รู้สึกสุขกายสบายใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “ฉันควรจะบอกคุณแม่เกี่ยวกับธุรกิจเนื้อหมูไหมคะ?”
แม่สามีของเธอไม่รู้อะไรทั้งนั้น เธอคงปล่อยเรื่องนี้ไปได้หากว่าพวกเขาไม่ได้กินอาหารด้วยกัน แต่ในภายหน้าปู่ย่าคู่นี้จะยังคงมากินอาหารที่บ้าน ถึงตอนนั้นสองสามีภรรยาชราคงเกิดความสงสัยไม่ช้าก็เร็ว
“ไม่จำเป็นหรอก ถ้าแม่ผมถาม คุณก็บอกไปว่าใช้เงินบำนาญของผมสิ” โจวชิงไป๋กอดเธอขณะเอ่ยตอบ
หลินชิงเหอฟังแล้วก็รู้สึกว่ามันสมเหตุผลดี “ตกลงค่ะ”
ปล่อยให้ปู่ย่าคู่นี้ไม่รู้ต่อไปจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเกรงว่าพวกเขาจะรับไม่ได้
แต่ถ้าพวกเขารู้ว่าลูกชายของตนได้เงินบำนาญมา 3,000 หยวน ทั้งคู่คงจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจแน่
เงินบำนาญ 3,000 หยวนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ที่เป็นไปได้อย่างมากก็แค่ครึ่งหนึ่งของมันเท่านั้น
เธอแต่งเรื่องกับโจวชิงไป๋กันตรง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แต่ละคนพูดคนละอย่าง จากนั้นหลินชิงเหอก็อยากจะสลบไสลไป
“เราทำกันอีกรอบไหมครับ?” โจวชิงไป๋เอ่ยเชิญชวน
หลินชิงเหอผลักเขาออกอย่างขำ ๆ “ใจเย็นน่าคุณ อย่าคิดว่าเป็นเพราะคุณว่างไม่มีอะไรทำในหน้าหนาวแล้วคุณจะมายุ่มย่ามได้ตามใจนะคะ”
ชายคนนี้ช่างมีพลังงานเหลือล้นเกินกว่าจะใช้ไปจริง ๆ
โดยทั่วไปแล้วผู้ชายอายุเท่านี้จะเสื่อมสมรรถภาพด้านนี้ลงไม่ใช่เหรอ?
แต่เขายังคงทำได้ต่อเนื่อง ไม่ลดไม่แผ่วเลยสักนิด
โจวชิงไป๋ยิ้มกริ่มและนอนกอดเธอไว้
วันต่อมาคือวันขึ้นปีใหม่
น้องชายสามตระกูลหลินได้เดินทางมาเยี่ยมในวันนี้ แต่ภรรยาของเขาไม่ได้มาด้วยเพราะหล่อนกำลังตั้งครรภ์
หลินชิงเหอถามเขาเกี่ยวกับผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์คราวที่แล้ว จนบัดนี้เธอยังไม่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของทางบ้านหลินเลยแม้แต่น้อย
“ตอนนี้พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่สะใภ้รองมีความสัมพันธ์แบบเกือบจะเป็นศัตรูกันแล้วครับ” น้องชายสามตระกูลหลินตอบด้วยน้ำเสียงจนใจ
คราวที่แล้วหลินชิงเหอยืนกรานว่าจะขอโค้ททหารคืนจากมือของสะใภ้รองบ้านหลิน แต่หลังจากที่พี่ชายรองสวมใส่มันมานานแล้ว หลินชิงเหอจะใช้มันต่อได้อย่างไรล่ะ? เธอไม่ได้ยากจนจนเป็นบ้าสักหน่อย
เธอก็เลยมอบมันให้กับสะใภ้ใหญ่บ้านหลิน และยังเป็นการบ่มเพาะความร้าวฉานระหว่างพวกเขาไปในตัว
สะใภ้ใหญ่บ้านหลินรู้ดีว่าเธอต้องการจะทำอะไร แต่ต่อให้หล่อนรู้ หล่อนจะคืนโค้ทกลับไปให้ครอบครัวสายรองบ้านหลินได้อย่างไร?
หลินชิงเหอเป็นคนให้โค้ทตัวนี้ หากครอบครัวสายรองต้องการมัน พวกเขาก็ต้องไปขออีกตัวหนึ่งมาจากหลินชิงเหอ
แต่ทั้งพี่รองตระกูลหลินและสะใภ้รองตระกูลหลินรู้ดีว่าตอนนี้หลินชิงเหอเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาจะมาหาเพื่อยั่วโทสะเธออีกได้อย่างไร?
โดยเฉพาะสะใภ้รองบ้านหลิน หล่อนถึงกับเสียใจอย่างเป็นที่สุดในเรื่องที่ว่าทำไมหล่อนถึงท้าทายน้องสามีคนนี้และล่อเธอให้มาที่บ้านกันนะ?
แต่พวกเขาต้องทวงคืนเสื้อโค้ทกลับอย่างแน่นอน โดยเฉพาะตั้งแต่ตอนที่มันตกอยู่ในมือของสะใภ้ใหญ่บ้านหลิน
ส่วนสะใภ้ใหญ่บ้านหลินก็ไม่ยอมเหมือนกัน
ทั้งสองครอบครัวเลยทะเลาะกัน แม้แต่พี่ชายใหญ่กับพี่ชายรองตระกูลหลินก็พลอยผสมโรงไปด้วย โดยสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองบ้านหลินทะเลาะกันชนิดที่แทบจะฉีกหน้าอีกฝ่าย
ท่านพ่อหลินกับท่านแม่หลินมาห้ามไว้ได้ แต่ก็ห้ามได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
การต่อสู้นี้เองได้สร้างความเกลียดชังระหว่างสองครอบครัวอย่างฝังรากลึกมากขึ้นจนปรากฎเด่นชัด
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด แทบไม่ต้องคิดเลยว่าสะใภ้ใหญ่จะยังคืนโค้ททหารอยู่ไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...