เจ้าใหญ่ที่ได้ลูกฟุตบอลมาย่อมไม่ขาดแคลนสหาย และหลินชิงเหอก็ไม่ค่อยเข้าไปยุ่งในเรื่องการผูกมิตรของเขานัก
แต่ถ้าเธอพบว่าพวกเขากล้าชักชวนให้เขากระทำความผิด เธอก็จะไม่ญาติดีด้วยอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าใหญ่ก็ไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ เลย
เจ้าใหญ่กับเจ้ารองยังไม่กลับบ้านจนกระทั่งเกือบเป็นเวลาห้าโมงครึ่ง
สองพี่น้องกลับมาด้วยสภาพมอมแมม ทันทีที่ถึงบ้าน เธอก็รีบบอกให้พวกเขาไปอาบน้ำในทันทีที่กลับมาถึง
ในตอนนี้เองเจ้าตัวยุ่งอย่างเจ้าสามก็กลับมาพอดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากลับมาในสภาพสกปรกเลอะเทอะไปทั้งตัว
เด็กคนนี้เล่นดีดลูกแก้วกับเด็กคนอื่น ๆ มา ทำให้เนื้อผ้าบริเวณเข่าและศอกของเขาสกปรกเป็นพิเศษจากการนอนคว่ำและดีดลูกแก้ว
หลินชิงเหอดุเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ยังลืม เขาเองก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ จนเกือบดูเหมือนโจรขโมย
“ลูกจะหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ทำไมน่ะ? รีบมาอาบน้ำเร็ว” หลินชิงเหอเหลือบมองเขา
“แม่ครับ วันนี้แม่สวยจังเลย” เจ้าสามรีบหยอดคำชมหวานหู
“แม่จะคิดบัญชีกับลูกทีหลัง” หลินชิงเหอพูด
จากนั้นหญิงสาวก็ไล่ให้เด็กชายทั้งสามไปอาบน้ำ ขณะที่เธอเดินเข้ามายกอาหารในครัวออกไป
อาหารเย็นนี้มีเพียงไข่คนกับต้นกระเทียม และแกงจืดกุ้งแห้งทานเคียงกับหมั่นโถว
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความขาดแคลน มันต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่ผักใบเขียวจะผลิใบ แต่เธอก็ยังขุดผักป่าบางส่วนมาเป็นอาหารวันพรุ่งนี้ได้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ท่านพ่อโจวกับโจวชิงไป๋ก็เข้ามาในบ้าน
“ไปเรียกคุณย่าให้มากินข้าวเย็นกับเราด้วยสิ” หลินชิงเหอหันมาบอกเจ้าใหญ่
เจ้าใหญ่วิ่งออกไปทันที และกลับมาพร้อมกับท่านแม่โจวที่อุ้มซูเฉิงน้อยมาด้วย
จากนั้นทั้งครอบครัวก็เริ่มกินข้าว
“การตรวจสอบในปีนี้เข้มงวดมาก ไม่มีทางที่เราจะเลี้ยงไก่เกินจำนวนเลี้ยงที่บ้านแล้วล่ะ”
หลังกินข้าวเสร็จ โจวชิงไป๋ก็บอกเรื่องนี้กับภรรยา
เดิมทีหลินชิงเหอวางแผนจะเลี้ยงไก่เพิ่มอีก 2 ตัว แต่เธอก็ต้องพับไว้เมื่อได้ยินดังนี้ “ถ้าไม่ได้รับอนุญาตฉันก็ไม่เลี้ยงค่ะ ฉันจะคอยดูว่ามีอาหารอร่อย ๆ อย่างอื่นในช่วงเก็บเกี่ยวประจำฤดูร้อนไหม”
“คุณอย่าหักโหมเลย ถ้ามีพอกินก็พอแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋บอก หลินชิงเหอได้ยินก็พยักหน้า
ความจริงแล้วโจวชิงไป๋ใช่ว่าจะมีความอยากอาหารสูง ตราบใดที่เขาอิ่มท้องมันก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามีอาหารอร่อยอยู่ โจวชิงไป๋ก็จะกินมากขึ้น
บรรดาผู้ชายออกไปทำงานวันต่อมา ขณะที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองไปโรงเรียน หลินชิงเหอก็มุ่งหน้าไปขุดหาผักป่ากับเจ้าสาม
“แม่ครับ มื้อกลางวันนี้มีเนื้อกินไหมครับ? แค่ผักป่าอย่างเดียวมันไม่อร่อยหรอก” เจ้าสามบอก
“ก็มีไข่คนกับผักป่าเป็นไส้เกี๊ยวแล้วนี่จ๊ะ” หลินชิงเหอตอบ
“มันก็ยังอร่อยกว่านะครับถ้ามีเนื้อ” เจ้าสามตอบตามตรง
“ไม่มีเนื้อหรอก” หลินชิงเหอยืนกราน
เจ้าสามถอนหายใจราวกับคนแก่ในร่างเด็ก “เมื่อไหร่ผมจะได้กินเนื้อจนอิ่มท้องล่ะครับ?”
“ฝันไปเถอะ บางทีวันหนึ่งลูกโตขึ้นแล้วมีความสามารถ ลูกอาจได้กินเนื้อทุกวันก็ได้นะ” หลินชิงเหอตอบ
“งั้นเมื่อผมโตขึ้น ผมจะหาเงินมาซื้อเนื้อให้แม่กินนะครับ” เจ้าสามเอ่ย
“งั้นแม่จะรอแล้วกัน” หลินชิงเหอยิ้ม
“แม่ ดูสิ นั่นไม่ใช่ไก่ฟ้าเหรอครับ?” เจ้าสามถามขณะมองไปข้างหน้า
หลินชิงเหอมองตามสายตาของเขา โอ้ นั่นมันไก่ฟ้านี่!
แต่พอเธอขยับตัว ไก่ฟ้าตัวนั้นก็บินถลาหายเข้าไปในภูเขา
“แม่โง่จัง แม่ทำให้ไก่ฟ้าตกใจจนบินหนีไปแล้วเห็นไหม” เจ้าสามเอ่ย “ถ้าพ่ออยู่ที่นี่นะ ไก่ฟ้าตัวนี้ต้องหนีไม่พ้นแน่ ๆ”
หลินชิงเหอเงียบไป
เอาล่า ถ้าสามีของเธออยู่ที่นี่ เขาก็อาจจะจับไก่ฟ้าตัวนี้ได้ แต่พอเป็นเธอแล้ว อย่าคิดเลยว่าเธอจะจับมันได้
หลังขุดผักป่าและเก็บเห็ดภูเขากินได้บางส่วนไปแล้ว ทั้งแม่และลูกชายก็กลับบ้าน
ทันทีที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองกลับมาจากโรงเรียน เจ้าสามก็โม้ให้พวกเขาฟังว่าเขากับแม่เจอไก่ฟ้าบนภูเขา แต่แม่ของพวกเขากลับทำให้มันตกใจจนหนีไป
หลินชิงเหอตกเป็นเป้าสายตาของสองพี่น้อง เธอก็รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา
“แม่คิดว่าลูกๆ วอนหาเรื่องให้แม่ตีแล้วจริง ๆ ด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...