เธอสับเปลี่ยนนำหม้อใบใหม่ไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วนำหม้อใบเก่ามาให้น้องชายสามตระกูลหลินแทน
หลินชิงเหอปั่นจักรยานไปหาน้องชายสามตระกูลหลินและบอกให้เขามารับหม้อกลับไปเมื่อมีเวลาว่าง
และแน่นอนว่าหญิงสาวให้เงินกับเขาก่อนเพื่อให้เขาได้สร้างบ้านหลังใหม่
เมื่อน้องชายสามตระกูลหลินแยกตัวออกจากบ้านใหญ่ เขาก็ได้รับเงินสิบกว่าหยวนเท่านั้น ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอต่อการสร้างบ้านหลังหนึ่งแน่นอน ต่อให้เขามีชื่อเสียงที่ดีในหมู่บ้าน จากการที่เขาแตกต่างจากคนในตระกูลหลินส่วนใหญ่ และได้รับความช่วยเหลือจากคนจำนวนมาก แต่เขาก็ต้องการค่าวัสดุสร้างบ้านเป็นจำนวนมากอยู่ดี
“ตัดบ้านดินทิ้งไปได้เลย มันสร้างลำบากเวลาฝนตก พี่จะถามพี่เขยให้นะว่าที่ไหนพอจะมีอิฐกับกระเบื้องขายบ้าง ถ้ามีล่ะก็ นายก็พยายามสร้างบ้านอิฐให้สุดฝีมือไปเลยนะ” หลินชิงเหอแนะนำเขา
ทางฝั่งน้องชายสามตระกูลหลินได้รับอนุญาตให้สร้างบ้านแล้ว ทางเลขาธิการสาขาของหมู่บ้านที่เป็นคนแซ่หลินได้โยกย้ายที่ดินที่ลูกชายคนโตของเขาเคยจองไว้เมื่อนานมาแล้วให้กับน้องชายสามแห่งตระกูลหลิน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในกลุ่ม
แต่ถึงอย่างนั้นคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านก็ไม่กล้ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นการเปลี่ยนมือจากคนหนึ่งไปเป็นอีกคนหนึ่ง ไม่มีใครได้รับผลเสียจากเรื่องนี้หรอกถูกไหม?
แล้วน้องชายสามตระกูลหลินก็เริ่มสร้างบ้าน
ถึงโจวชิงไป๋ผู้เป็นพี่เขยจะไม่ได้มาช่วยเขาสร้างบ้าน แต่ก็อำนวยความสะดวกให้ด้วยการส่งอิฐมา 2 เกวียน
ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าช่วยเหลือเขามากแล้ว
คนจำนวนมากในหมู่บ้านต่างไปช่วยเหลือ และมันก็ใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนก่อนที่บ้านของน้องชายสามตระกูลหลินจะสร้างเสร็จเรียบร้อย
มันมีห้องเพียงห้องเดียวและเตาเพียงหนึ่งเตา
สภาพบ้านค่อนข้างแออัด แต่ต้องบอกว่ามันเป็นสวรรค์โดยแท้ที่สามารถย้ายออกจากครอบครัวใหญ่มาอาศัยอยู่ด้วยตัวเองได้
ทันทีที่บ้านสร้างเสร็จ พวกเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ บ้านหลังนี้ใช้เงินสร้างไปทั้งหมด 140 หยวน โดยที่รวมต้นทุนค่าอิฐกับกระเบื้องแล้ว เป็นเรื่องดีทีเดียวที่โจวชิงไป๋สามารถออกค่าอิฐกับกระเบื้องให้ล่วงหน้าได้ ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะจ่ายมันไหว
นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนดีควรกระทำเลย
บ้านของน้องชายสามตระกูลหลินเสร็จสมบูรณ์ และทั้งครอบครัวก็ย้ายออกจากบ้านใหญ่
โดยไม่ต้องบอก คนในตระกูลหลินต่างถามกันให้แซดว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาได้เงินสร้างบ้านมาจากไหน?
เดิมทีพวกเขานึกสงสัยว่าโจวชิงไป๋อาจเป็นคนช่วย แต่เลขาธิการสาขาของหมู่บ้านก็ออกหน้าแทนและบอกว่าเขาใช้เส้นสายบางอย่าง
เลขาธิการสาขาของหมู่บ้านปฏิบัติต่อน้องชายสามตระกูลหลินเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เพราะชายหนุ่มเคยช่วยชีวิตหลานชายของเขาไว้ เด็กชายตัวน้อยแสนซนคนนั้นได้ตามเด็กโตคนอื่น ๆ ไปเล่นน้ำในบริเวณน้ำตื้น
เขาพลัดตกลงไปและเด็กโตคนอื่น ๆ ก็หนีกันหมด ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายสามตระกูลหลินเดินผ่านมาและกระโดดลงไปคว้าตัวเขาขึ้นฝั่ง เด็กน้อยคงตกอยู่ในอันตราย
เป็นเพราะเหตุการณ์นี้เอง น้องชายสามตระกูลหลินจึงได้รับการดูแลจากเขา
น้องชายสามตระกูลหลินเกรงว่าจะทำให้พี่สาวของเขาติดร่างแหไปด้วย เขาก็เลยแจ้งเรื่องจะย้ายบ้านกับเลขาธิการสาขาของหมู่บ้านไว้ล่วงหน้าเมื่อนานมาแล้ว
“นอกจากอิฐกับโครงสร้างพื้นฐานแล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกที่หม้อใบนี้จะเป็นของคุณนะคะ คุณเลขาธิการสาขา?” ท่านแม่หลินตั้งคำถาม
“ผมเข้าไปในเมืองและเห็นคนบางคนอยากเอาหม้อมาแลก ผมก็เลยได้มันกลับมา ที่บ้านผมมีหม้ออยู่ใบหนึ่งแล้ว ก็เลยไม่ได้ใช้งานหม้อใบนี้ ผมเลยตั้งใจว่าจะมอบให้กับผู้อาวุโสสูงสุดในอนาคต แต่ลูกชายคนที่สามของคุณต้องรีบใช้ไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นผมเลยยกให้เขาไปก่อน” เลขาธิการสาขาของหมู่บ้านอธิบาย
คนในตระกูลหลินถึงกับเงียบไป
มันก็แค่ช่วยเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? คุณต้องเป็นห่วงเขามากขนาดนี้เลยหรือยังไง?
แต่ถึงเป็นแบบนี้ ชาวบ้านทั้งหลายต่างยกย่องสรรเสริญเลขาธิการสาขาของหมู่บ้าน
การกระทำของเลขาธิการสาขาของหมู่บ้านแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ ยิ่งกว่านั้นเด็กคนนั้นที่น้องชายสามตระกูลหลินช่วยดึงขึ้นจากน้ำยังเป็นหลานชายของเขา เขาจะไม่ตอบแทนบุญคุณอีกฝ่ายได้อย่างไร?
ไม่นานนัก น้องชายสามตระกูลหลินก็ได้ย้ายออกจากบ้านใหญ่อย่างสะดวกตามที่เห็น
ตอนนี้เขาย้ายออกจากบ้านตระกูลหลินแล้ว เขาจึงไม่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับคนที่เหลืออีก
เมื่อน้องชายสามตระกูลหลินมาเยี่ยมและพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเขาก็ฉายแววปิติยินดีอย่างเห็นได้ชัด
การไม่ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในตระกูลหลินช่างเป็นเรื่องที่วิเศษนัก หลินชิงเหอเองก็รู้สึกดีใจไปกับเขาด้วย
การย้ายออกจากบ้านใหญ่หมายความว่าพวกเขาจะไม่ต้องทนอยู่อย่างเบียดเสียดกับคนอื่น ต่อให้ในสามมื้อจะไม่ได้กินอะไร มันก็ยังทำให้คนในครอบครัวมีความสุขอยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...