และในตอนนี้เองท่านแม่โจวก็เชื่อหมดใจว่าการที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองเรียนเก่งมันต้องเป็นเพราะแม่ของพวกเขาแน่ ๆ
ตระกูลโจวไม่มีพรสวรรค์ในการศึกษาเลย
อย่างเช่นโจวเซี่ยลูกชายของสะใภ้รองก็มีผลการเรียนในระดับกลาง ๆ
และที่มันเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเจ้ารองช่วยสอนให้เขา ไม่อย่างนั้นไม่ต้องพูดเลยว่าเขาจะมีผลการเรียนแย่ขนาดไหน อีกอย่างหนึ่งคือตอนที่เขากลับมาบ้าน เขาก็เอาแต่เล่นและไม่ทบทวนบทเรียนเลยสักนิด จนแม่ของเขาวิ่งไล่กวดและตะโกนด่าหาว่าเขาล้างผลาญเงิน หากเขาสอบเข้าไม่ได้ในอนาคตก็ไม่ต้องเรียนแล้ว
ในตอนนี้มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะมีระดับคะแนนที่ดีเพื่อจะได้เลื่อนชั้น ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะได้เรียนซ้ำชั้นอีกปีหนึ่ง
โจวเซี่ยไม่ได้ตกต่ำถึงขนาดต้องเรียนซ้ำชั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถจะสอบได้คะแนนเต็มเหมือนกับเจ้ารองได้
จนกระทั่งการเก็บเกี่ยวฤดูร้อนมาถึง การเรียนของหลินชิงเหอจึงชะลอลง
แต่ต้องบอกว่าเธอเรียนตำราระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นทั้งหมดจนเข้าใจกระจ่างแล้ว และเรียนเนื้อหาวิชาของระดับมัธยมปลายปีแรกไปเกือบหมดแต่ยังไม่ได้เรียนระดับมัธยมปลายปีต่อ ๆ ไปอีก 2 ปี เธอเห็นว่ามันยังมีเวลาอยู่ก็เลยชะลอการเรียนลง
การเก็บเกี่ยวฤดูร้อนช่างวุ่นวายนัก ต่อให้หลินชิงเหอทบทวนบทเรียนอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องหลักที่ต้องทำยังคงเป็นการดูแลโจวชิงไป๋
นับตั้งแต่การเก็บเกี่ยวฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้น หลินชิงเหอก็สั่งนมเพิ่มหนึ่งขวดทุกวัน แล้วมันก็กลายเป็นหมั่นโถวนมให้เขากับท่านพ่อโจวกินในตอนเช้าก่อนจะออกไปทำงาน
อาหารแสนอร่อยสามมื้อในหนึ่งวัน บวกกับถั่วเขียวต้มน้ำตาลข้นหนืดในตอนเที่ยง
อาหารแบบนี้ทำให้การเก็บเกี่ยวฤดูร้อนอันแสนเหน็ดเหนื่อยผ่านไปได้อย่างปลอดภัยในปีนี้
แต่ยังมีคนบางคนเผชิญอาการลมแดดอยู่ ซึ่งต้านีลูกสาวของสะใภ้ใหญ่เผชิญกับอาการนี้ หลินชิงเหอจึงให้ยากับหล่อน สะใภ้ใหญ่อยากจ่ายคืนให้เธอ แต่หลินชิงเหอก็ไม่รับ
พูดถึงต้านี ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว หลินชิงเหอได้ยินท่านแม่โจวพูดว่าตอนนี้สะใภ้ใหญ่เริ่มช่วยต้านีมองคนที่เหมาะจะมาเป็นคู่ครองที่ดีแล้วด้วย
แต่หลังจากคำนวณเวลาดูแล้ว พบว่าปีนี้ต้านีอายุ 16 ปี ซึ่งตามธรรมเนียมขั้นแรกของการแต่งงานในยุคนี้จะเป็นการเริ่มหาคู่ตอนอายุ 16 ปี
จากนั้นพวกเขาจะหมั้นกันก่อน แล้วรอจนกระทั่งอายุ 18 ปีถึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการแต่งงานออกจากบ้านเดิมไป
พวกเขายังให้ทางครอบครัวฝ่ายชายมาเยี่ยมเป็นบางครั้งบางคราวเพื่อช่วยงานหรืออะไรบางอย่างด้วย
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องปกติของชุมชนในชนบท เรื่องที่ลูกเขยจะมาช่วยงานด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้ว่าที่พ่อตาปริปากเอ่ย
หลังการเก็บเกี่ยวฤดูร้อนเสร็จสิ้น สะใภ้ใหญ่ก็ได้เลือกลูกเขย
เขาเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เป็นคนจากตระกูลหวัง
แม้คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านโจวเจี่ยจะมีแซ่โจว แต่หนึ่งในสามของพวกเขาก็มีแซ่อื่น
คู่ของโจวต้านีเป็นชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเธอ 1 ปี ปีนี้เขามีอายุเพียง 17 ปี มีความสูงอยู่ในมาตรฐาน ไม่มากกว่า 170 เซนติเมตร นับว่าตระกูลหวังเป็นครอบครัวที่ดีไม่น้อย
เขามีพี่น้องเพียง 2 คน ซึ่งนับว่าไม่มากนัก อย่างน้อยหลังจากที่พวกเขาแต่งงานแล้วก็สามารถแยกไปอยู่ในห้องแยกเล็ก ๆ ภายในบ้านได้
สองครอบครัวติดต่อกันเป็นการส่วนตัว ส่วนเรื่องอื่นนั้นเห็นได้เพียงผิวเผิน
ตอนนี้พวกเขายังเด็กนัก ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงไม่พูดอะไรมากในตอนนี้และรอจนกว่าเด็ก ๆ ของพวกเขาจะโตขึ้นถึงจะมีการพูดคุยกัน
ซึ่งตอนนี้วิธีหาคู่แบบนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม
หลินชิงเหอรู้สึกว่ามันเร็วเกินไปสำหรับเรื่องแบบนี้ ตอนเธออายุ 16 เธอยังเรียนชั้นมัธยมอยู่เลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่พูดอะไร
เด็กสาวคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวของเธอ แต่เป็นลูกสาวของสะใภ้ใหญ่ แม้แต่ท่านแม่โจวที่เป็นแม่สามีก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ดังนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของทางนั้นไปเถอะ
สะใภ้ใหญ่มีสายตาดีไม่น้อย คนที่หล่อนเลือกช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยม
หลังการเก็บเกี่ยวฤดูร้อนเสร็จสิ้นก็มีการแจกจ่ายธัญพืชกัน
หลินชิงเหอขอให้น้องชายสามตระกูลหลินมาช่วยเหมือนกับปีที่ผ่านมา เธอให้อาหารในส่วนของเขาเพิ่มเติมกับน้องชาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...