ในการเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงครั้งนี้เอง โจวชิงไป๋ก็ได้โชคชั้นใหญ่
เข้าสู่การเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงได้ไม่กี่วัน ชายหนุ่มก็จับกระต่ายป่าตัวอ้วนได้ตัวหนึ่ง
กระต่ายป่าน้ำหนักหลายชั่งตัวนี้ทำให้ทุกคนในฝ่ายผลิตต่างรู้สึกอิจฉา
ในสองหรือสามปีที่ผ่านมา โจวชิงไป๋จับกระต่ายได้ในช่วงการเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงทุกครั้ง ต้องบอกว่าเขามีความสามารถมากทีเดียว
คนอื่น ๆ ในฝ่ายผลิตก็จับกระต่ายได้เหมือนกัน แต่ให้พูดตามตรง มันก็ไม่เหมือนกับโจวชิงไป่ที่จับได้หนึ่งตัวทุกปี
โจวชิงไป๋หิ้วกระต่ายอ้วนกลับบ้านและจัดการชำแหละด้วยตัวเอง
จากนั้นหลินชิงเหอก็รับมันมาตุ๋นต่อ
กระต่ายในปีนี้มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ มันถูกตุ๋นรวมกับมันฝรั่ง กลิ่นหอมน่ารับประทานของมันทำให้ผู้คนที่แอบดมกลิ่นอยู่ตามหลืบมุมกินข้าวได้ 2 ชามเลยทีเดียว
แต่ปีนี้โจวชิงไป๋โชคดีกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา พอถึงกลางเทศกาลเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ร่วง เขาก็จับกระต่ายได้อีกตัว และเป็นกระต่ายตัวอ้วนเป็นพิเศษเหมือนกัน
ลืมตัวก่อนหน้าไปได้เลย ตัวนี้เป็นตัวที่ต้องเก็บไว้สำหรับครอบครัวเท่านั้น
สำหรับกระต่ายตัวนี้ หลินชิงเหอก็ได้ตุ๋นมันรวมกับมันฝรั่ง จากนั้นก็ส่งกระต่ายตุ๋นชามหนึ่งไปให้ครอบครัวของสะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง และสะใภ้สาม
แน่นอนว่าในชามนั้นมีมันฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ มีเนื้อกระต่ายอยู่ไม่มากนักเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น แต่มันก็ยังมีน้ำแกงในปริมาณมากที่มีรสชาติดียิ่งหากกินกับอาหารจานหลัก
ความสัมพันธ์ระหว่างหลินชิงเหอกับสะใภ้รองยังคงราบเรียบ แต่หลินชิงเหอยังมีความรู้สึกที่ดีกับพี่ชายรองอยู่
ดังนั้นต่อให้เธอจะไม่อยากให้สะใภ้รอง เธอก็ยังส่งส่วนแบ่งนี้ไปให้ด้วยเพราะเห็นแก่พี่ชายรอง นอกจากกระต่ายตุ๋นชามหนึ่งแล้วก็ไม่มีอะไร ส่วนใหญ่ในชามนั้นมีแต่มันฝรั่ง และมีเนื้อกระต่ายอย่างมาก 5 ถึง 6 ชิ้น
แม้แต่มันฝรั่งอย่างเดียวก็นับว่าอร่อยอย่างยิ่งแล้ว มันทั้งนุ่มลื่นและมันย่อง ฉ่ำไปด้วยรสชาติจากเนื้อกระต่าย ซึ่งกระตุ้นความอยากอาหารได้มากเป็นพิเศษ
“ทำไมอาสะใภ้สี่เอามาให้น้อยจังเลยล่ะ? พวกเขาจับกระต่ายมาได้ตัวใหญ่ขนาดนั้นแต่ครอบครัวเราได้รับแค่เนื้อกระต่ายไม่กี่ชิ้นเนี่ยนะ” โจวลิ่วนีเอ่ยขึ้น
โจวซานนีได้ฟังก็ตำหนิเธอ “อาสะใภ้สี่เต็มใจให้มาแต่เธอยังดูถูกอีกเหรอ? ป้าสะใภ้ใหญ่กับป้าสะใภ้สามก็ได้แบบนี้เหมือนกัน คนเยอะขนาดนี้จะให้ได้เนื้อก้อนใหญ่ได้อย่างไรล่ะ?”
“ที่หนูกินมันไม่ใช่ส่วนของพี่นี่ ทำไมพี่ต้องร้อนตัวด้วย” โจวลิ่วนีเถียงกลับอย่างจงใจ
“ถ้าเธอเห็นว่ามันน้อยก็อย่ากินสิ เอามาให้พี่กินแทน” โจวเซี่ยบอก
“ฝันไปเถอะ!” โจวลิ่วนีรีบเขมือบส่วนของเธอในทันที
สะใภ้สองทำเพียงมองด้วยความเงียบงัน หล่อนไม่ได้แตะอาหารจานนี้เลย
ส่วนพี่ชายรองนั้นไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่น้อย เขาเขมือบลงไปราวกับหมาป่าหิวโหย หลังทำงานมาทั้งวันและได้กินแค่แป้งจี่ในตอนกลางวัน เขาก็หิวมากเสียจนท้องร้องโครกครากอยู่นาน เขาจะสนใจกับเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างไรล่ะ?
หลังกินเสร็จ พี่ชายรองก็ระบายลมหายใจ เขาเอ่ยขึ้นอย่างพึงพอใจ “เนื้อกระต่ายนี่มันอร่อยจริง ๆ”
“ทำไมพ่อจับกระต่ายกลับมาไม่ได้เหมือนคุณอาสี่ล่ะครับ” โจวเซี่ยถามพ่อ
“ลูกคิดว่ากระต่ายมันจับง่ายเหรอ” พี่ชายรองตอบ
ด้วยความเร็วของกระต่ายแล้ว ขนาดคนที่ถูกฝึกมาอย่างอาสี่ยังจับได้แค่ทีละตัว แล้วมันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอื่น ๆ ได้อย่างไร?
เขาต้องบอกว่าเนื้อกระต่ายนี้มันอร่อยเลิศมากเลยจริง ๆ
แต่มันก็มีไม่มากนัก แต่ละครอบครัวได้กันคนละไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
พี่ชายใหญ่กับพี่ชายสามต่างเคี้ยวกลืนเนื้อกระต่ายลงไป แม้มันจะมีจำนวนไม่กี่ชิ้น แต่ก็ไม่มีใครแสดงอาการดูถูก
สะใภ้ใหญ่กับสะใภ้สามต่างพากันไปขอบคุณหลินชิงเหอด้วยตัวเอง
หลินชิงเหอไม่กล่าวอะไร เธอแนะนำให้พวกหล่อนทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลสำหรับพี่ชายใหญ่และพี่ชายสาม
หลินชิงเหอยังคงทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลนี้ทุกวัน
ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะข้นขนาดไหน แต่ถั่วเขียวต้มน้ำตาลกลิ่นหอมละมุนชามหนึ่งก็ระบายความร้อนในร่างกายได้เสมอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...