ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 180

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 180
บทที่ 180 มีสายตาไม่ธรรมดา
โดย
EnjoyBook
บทที่ 180 มีสายตาไม่ธรรมดา

หลินชิงเหอไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน เรื่องนี้มันทลายขีดต่ำสุดของสามัญสำนึกเธอไปเลยทีเดียว

เหตุการณ์นี้ได้ถูกจัดการด้วยวิธีนี้แล้ว ถึงมันจะเป็นที่เล่าลือกันไปในรัศมีสิบลี้ แต่ก็ไม่มีใครมาจับกุมคนทั้งสอง

มีเรื่องอะไรให้ต้องจับกุมด้วยล่ะ? เพื่อจะให้หม่าสามมีลูกชายได้ สองสามีภรรยาชราตระกูลหม่าจึงให้หวังหลิงไปขอยืมน้ำเชื้อจากน้องชายสามีมาก็เท่านั้น

แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลินชิงเหอเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าประเพณีบางอย่างในชนบทมันช่างล้าหลังจริง ๆ

นับว่าผู้คนมีความอดทนกับเรื่องแบบนี้ค่อนข้างดีทีเดียว

ดังนั้นในชนบทมันมีอะไรที่มากกว่าความบริสุทธิ์เรียบง่ายสินะ

หลินชิงเหอไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป

ตัวเธอในตอนนี้ต้องขี่จักรยานไปสอนหนังสือในทุกเช้า มันช่างหนาวเข้ากระดูกเหลือเกิน

โดยไม่ทันสังเกต โจวชิงไป๋ก็ได้นำกระเป๋าน้ำร้อนธรรมดาจากในอำเภอมาให้เธอใช้

เมื่อเติมน้ำร้อนเข้าไป กระเป๋าน้ำร้อนนี้มันก็เก็บความอบอุ่นไว้ได้ยาวนาน เมื่อนำมาติดไว้ที่แขนมันก็ช่วยคลายหนาวไปได้

ตอนนี้โจวชิงไป๋ไม่ต้องไปทำงาน เขาจึงเป็นคนขี่จักรยานไปส่งหลินชิงเหอในทุกเช้า หลินชิงเหอไม่ยอมให้เขามาส่ง เพราะไม่จำเป็นที่คนอีกคนจะต้องออกมาเผชิญกับอากาศเย็น แต่เขาก็ยังยืนกรานว่าจะเป็นคนไปส่ง หลินชิงเหอจึงต้องยอม

“คุณครูหลิน สามีคุณช่างรักคุณมากเหลือเกินนะคะ” คุณครูสวี่ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับหลินชิงเหอเอ่ยความเห็นด้วยรอยยิ้มหลังเห็นโจวชิงไป๋กลับไปแล้ว

คุณครูสวี่คือครูผู้หญิงที่อยู่ในห้องนั้นด้วยตอนที่หลินชิงเหอสยบบรรดาบัณฑิตหนุ่มสาวทั้งหลาย

หล่อนเองก็เป็นบัณฑิตสาวคนหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นคนที่อาวุโสที่สุดด้วย แต่ตอนนี้หล่อนแต่งงานแล้วกับเสนาธิการหมู่บ้าน ซึ่งนับว่าฐานะดีไม่น้อย

หลินชิงเหอยิ้ม “เขาแค่ว่างจนไม่มีอะไรทำน่ะค่ะ”

เธอไม่เอ่ยเรื่องนี้มากนัก จากนั้นก็พูดต่อ “ปีนี้เมื่อไหร่เราจะมีวันหยุดล่ะคะ? อากาศหนาวจัดขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เด็ก ๆ จะมาเรียนหนังสือเลยนะคะ”

การจะมาที่ตัวตำบลได้ คนที่อยู่ในหมู่บ้านไกลที่สุดต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 2 ชั่วโมง

“อีกไม่นานล่ะค่ะ” คุณครูสวี่ตอบ

พวกเขาไม่มีทางเลือกท่ามกลางอากาศหนาวขนาดนี้หรอก ไม่มีใครอยากออกจากบ้านเลย แต่เพื่อแต้มค่าแรงและเงินเดือนแล้วพวกเขาจึงต้องมา

แม้ในห้องเรียนจะมีเตาถ่านอยู่ แต่มันก็ยังหนาวเย็นยะเยือกอยู่ดี หลินชิงเหอเห็นเด็กบางคนมีใบหน้าคล้ำลงจากความเย็นมาแล้ว

เด็กที่ไม่ได้กลับบ้านในตอนกลางวันจะได้กินแป้งจี่แข็ง ๆ หรือไม่ก็ของอย่างอื่น

หลินชิงเหอทนไม่ได้จึงต้มน้ำร้อนให้หม้อหนึ่ง จากนั้นก็พบว่าไม่มีแก้วเลยสักใบ

ต้องบอกว่าการเกิดเป็นเด็กในยุคนี้ช่างทุกข์ทรมานนัก เด็กรุ่นหลังจินตนาการไม่ออกหรอกว่าช่วงยุคนี้มันลำบากยากเข็ญขนาดไหน

โจวชิงไป๋มารับเธอกลับในตอนเที่ยงวัน ขณะที่หลินชิงเหอนั่งซ้อนท้ายจักรยานกลับบ้านเธอก็เอ่ยขึ้นมา “ที่บ้านเรามีแก้วเคลือบที่ไม่ได้ใช้แล้วไหมคะ?”

“หือ?” โจวชิงไป๋ขานรับ

“บ่ายวันนี้ฉันกะจะเอาไปด้วยน่ะค่ะ นักเรียนของฉันจะได้ใช้” หลินชิงเหออธิบาย

“ได้สิ” โจวชิงไป๋ไม่คัดค้าน

เมื่อหลินชิงเหอกลับมาถึงห้องเรียนในตอนบ่าย เธอก็นำแก้วเคลือบมาด้วย นักเรียนแต่ละคนผลัดกันดื่มน้ำอุ่น ต้องบอกว่าน้ำอุ่นหนึ่งแก้วทำให้สีหน้าของทุกดีขึ้นจริง ๆ

“พรุ่งนี้ทุกคนเอาขิงมาจากบ้านด้วยนะ ผลัดกันเอามาครั้งละคน เอามาคนละ 1 ชิ้นไม่ต้องเยอะ ครูจะได้หั่นทำน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ดื่ม” หลินชิงเหอบอกพวกเขา

ขิงเป็นของที่ไม่แพงเลย ทุกบ้านล้วนมีมันอยู่

บรรดานักเรียนต่างเห็นด้วย ดวงตาของพวกเขาที่มองเธอเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อหญิงสาวเข้ามาในห้องพักครู ครูปีสองคนหนึ่งก็ถามหลินชิงเหอในเรื่องนี้

“มันไม่มีทางเลือกนี่คะ แป้งจี่ที่เด็ก ๆ พวกนั้นกินไม่ต่างจากหินแข็ง ๆ เลย แล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นด้วย ฉันก็เลยอยากให้พวกเขามีอะไรจิบแก้ฝืดคอบ้าง” หลินชิงเหอบอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม