เช้าวันต่อมา โจวชิงไป๋ก็ต้มโจ๊กเสร็จเรียบร้อย
วันนี้พวกเขากินโจ๊กข้าวฟ่างเคียงกับไข่เค็ม ซึ่งไข่เค็มเป็นสูตรเฉพาะตัวของหลินชิงเหอด้วยเช่นกัน น้ำมันในไข่ค่อนข้างสูงจนเยิ้ม
ทั้งครอบครัวกินกันอย่างมีความสุข
“พ่อครับ วันนี้พ่ออยากขึ้นเขาไปล่าไก่ฟ้าหรือเปล่า?” เจ้าใหญ่เอ่ยชวนพ่อ ขณะดวงตาของเจ้ารองกับเจ้าสามเป็นประกาย
ดวงตาของซูเฉิงน้อยเองก็เป็นประกายระยับด้วยเช่นกัน แต่เขาเด็กเกินกว่าที่จะไป ก็เลยจะถูกส่งให้ไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าของเขาในภายหลัง
“ได้สิ” โจวชิงไป๋เหลือบมองภรรยาขณะเอ่ยตอบ
สิ่งที่หลินชิงเหอเล่าเมื่อคืน เขาไม่เก็บมาใส่ใจนักในวันนี้ ซึ่งหลินชิงเหอก็เข้าใจโจวชิงไป๋ดีอยู่ เธอต้องให้เวลาเขาได้ตกผลึกความคิดสักหน่อยถูกไหมล่ะ?
เขาอาจกินเธอจนเกลี้ยงบนเตียงเตาได้ตามที่เขาต้องการ มากกว่านั้นยังแสดงอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ บอกว่าเธอเป็นภรรยาของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาต้องรู้สึกแปลกประหลาดอยู่ในใจบ้างสิถูกไหม?
หลังกินอาหารเสร็จ โจวชิงไป๋ก็พาเด็กชายสามพี่น้องออกไปล่าไก่ฟ้า ซึ่งมันก็มีอีกคำหนึ่งที่ไว้ใช้เรียกการล่าไก่ฟ้า นั่นก็คือการเก็บไก่ฟ้า
ในวันหิมะตก ไก่ฟ้าจะตัวแข็งหลังเหน็ดเหนื่อยจากการถูกไล่ตาม ในตอนนั้นเองมันก็จะหยุดนิ่งและปล่อยให้ตัวเองโดนจับ ดูเหมือนกับการเก็บมันขึ้นจริง ๆ
หลินชิงเหอปล่อยให้พวกเขาทำตามใจชอบ หลังแน่ใจว่าทั้งพ่อและลูก ๆ เกาะกลุ่มกันดีแล้วก็ปล่อยให้พวกเขาออกจากบ้าน
แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกจากบ้านไป โจวชิงไป๋ก็ได้คว้าตัวเธอมาจูบอย่างดูดดื่มเนิ่นนานครั้งหนึ่ง ทำให้เธอถึงกับหน้าแดงและใจเต้นแรง
พวกเขาออกไปกันหมดแล้ว หลินชิงเหอจึงเดินกลับไปทบทวนตำราภาษาอังกฤษตามลำพัก ขณะที่ซูเฉิงน้อยถูกส่งไปยังบ้านของท่านแม่โจว
แม้เธอจะเกือบคืนความรู้ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่ก็ยังมีพื้นฐานจากเมื่อก่อนอยู่บ้าง ตราบใดที่รู้ว่าแต่ละคำอ่านออกเสียงอย่างไรมันก็คงไม่เป็นไร
หลังจำศัพท์ได้ 20 คำ และ 10 ประโยคในครั้งเดียว หลินชิงเหอก็เข้าครัวเพื่อหุงหาอาหารขณะท่องจำศัพท์ไปด้วย
ในชีวิตชาติที่แล้วเธอไม่คิดเลยว่าจะได้เป็นภรรยาและแม่ที่ดีแบบนี้?
พ่อและลูกชายทั้งสามเพิ่งออกจากบ้านไม่นาน ส่วนเธอเริ่มเตรียมอาหารอร่อย ๆ รอให้พวกเขากลับมากิน เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำงานหนักอยู่แล้ว
หลินชิงเหอนึ่งถั่วแดงเท่าที่จำเป็นเพื่อเตรียมทำโรลถั่วแดงหนึ่งหม้อ
โรลถั่วแดงมีรสชาติดี ทั้งครอบครัวล้วนชอบกิน
ขณะที่เธอทำโรลถั่วแดงอยู่นั้น สะใภ้ใหญ่ได้มาเยี่ยมพอดี เมื่อเห็นสะใภ้สี่กำลังทำอาหารอีกครั้งหล่อนก็รู้สึกชื่นชม
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหยางหยางกับเด็กคนอื่น ๆ ถึงบอกว่าอาสะใภ้สี่ทำอาหารอร่อยที่สุดและอยากจะเป็นลูกของเธอ” สะใภ้ใหญ่หัวเราะ
หลินชิงเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่โอกาสสำคัญอะไรหรอกค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่เองก็ทำได้นะคะตอนที่มีเวลาว่าง”
“มันยากไปหน่อยน่ะ” สะใภ้ใหญ่ตอบ
“ในเมื่อพี่ว่างแล้วและไม่มีอะไรอย่างอื่นทำ มันก็เป็นโอกาสดีที่จะทำอาหารให้พี่ชายใหญ่กับเด็ก ๆ มากขึ้นนะคะ ตลอดทั้งปีพี่มีเวลาพักตอนนี้ ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้ทำอาหารอร่อย ๆ บำรุงพวกเขาหน่อยล่ะคะ? แล้วพี่จะทนงานหนักตลอดทั้งปีไหวเหรอ?” หลินชิงเหอเอ่ยโน้มน้าวขณะที่มือก็ง่วนอยู่กับการทำอาหาร
“ที่บ้านพี่ก็เป็นแบบนี้แหละจ้ะ” สะใภ้ใหญ่ไม่สนใจ
“เป็นเรื่องดีนะคะที่จะรักสามีของพี่ให้มากขึ้น” หลินชิงเหอยืนกราน
เธอไม่สนใจว่าคนอื่นจะทำอย่างไร อย่างไรก็ตามที่บ้านของเธอต้องมีอาหารทั้งสามมื้อให้โจวชิงไป๋ เพื่อที่เขาจะได้รับสารอาหารเพียงพอ
ในยุคนี้ไม่มีอาหารเสริมอะไรหรอก หากเป็นในอนาคต เธอคงจะซื้อกระเพาะปลาหรือไม่ก็รังนกมาบำรุงเขาได้ ในยุคนี้พวกเขาไม่มีของดีแบบนั้นหรอก หากเธอไม่ใส่ใจลงไปกับการทำอาหารสามมื้อต่อวัน มันก็เหลือกำลังที่จะบำรุงเขา
สะใภ้ใหญ่เห็นด้วยกับที่เธอบอก “งั้นพี่จะทำอาหารดี ๆ ถ้ากลับถึงบ้านแล้วนะจ๊ะ”
หลินชิงเหอหัวเราะ เธอแค่แสดงความคิดเห็นของเธอเท่านั้น “พี่สะใภ้ใหญ่อย่าประหลาดใจไปเลยค่ะ ฉันก็แค่พูดขึ้นมา ฉันเป็นห่วงสภาพร่างกายของชิงไป๋น่ะค่ะ พี่เองก็รู้ว่าทำไมเขาถึงลาออก ถึงร่างกายของเขาจะดูแข็งแรง เขาก็สู้พี่ชายใหญ่กับคนอื่น ๆ ไม่ได้หรอกค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...