หลินชิงเหอกับครูคนอื่น ๆ ก็ได้หยุดการสอนเหมือนกัน แต่ละคนต่างได้รับส่วนแบ่งอาหาร 30 ชั่ง เช่นเดียวกับคูปองอาหารและคูปองผ้า
หลินชิงเหอคิดว่ามันดีไม่น้อย เธอจึงพาเจ้าใหญ่กลับบ้าน ทันทีที่ถึงบ้าน พวกเขาก็พบว่าโจวชิงไป๋ไม่อยู่
“เขาเดินทางเข้าอำเภอไปน่ะ” ท่านแม่โจวอธิบาย
หลินชิงเหอจึงปล่อยให้โจวชิงไป๋ไป เช้านี้เธอตื่นขึ้นมาและทาครีมบำรุงผิวให้เขาแล้ว จริง ๆ เลยนะชายคนนี้ ถ้าเธอไม่ทาครีมให้เขา เขาก็ไม่ทาเองจริง ๆ
หลินชิงเหอคิดว่าเขาคงแอบเรียกร้องความสนใจอยู่ ต่อให้เขาไม่ได้เอ่ยออกมาก็ตาม
โจวชิงไป๋กลับมาในตอนเย็น เมื่อเขากลับมาถึง เขาก็นำเนื้อลูกแกะจำนวนหนึ่งจากความช่วยเหลือของสหายที่รู้จักกลับมาด้วย
เนื้อลูกแกะที่นี่นับว่าหายากอย่างยิ่ง หากไม่มีเส้นสายกับใครแล้วก็ยากที่จะได้มา
แต่ตอนนี้เขาได้มาแล้ว หลินชิงเหอจึงไม่รีรอ เธอทำแกงเนื้อลูกแกะตุ๋นกับหัวไชเท้าทันที
เธอไม่ได้ขี้เหนียวและส่งแกงเนื้อลูกแกะชามใหญ่ไปให้สะใภ้ทั้งสาม ซึ่งแต่ละชามมีหัวไชเท้าจำนวนมากและเนื้อลูกแกะอยู่นิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นการแสดงน้ำใจของเธอ
ต่อให้เป็นสะใภ้รอง หล่อนก็ยังมีความใส่ใจ เมื่อสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้สามมาเยี่ยมที่บ้านสะใภ้สี่ หล่อนก็ฝากงา 2 ชั่งกับสะใภ้ใหญ่ส่งไปให้สะใภ้สี่ เนื่องจากหล่อนไม่ได้มาด้วย
หลินชิงเหอรับไว้อย่างไม่ถือสา
เมล็ดงาในบ้านของเธอหมดไวมาก ก่อนฤดูหนาวปีนี้เธอก็ให้ท่านแม่โจวบดงาบดจำนวนมากแล้วนำไปเก็บไว้
ในบางครั้งเธอจะทำซุปงาบดให้ทุกคนกินเป็นอาหารว่าง
แกงลูกแกะนี้อุดมด้วยสารอาหารอย่างมาก โจวชิงไป๋รู้สึกว่าร่างกายของเขาดีขึ้นหลังกินเข้าไป หลินชิงเหอเองก็ชอบกินเหมือนกัน
ในวันที่แปดของเดือนสิบสองทางจันทรคติ ซูต้าหลินก็กลับมาพร้อมกับอาหารและไข่จำนวนมาก
ส่วนโจวเสี่ยวเม่ยไม่ได้กลับมาด้วยเพราะว่าตั้งครรภ์อยู่ ทำไมหล่อนจะต้องมาในสภาพอากาศหนาวเยือกและเต็มไปด้วยหิมะนี่ด้วยล่ะ?
พูดอีกอย่างหนึ่งคือในปีนี้ซูต้าหลินกับโจวเสี่ยวเม่ยจะไม่กลับมาร่วมฉลองปีใหม่ที่ชนบท แต่ซูต้าหลินจะกลับมาพาซูเฉิงน้อยกับซูสวิ่นน้อยกลับบ้านเมื่อเวลานั้นมาถึง ตอนนี้เขายังไม่ได้หยุดงาน มันจึงต้องรอไปก่อนระยะหนึ่ง
หลินชิงเหอไม่กล่าวอะไร เธอครุ่นคิดหนักถึงความจริงที่ว่าทุกคนในสังคมนี้ต่างมีสุขภาพดีจากการได้กินธัญพืชหยาบ
ดูอย่างคู่รักคู่นี้สิ พวกเขาบอกว่าอยากได้ลูกก็มีลูกทันที
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ๆ เลย แม้แต่ไฉ่ปาเม่ยที่แต่งงานกับโจวต้งก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าปีนี้ท้องของหล่อนใหญ่ขึ้นเหรอ? หลังแต่งงานไม่นานหล่อนก็ท้องแล้ว ถ้าอย่างเร็วหล่อนก็คลอดลูกภายในปีนี้ แต่ถ้าอย่างช้าหล่อนก็จะคลอดลูกต้นปีหน้า
ไฉ่ปาเม่ยเป็นคนดีโดยแท้ หล่อนเป็นคนซื่อสัตย์คนหนึ่งและเหมาะสมกับโจวต้งไม่น้อยในการที่หล่อนใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
โจวต้งไม่ใช่เด็กเหมือนที่เคยเป็นแล้ว ตอนนี้เขาเป็นชายหนุ่มนิสัยดีคนหนึ่งที่ทำงานได้แต้มค่าแรง 10 แต้ม และเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดในหมู่บ้านเลยทีเดียว
มากกว่านั้นการที่เขาได้เป็นเขยของตระกูลไฉ่ก็ทำให้ทั้งหมู่บ้านโจวเจี่ยไม่กล้าดูถูกเขา
ในตอนนี้เองซูต้าหลินก็มาถึง เขานำนมผงมาด้วยถุงหนึ่ง ปกติเธอซื้อนมผงให้เจ้าใหญ่กับคนอื่น ๆ กินโดยที่ซูเฉิงกับน้องชายของเขาก็ได้รับส่วนแบ่งด้วย ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้รับนมผงถุงนี้ หลินชิงเหอก็แบ่งให้เจ้าใหญ่กับเด็กคนอื่น ๆ ได้ดื่มด้วยกัน
โดยไม่มีความรู้สึกเกรงใจหรือความรู้สึกผิดเลย
“ผมคุย…กับเสี่ยวเม่ยแล้ว…ว่าในอนาคต…เมื่อเจ้าใหญ่เข้าโรงเรียน…โรงเรียนมัธยมปลาย…เขาก็จะได้…มาอยู่ที่บ้านผม…ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โรงเรียน…น่ะครับ” ซูต้าหลินบอกเจตจำนงของเขาให้ฟัง
หลินชิงเหอยิ้ม “มันคงจะดีนะคะถ้าให้เจ้าใหญ่ค้างอยู่ที่โรงเรียน”
“พี่สะใภ้…สี่…อย่าทำกับว่า…เราเป็นคนนอก…เลยครับ…ให้เจ้าใหญ่…ไปอยู่ที่บ้านผมเถอะ…ผมว่ามันดีกว่า” ซูต้าหลินเอ่ยอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...