ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 208

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 208 ไก่ฟ้า
บทที่ 208 ไก่ฟ้า
โดย
EnjoyBook
บทที่ 208 ไก่ฟ้า

“สะใภ้รองจะประหยัดเกินไปแล้ว เสื้อผ้าของเซี่ยเซี่ยบางไม่กันความหนาวออกขนาดนั้น ทำไมหล่อนถึงไม่ทำเสื้อผ้าหนา ๆ สักตัวนะ” ท่านแม่โจวหันมาเอ่ยกับท่านพ่อโจว

“แต่นี่ก็ยังดีกว่าพ่อของเขาตอนยังเด็กนะ” ท่านพ่อโจวไม่ใส่ใจ

หลานของพวกเขามีชีวิตที่ดีกว่ารุ่นพ่อของพวกเขาเยอะ อย่างน้อยพวกเขาก็มีกินอิ่มร้อยละเจ็ดสิบถึงแปดสิบ

ในอดีต การได้กินอิ่มเพียงครึ่งหนึ่งนับว่าดีมากแล้ว

“มันดีกว่าตอนนั้นมากจริง ๆ ด้วย” ท่านแม่โจวเห็นด้วยเพราะมันเป็นความจริง

ท่านพ่อโจวเอ่ย “อย่าเทียบเซี่ยเซี่ยกับเจ้าใหญ่และน้องชายของเขาเลย นอกจากหมู่บ้านเราแล้ว เด็กบางคนในเมืองก็อาจมีชีวิตอยู่ไม่ดีเท่าพวกเขาก็เป็นได้”

เรื่องนี้เป็นความจริง จากเด็กทั้งหมดที่ท่านพ่อโจวเห็นมาทั้งชีวิต ไม่มีใครสามารถเป็นได้อย่างเจ้าใหญ่ เจ้ารอง เจ้าสาม หลานชายทั้งสามของเขาเลย

มันไม่อาจสรรหาคำใด ๆ มากล่าวเกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบนี้ได้

ว่ากันว่าเด็ก ๆ ในเมืองล้วนโชคดี แต่ท่านพ่อโจวกลับรู้สึกว่าต่อให้พวกเขาจะโชคดีขนาดไหน พวกเขาก็ไม่อาจสู้เจ้าใหญ่กับน้อง ๆ ได้

เมื่อท่านแม่โจวได้ยินดังนี้ นางก็ไม่เอ่ยอะไร

นางถูกสะใภ้สี่ล้างสมองมาเล็กน้อย ตอนนี้นางลองมาคิดดูแล้ว มันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอกหรือ

มีเด็กคนไหนในหมู่บ้านบ้างที่ไม่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างหิวโหยและเย็นชา ซึ่งนั่นก็ไม่อาจเทียบกับเจ้าใหญ่และน้อง ๆ ได้อยู่แล้ว

ชีวิตของเจ้าใหญ่กับน้อง ๆ ช่างดีเยี่ยมจนเป็นเป้าแห่งความอิจฉาของเด็กทุกคนในหมู่บ้าน

แต่ก็เป็นอย่างที่เจ้าใหญ่พูด หากอยากสวมมงกุฏแล้วก็ต้องทนรับน้ำหนักของมงกุฏให้ได้

อย่างเช่นในตอนนี้ที่เจ้าใหญ่เริ่มเรียนหนังสือในทันทีหลังกินอาหารเช้าเสร็จ แม้มันจะเป็นวันแรกของเทศกาลปีใหม่ เขาก็ยังคงเรียนต่อตามปกติ

ปีนี้อากาศหนาวเย็นเกินไป หนาวเสียจนไม่มีใครอยากจะมาเจอกัน พวกเขาทุกคนต่างหลบอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองกันหมด

ส่วนเจ้ารองกับเจ้าสามนั้นนับว่าดีกว่า ในเมื่อพวกเขาสอบเข้าไม่ทัน หลินชิงเหอก็ไม่บังคับพวกเขา ทั้งสองจึงค่อนข้างว่าง

สองพี่น้องไม่ได้อยู่เฉย ๆ เลย เมื่อเห็นว่าข้างนอกบ้านหิมะไม่ตกแล้ว พวกเขาก็ออกไปเล่น

โจวชิงไป๋ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้เช่นเดียวกัน เขาออกจากบ้านไปเพื่อดูว่าจะล่าไก่ฟ้าหรือกระต่ายได้สักตัวไหม

ทันทีที่เจ้ารองกับเจ้าสามได้ยินดังนี้ พวกเขาก็หยุดเล่นและรีบตามพ่อของพวกเขาออกจากบ้านไปในทันที

การล่าไก่ฟ้าและกระต่ายป่าถือเป็นความสนุกสนานที่ใหญ่กว่าสำหรับพวกเขาสองคน

เจ้าใหญ่เองก็อยากออกไปเหมือนกัน

“ปีนี้ลูกทนไปก่อนนะ รอจนถึงมัธยมต้นปีที่สองลูกก็เรียนตามปกติได้โดยไม่ต้องข้ามชั้นแล้ว” หลินชิงเหอปลอบเขา

เจ้าใหญ่มีเหตุมีผลอย่างมาก ปีนี้เขาอายุได้ 11 ปีแล้ว และโตเร็วมากด้วย ตอนนี้เขาสูงเลย 160 เซนติเมตรมานิดหน่อย ตัวเตี้ยกว่าหลินชิงเหอเพียงเล็กน้อย

เขาดูเหมือนโจวชิงไป๋ผู้เป็นพ่อมาก การมีหน้าตาเกินวัยเล็กน้อยทำให้เขาดูเหมือนเด็กอายุ 13 หรือ 14

หากกล่าวด้วยคำของยุคหลัง ๆ แล้ว การพัฒนาของเขานับว่าค่อนข้างรวดเร็ว

จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่หรอก

เจ้าใหญ่เป็นคนประเภทเดียวกับพ่อของเขา ตรงที่มีเสน่ห์ดึงดูดคนอื่น ๆ อย่างมาก

ตอนอายุ 17 หรือ 18 ปี เขาก็จะดูราวกับมีอายุในช่วง 20 ปี แต่ในทันทีที่เขามีอายุเกิน 25 ปี ความได้เปรียบก็จะเริ่มปรากฏ เขาจะดูมีเสน่ห์ดึงดูดต่อสายตาและหล่อเหลาได้มากกว่านี้

อย่างเช่นตัวเธอที่ตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของโจวชิงไป๋เสมอ

หล่อเหลาและสูงสง่า ทั่วทั้งหมู่บ้านแล้วก็ไม่มีใครสู้ชายผู้มีหน้าตาดีเกินมาตรฐานคนนี้ของเธอได้เลย

แม้แต่เฉินซานวายร้ายนั้นก็ไม่อาจเทียบกับชิงไป๋ของเธอได้

พูดถึงเฉินซานแล้ว ในที่สุดชายคนนี้ก็รู้จักห่างกับเธอแล้ว ในวันแรก ๆ ที่เขาได้ทำงานในโรงเรียน เขาก็มักจะหาข้ออ้างมาขอคำแนะนำด้านการเรียนกับเธออยู่เสมอ

เธอไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้ลูกชายของเธอเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมต้นแล้ว ใครจะคาดคิดกันล่ะว่าเขาจะรู้จักวางระยะห่างด้วย?

ไม่อย่างนั้นแล้วร่างกายอันบอบบางของเขาคงไม่อาจต้านทานหมัดจากชิงไป๋ของเธอได้

แต่ต้องยอมรับว่าเฉินซานเป็นนักพูดที่พูดจาลื่นไหลและยังมีความรู้กว้างขวาง เขามีลางสังหรณ์ว่าเหมือนมันจะมีการฟื้นฟูการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เขาจึงซุ่มอ่านหนังสือและเรียนหนังสือเป็นการส่วนตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม