เธอรู้จักผู้ชายของเธอดี ต่อให้เขากลับบ้านดึก เขาก็จะไม่ทำอะไรที่ผิดต่อเธอ
“ไม่มีอะไรหรอก” โจวชิงไป๋เปลี่ยนกางเกงก่อนจะมานอนกอดภรรยา
หลินชิงเหอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา หลังได้นอนไปบ้างแล้วเธอก็มีพลังฟื้นคืนมามากขึ้น และอยากทำเรื่องซุกซนกับเขาขึ้นมา
โจวชิงไป๋หัวเราะหึ ๆ และจัดให้ตามความประสงค์ไปหนึ่งรอบ หลินชิงเหอรู้สึกพอใจและกอดชายของเธอจนหลับไป
วันต่อมาเธอก็ได้ยินถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
เมื่อคืนมีคนใจกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดเข้าไปขโมยอาหารจากลานตากธัญพืชของหมู่บ้าน
ทุกวันจะมีคนเฝ้าลานตากธัญพืชอยู่เสมอ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเมื่อคืนนี้จะได้พบเห็นใครบางคนขโมยอาหาร
โจวชิงไป๋ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ได้ข่าวในเรื่องนี้ก็เข้าไปช่วยจับขโมย ยิ่งกว่านั้นขโมยคนนี้ยังเป็นคนรู้จักเก่าแก่ด้วย
เขาไม่ใช่ใครอื่นเลย แต่เป็นโจวเหอที่ถูกตอนเรียบร้อยเพราะคดีชู้สาว
จุดยืนของชีวิตเขาถูกคนอื่นทำลายจนย่อยยับแล้ว ชายคนนี้จึงปล่อยตัวปล่อยใจ ปฏิเสธที่จะทำงานทุกอย่างและกระทำความชั่วในทุกทาง
ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก
จากการให้การของยามที่เฝ้าลานตากธัญพืช เขาบอกว่าเหมือนจะเห็นความเคลื่อนไหวในตอนกลางดึกมาตั้งแต่เริ่มการเก็บเกี่ยวประจำฤดูร้อน แต่เป็นเพราะเขางีบหลับไปขณะเฝ้ายามก็เลยคิดว่ามันเป็นภาพลวงตา
อาจเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้โจวเหอได้ใจ ยิ่งรู้ว่าทางสะดวกเขาก็ยิ่งอยากได้มากกว่านี้ ในครั้งนี้เขาจึงเคลื่อนไหวอุกอาจมากขึ้น แต่ก็มีใครคนหนึ่งออกมาปลดทุกข์ในตอนกลางดึกและเจอเขาพอดี
โจวเหอรีบเผ่นหนีอย่างว่องไว เขาโชคร้ายไม่น้อยที่ได้มาเจอกับลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านกับลูกชายคนรองของตระกูลไฉ่ที่กำลังจะมาผลัดเปลี่ยนเวรยาม
เขาจึงถูกจับได้
เหตุการณ์นี้เกิดไกลจากบ้านเรือนทั้งหลาย จึงไม่มีใครได้ยินเสียง
โจวชิงไป๋เองก็เห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างจากริมตลิ่งเลยเข้าไปดู และในเมื่อเขาเป็นคนรู้เห็นแล้ว เขาจึงทำการสอบปากคำโจวเหอให้รับสารภาพต่อการขโมยอาหาร
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขากลับบ้านดึก
โจวเหอถูกควบคุมตัวไปตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้
เขาจะไม่ถูกคุมตัวไปได้ยังไงกันล่ะ? ในยุคนี้ข้อห้ามที่หนักที่สุดก็คือการกระทำเช่นนี้ ซึ่งโจวเหอได้เคยกระทำความผิดมาแล้ว และตอนนี้เขาได้ทลายไหที่แตกอยู่แล้วเพื่อขโมยอาหาร ยิ่งกว่านั้นเขายังขโมยไปหลายร้อยชั่งด้วย
หากเขาไม่ถูกลงโทษอย่างหนัก เขาก็จะเริ่มกระทำซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้ แล้วในภายภาคหน้าจะเป็นเรื่องเลวร้ายขนาดไหนล่ะ?
โจวเหอจึงเผชิญกับชะตากรรมอันน่าสลด ครั้งนี้เขาถูกส่งตัวไปปรับทัศนคติ ชีวิตของเขาไม่อาจดีขึ้นมากกว่านี้แล้ว
ด้วยเรื่องนี้เอง ชาวบ้านจึงได้วิพากษ์วิจารณ์ครอบครัวของโจวเหอ ทำให้ทั้งครอบครัวอับอายขายหน้า
หลังหลินชิงเหอได้ยินเรื่องนี้แล้วเธอก็ไม่สนใจ เธอมาส่งอาหารให้ครอบครัวในตอนบ่าย
อาหารกลางวันไม่ใช่เหลียงผี เพราะเธอจะทำในตอนเย็น ดังนั้นในตอนกลางวันจึงเป็นหมั่นโถว ถั่วงอกจานหนึ่ง และหมูผัดพริกหยวกเขียว แถมด้วยไข่ต้มคนละฟอง ทั้งยังมีซี่โครงอบกล่องหนึ่งและแกงจืดสาหร่าย
ที่เหลือเป็นต้มถั่วเขียวหม้อหนึ่งที่กรอกใส่กระติกน้ำทหาร ทำให้พวกเขาเทออกมาใส่ชามดื่มได้ตามต้องการ
แม้การเก็บเกี่ยวประจำฤดูร้อนจะไม่เหน็ดเหนื่อยเท่าการเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ร่วง แต่ก็ไม่อาจประมาทได้เหมือนกัน โดยเฉพาะแสงแดดที่แผดเผารุนแรงในฤดูนี้
ต้องบอกว่ายิ่งแดดแรงเท่าไร ทุกคนก็ยิ่งมีความสุข นั่นเป็นเพราะธัญพืชที่ตากไว้จะแห้งเร็วขึ้นหลังเก็บเกี่ยวมาแล้วและจะได้ถูกกรอกใส่กระสอบเพื่อส่งเป็นส่วนแบ่งสาธารณะ
หลังส่งส่วนแบ่งสาธารณะไปแล้ว ทุกคนก็สงบใจลง ในยุคนี้เป็นเรื่องน่าอายที่ไม่สามารถส่งส่วนแบ่งสาธารณะได้จนต้องกินอาหารบรรเทาทุกข์ ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใดก็ไม่มีหน้าจะสู้คนอื่น
ในฤดูร้อนนี้ โจวชิงไป๋ก็ได้เฝ้ารอที่จะจับกระต่าย แต่โชคไม่ดีที่ไม่มีกระต่ายให้จับ เพราะเขาไม่เห็นกระต่ายเลยสักตัว ส่วนคนอื่น ๆ เห็นกระต่ายแต่ก็จับไม่ทัน
เรื่องนี้ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกผิดหวัง พวกเขาเคยชินกับการได้กินกระต่ายไปแล้ว ในช่วงเก็บเกี่ยวฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงทุกครั้งพวกเขาจะได้กินกระต่าย แต่ในการเก็บเกี่ยวฤดูร้อนครั้งนี้กลับไม่ได้กิน
ส่วนบรรดาผู้ใหญ่ไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขากำลังตั้งความหวังไว้กับการรวบรวมธัญพืชให้ไวที่สุด เพราะดูจากสภาพอากาศตอนนี้เหมือนจะมีฝนอีกแล้ว
การเก็บเกี่ยวประจำฤดูร้อนเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วภายในครึ่งเดือน ซึ่งผลผลิตของปีนี้นับว่าต่ำกว่าปีที่แล้วนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าต่ำเกินไปนัก อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ผู้คนอดอยาก และยังมีกินจนถึงการเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง
ตอนนั้นมันคงจะมีธัญพืชสุกแก่มากกว่านี้ ถึงตอนนั้นพวกเขาคงจะได้รับส่วนแบ่งมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...