ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 235

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 235 ไม่ปล่อยให้คุณต้องทุกข์ทน
บทที่ 235 ไม่ปล่อยให้คุณต้องทุกข์ทน
โดย
EnjoyBook
บทที่ 235 ไม่ปล่อยให้คุณต้องทุกข์ทน

หลินชิงเหอกับเจ้าใหญ่กลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่งไปแล้ว พอมีฐานะแบบนี้ แม้แต่สะใภ้รองก็ทำได้แค่อิจฉา ไม่รู้สึกริษยาอีกต่อไป

คืนนั้นเองหลินชิงเหอก็ถูกโจวชิงไป๋พลิกตัวไปมารอบหนึ่ง

“พ่อโคถึกเอ๊ย” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างอ่อนแรง

โจวชิงไป๋หัวเราะในลำคอเบา ๆ จากนั้นก็กอดเธอนอน

แม้เธอจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือบัณฑิตหญิงแล้ว เธอก็ยังเป็นภรรยาของเขาอยู่

อย่าว่าแต่หลินชิงเหอได้ทุนวิทยาศาสตร์อันดับหนึ่งของมณฑลเลย การที่เจ้าใหญ่ได้ทุนวิทยาศาสตร์อันดับสองของมณฑลก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ตกตะลึงมากเหมือนกัน

แต่ในที่สุดเขาก็ถูกหลินชิงเหอแม่ของเขาโค่นลงได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าใหญ่ก็คงได้ทุนอันดับหนึ่งระดับมณฑลไปในปีนี้

ทางมณฑลจะให้รางวัลเป็นมูลค่า 200 หยวน ทางเทศบาลให้อีก 100 หยวน และทางอำเภอให้มาอีก 50 หยวน ที่เหลือเป็นทางตำบลที่ให้มา 30หยวน

นี่เป็นเงินรางวัลที่หลินชิงเหอได้รับ ส่วนเจ้าใหญ่ที่ได้อันดับสองของมณฑลก็จะได้รับครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับหลินชิงเหอ

ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับเกียรติอยู่

และด้วยผลการสอบอันเยี่ยมยอดของแม่ลูกคู่นี้ ทุกคนที่ไม่ได้รับใบตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยจนถึงวันที่ 30 ก็เริ่มรู้สึกห่อเหี่ยว

จากนั้นพวกเขาก็มาหาหลินชิงเหอเพื่อขอคำชี้แนะ

การสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบ่งออกเป็นหลายวิชา

ด้านวิทยาศาสตร์และการเมืองจะมีเรื่องของการเมือง วรรณกรรม คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

ส่วนด้านวิทยาศาสตร์ที่หลินชิงเหอสมัครจะมีชีววิทยาและเคมี

ศิลปศาสตร์จะมีการเมือง วรรณกรรม คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ ซึ่งวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์รวมกันเป็นวิชาเดียว

ทั้งหลินชิงเหอกับเจ้าใหญ่ต่างสมัครในสาขาวิทยาศาสตร์กันทั้งคู่

เหล่าบัณฑิตหนุ่มสาวต่างมารวมตัวกันให้หลินชิงเหอกับเจ้าใหญ่สอนพวกเขา

หลินชิงเหอพูดว่า “อีกไม่นานเราก็ต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เราต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่ตอนนี้ ฉันเกรงว่าจะมีเวลาไม่มากแล้วค่ะ”

“คุณครูหลินอย่าดูถูกพวกเราเพราะคุณสอบผ่านด้วยตัวเองสิคะ” บัณฑิตสาวคนหนึ่งตอบในทันที

“ฉันพูดอะไรถึงเป็นการดูถูกคุณเหรอคะ? คุณคิดว่านี่เป็นอดีตเหรอ? ที่จะพูดสาดโคลนกันอย่างไรก็ได้? ถ้าคุณอยากจะทำเรื่องอย่างลักพาตัวฉันล่ะก็อย่าหาว่าฉันหยาบคายนะคะ การช่วยเหลือคุณคือความสมัครใจไม่ใช่หน้าที่ คุณอยากจะขู่บังคับให้ฉันช่วยเหลือคุณเหรอคะ?” หลินชิงเหอแสดงสีหน้าเย็นชาในทันทีและเหลือบมองหล่อน

“คุณครูหลิน พี่สาวไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ…” บัณฑิตหนุ่มอีกคนหนึ่งอธิบาย

“ไม่ว่าหล่อนจะหมายความว่ายังไงหล่อนก็รู้อยู่แก่ใจ ลูกชายกับฉันสอบผ่านเป็นเพราะความสามารถของเราเอง เราไม่ได้คิดค้างใคร เพียงเพราะหล่อนไม่มีความสามารถและสอบไม่ผ่านหล่อนเลยรู้สึกว่าเราแย่งที่ของหล่อนไป ประเทศเราต้องการนักศึกษา หากสอบผ่านพวกเขาก็มีความต้องการเป็นจำนวนมาก ถ้าคุณสอบไม่ผ่าน อิจฉาไปก็ไร้ประโยชน์!” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างเย็นชา

ถ้าหล่อนสามารถหล่อนก็อยากจะช่วย แต่ต้องคำนึงถึงเงื่อนไขสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งต่อไปด้วย จะมีบัณฑิตพวกนี้หย่าขาดจากครอบครัวแล้วปลีกตัวจากไปในตอนที่มีประกาศสอบกี่คนกันนะ?

หากเธอให้คำแนะนำพวกเขา ชาวบ้านจะคิดบัญชีกับใครกันแน่?

หลินชิงเหอจึงไม่อยากช่วยเหลือและไม่ต้องการถูกลากตัวลงไป เธอเป็นหญิงเห็นแก่ตัวแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เธอช่วยเหลือคนได้ แต่ตราบใดที่รู้สึกว่าการช่วยเหลือคนเป็นเรื่องเสี่ยง เธอก็ไม่ลังเลที่จะถอนมือมาปกป้องตัวเองและครอบครัวของเธอเลย!

ดังนั้นลืมเรื่องที่สอนพวกเขาไปเถอะ เธอไม่ให้แม้กระทั่งโน้ตแผ่นเดียว เจ้ารองยังต้องใช้ของพวกนี้นะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม