เมื่อหลินชิงเหอมารับเนื้อไปอีก เหมยเจี่ยก็ออกอาการเขิน “วันนี้พี่พันผ้าพันคอผืนนี้ไปทำงาน ไม่คิดว่าเพื่อนร่วมงานของพี่จะเห็นแล้วอยากได้บ้าง พวกหล่อนถึงกับให้พี่มาบอกว่าถ้าเธอมีโอกาสได้ไปที่นั่นอีกช่วยซื้อมาให้หน่อยจะได้ไหมน่ะ”
“ถ้าฉันได้ไปที่นั่นฉันจะซื้อมาให้นะคะ แต่ฉันซื้อเยอะมากไม่ไหวหรอกค่ะ” หลินชิงเหอบอก
เหมยเจี่ยเข้าใจเรื่องนี้ ว่าหากซื้อมามากเกินไปมันก็จะขาดตลาด ซึ่งเรื่องนี้อันตรายมาก
หล่อนให้เนื้อทั้งหมดที่หลินชิงเหอต้องการ คิดเป็นเนื้อเกือบ 10 ชั่ง หลังจ่ายเงินแล้วหลินชิงเหอก็นำกลับมาที่บ้าน
จากนั้นเธอก็เตรียมทำไก่ตุ๋นในกระเพาะหมู
เธอทำก็เพื่อบำรุงร่างกายให้โจวชิงไป๋
ท่านแม่โจวมาเยี่ยมและเห็นว่าเธอกับโจวชิงไป๋กำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน นางก็รู้สึกพอใจในตัวสะใภ้สี่มาก
หลินชิงเหอทำตัวดีมาก เธอดูแลสามีได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และยังให้การเลี้ยงดูหลานชายทั้งสามอย่างดีเยี่ยม
ทำไมนางรู้สึกว่าหล่อนไม่ได้ทำตัวดีถึงขนาดนี้มา่อนล่ะ? ตอนนี้นางช่างดูน่าเจริญหูเจริญตานักไม่ว่าจะมองในแง่มุมไไหน
เทียบกับเธอแล้ว สะใภ้คนอื่น ๆ ที่อยู่กันอย่างสงบสุขดูด้อยกว่าเธอไปเลย
การอยู่อย่างสงบสุขไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความตั้งใจของสะใภ้สี่ เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้วว่าต้องการให้พวกเขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย จึงทำการฝึกพวกเขาทั้งหมด
ตอนนี้มีการฟื้นฟูการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว พวกเขาคงสามารถสอบเข้าได้ทันเวลาพอดี
ดูผลสอบของเจ้ารองกับเจ้าสามสิ ในอนาคตพวกเขาทั้งหมดคงจะถูกคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยหากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
เหมือนกับที่สะใภ้สี่เคยบอกไว้ว่าหากลูกชายของเธอจะได้เข้ามหาวิทยาลัยในอนาคต พวกเขาจะมีงานทำ แล้วยังต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงานของพวกเขา?
ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอรักษาสัญญาหรือ?
“เธอทำอะไรอยู่น่ะ?” ท่านแม่โจวเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดีมาก
“ไก่ตุ๋นในกระเพาะหมูค่ะ อาหารจานนี้ช่วยบำรุงกระเพาะ ทั้งครอบครัวเราต้องการการบำรุงกันบ้าง” หลินชิงเหอตอบ
แม้เป้าหมายหลักคือการบำรุงสามีของเธอ แต่คนอื่น ๆ ก็ได้รับการบำรุงร่างกายไปด้วยเหมือนกัน
“มีแค่ตอนที่เธออยู่บ้านนี่แหละถึงได้มีอาหารอร่อย ๆ เยอะแยะกิน” ท่านแม่โจวมองแล้วเอ่ยขึ้น
นับตั้งแต่ที่สะใภ้สี่กลับมา ที่บ้านก็ไม่เคยขาดของอร่อยเลยในหลายวันมานี้ มื้อหนึ่งมีหมูตุ๋น อีกมื้อหนึ่งก็มีลูกชิ้นทอด หรือไม่ก็หมูตุ๋น
การจัดสรรเนื้อสำเร็จแล้วภายใน 3 วัน แต่ในตอนนี้นางเห็นว่าในครัวยังมีเนื้อเหลืออยู่มาก ก็ทราบโดยไม่ต้องถามว่าเธอต้องใช้เส้นสายของเธอไปซื้อมาแน่
ท่านแม่โจวไม่อยากพูดอะไรอีกต่อไปเพราะสะใภ้สี่ไม่ต้องการให้ใครมาเป็นกังวลกับเธอ
“ในเมื่อฉันว่างแล้ว ฉันก็ต้องบำรุงพวกเขาให้ดีน่ะค่ะ ชิงไป๋กับคุณพ่อเหนื่อยล้ามาทั้งปีแล้ว ช่วงหน้าใบไม้ร่วงกับหน้าหนาวนี่แหละค่ะเป็นโอกาสดีที่จะได้บำรุงพวกเขา” หลินชิงเหอบอก จากนั้นก็ถอนหายใจ “เสียดายที่เราไม่มีเป็ดแก่ ๆ สักตัวนี่สิคะ”
“เป็ดแก่เหรอ ที่บ้านตระกูลไฉ่ยังมีอยู่นะ พวกเขาอาจจะเชือดสักตัวสองตัวสำหรับปีใหม่นี้ ให้ฉันไปขอให้ไหม?” ท่านแม่โจวถาม
“บ้านคุณป้าไฉ่เหรอคะ?” หลินชิงเหอถาม
“อืม พวกเขามีอยู่ 4 ตัวน่ะ ตัวโตกันหมดแล้วด้วย” ท่านแม่โจวตอบ
“ก็ได้ค่ะ คุณแม่ไปขอมาเถอะค่ะ” หลินชิงเหอบอก
ถ้ามีเป็ดตัวใหญ่สักตัว เธอก็จะตุ๋นน้ำแกงเป็ดแก่ที่ให้สารอาหารสูงและยังให้ความชุ่มชื้น
ท่านแม่โจวไปขอเป็ดมาให้ โดยไม่คิดที่จะตำหนิสะใภ้สี่แต่อย่างใด
หลินชิงเหอทุ่มเทความสามารถเต็มที่ ระหว่างที่กำลังตุ๋นไก่ในกระเพาะหมูเธอก็ยังคิดว่าจะทำอาหารจานใหญ่อีกจากไปด้วย ช่วยไม่ได้นี่นะในเมื่อเธอมีเวลาอยู่กับบ้านสั้นเหลือเกิน
เธอไม่สามารถปรุงอาหารดี ๆ ทุกวันเพื่อบำรุงโจวชิงไป๋ได้หรอกถูกไหม?
ท่านแม่โจวกลับมาที่บ้านหลังออกไปนานครู่หนึ่ง นางถือเป็ดที่เพิ่งถูกเชือดมาด้วยหนึ่งตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...