หลินชิงเหอไม่สนใจหรอกว่าหู่จือและสวี่เชิ่งเหม่ยจะคิดอย่างไรกับเธอ เธอเป็นแบบนี้มาโดยตลอด
แต่เมื่อคุยกับโจวชิงไป๋ในตอนกลางคืน น้ำเสียงของเธอกลับนุ่มนวลลง
“ฉันให้ลิ่วนีกลับไปแบบนี้ คุณจะกล่าวโทษฉันไหมคะ?” หลินชิงเหอถาม
“ไม่หรอกครับ” โจวชิงไป๋สั่นศีรษะ
เขาเองก็ไม่พอใจกับสิ่งที่หลานสาวของเขาทำ
แน่นอนเขาไม่ได้โกรธเรื่องที่หล่อนมาหาที่พึ่ง แต่โกรธในเรื่องที่หล่อนทำตัวสิ้นคิด ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ดีไป แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร?
“ถ้าพวกเขาเป็นเด็กที่รู้ความแล้วละก็ ในฐานะที่เป็นอาและอาสะใภ้ เราย่อมเต็มใจอยากช่วยพวกเขา เอ้อร์นีไม่ได้พูดอะไรเลยฉันยังต้องการให้เธอมาด้วย แต่กับลิ่วนีที่เป็นอย่างนี้ ใครจะกล้าดูแลเธอกันคะ?” หลินชิงเหอบ่น
เธอไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน กล้าจะใช้แผนประหารก่อนรายงานทีหลัง(1) คิดหรือว่าเธอจะไม่ไล่กลับไป?
ไม่มีทาง เธอไม่ลังเลเลย
ครั้งนี้เธอก็ไม่มีความปรานีให้เช่นกัน มิเช่นนั้นมันจะต้องเกิดขึ้นซ้ำอีก จะไปพูดกันว่าเธอเป็นคนแล้งน้ำใจหรือว่าพอเธอรุ่งเรืองแล้วไม่เห็นหัวผู้อื่นก็ไม่เป็นไร เธอจะไม่ยอมให้ใช้วิธีการแบบนี้
“อย่าโมโหไปเลยนะครับ ส่งหล่อนกลับไปก็ดีแล้ว” โจวชิงไป๋ปลอบ
ภรรยาของเขาเป็นคนคอยดูแลเรื่องในภายในบ้าน เขาจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง ถ้าพี่รองของเขาไม่พอใจแล้วละก็ เขาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง
ส่วนทางด้านโจวข่ายและโจวลิ่วนี พวกเขากลับไปถึงหมู่บ้านชนบทในเวลาไม่กี่วัน
โจวข่ายทำตามคำสั่งของแม่ เขาพาโจวลิ่วนีไปที่บ้านตระกูลโจวและส่งเธอให้กับคุณลุงรองโดยตรง
“ลุงรอง ผมพาลิ่วนีมาส่งคืนให้ลุงครับ วันหน้าลุงรองต้องคอยดูหล่อนไว้ให้ดี ๆ นะครับ อย่าปล่อยให้หนีออกจากบ้านไปอีก” โจวข่ายพูด
พี่ชายรองถึงกับตะลึงไป “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ลิ่วนีไม่ได้ไปที่บ้านคุณตาคุณยายหรอกหรือ?”
จากนั้นเขาก็มองตรงไปที่สะใภ้รอง
สะใภ้รองเม้มปากและด่าโจวลิ่วนีออกมา “นังลูกเวร แกไปไหนมา? แกไปหาอาสี่กับอาสะใภ้สี่ของแกที่เมืองหลวงมาใช่ไหม?”
พี่ชายใหญ่ สะใภ้ใหญ่ พี่ชายสามและสะใภ้สามเดินออกมา พวกเขาต่างได้ยินกันทุกคน
จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่โจวลิ่วนี
สะใภ้ใหญ่เป็นคนแรกที่เอ่ยปากออกมาด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “เจ้าใหญ่ ลิ่วนีไปเมืองหลวงมาคนเดียวจริง ๆ เหรอ?”
“ใช่ครับ พ่อผมบอกให้ผมมาส่งหล่อนคืนให้กับลุงรองกับป้าสะใภ้รองครับ” โจวข่ายตอบ
เขาเอ่ยออกมาง่าย ๆ ว่าเป็นคุณพ่อของเขา ไม่ใช่คุณแม่
สีหน้าของสะใภ้ใหญ่ไม่สามารถดำทะมึนยิ่งไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
“พี่สะใภ้รอง ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะตำหนิอะไรพี่หรอกนะ แต่พี่จะต้องสั่งสอนลิ่วนีให้ดี มันเป็นเรื่องที่เกินขอบเขตมากเกินไปแล้ว เมืองหลวงเป็นสถานที่ประเภทไหน? หล่อนยังกล้าไปจริง ๆ หรือ?” สะใภ้สามหันไปพูดกับสะใภ้รอง
สะใภ้รองไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าครอบครัวสาขาสี่จะไม่ให้หน้ากับครอบครัวสาขารองอย่างเช่นตอนนี้ หล่อนแสดงหน้าตาฉุนเฉียว จากนั้นหันไปคว้าก้านไม้ไผ่และเริ่มเฆี่ยนตีโจวลิ่วนี “นังตัวดี ดูสิว่าฉันจะฆ่าแกไหม วันทั้งวันคอยแต่จะคิดปีนขึ้นไปที่สูง ๆ คนอื่นเขาจะยอมให้แกปีนขึ้นไปหรือ? แกดั้นด้นไปตั้งไกลถึงเมืองหลวงแล้วก็ยังโดนเขาไล่กลับมา ดีใจไหมล่ะ? ก็พวกเขาไม่ชอบแก แกยังดื้อด้านจะไปหาถึงที่นั่นอีก คิดว่าฉันจะไม่ฆ่าแกหรือไง!”
คำพูดพวกนี้ นอกเหนือจากการเฆี่ยนตีและดุด่าลิ่วนีแล้ว มันยังมีนัยยะหมายความว่าครอบครัวสาขาสี่นั้นไม่มีน้ำใจ พวกเขาไม่ยอมอดกลั้นอดทนแม้แต่กับหลานสาวของตนเอง
“ป้าสะใภ้รองครับ ถ้าป้ามีอะไรจะพูดก็พูดออกมาตรง ๆ เลยครับ ไม่ต้องพูดกระทบกระเทียบ พวกเราไม่ได้บอกให้ลิ่วนีไปที่นั่น อีกอย่างค่าเดินทางก็ไม่ได้ราคาถูก ๆ ป้าไม่ได้เป็นคนให้ค่าเดินทางไปหรอกหรือครับ?” โจวข่ายมีนิสัยตาต่อตาฟันต่อฟัน ในเมื่อคุณป้าสะใภ้รองของเขาพูดออกมาอย่างนี้ เป็นธรรมดาที่เขาจะกล้าถามกลับออกไป
หล่อนช่างพ่นคำพูดคำจาออกมาไม่ระวังปากจริง ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...