โจวลิ่วนีชะงักพร้อมกับทำหน้ามุ่ย “พี่ใหญ่ ไม่ใช่ว่าพอตอนนี้พี่ประสบความสำเร็จแล้วเลยไม่นับว่าหนูเป็นน้องสาวของพี่หรอกนะคะ? หนูอุตส่าห์มาตั้งไกล!”
“พวกเราขอให้เธอมาเหรอ?” โจวข่ายไม่ใช่คนที่จะถูกบีบคั้นได้ง่าย ๆ เขาเหลือบมองไปที่หล่อนและพูดว่า “เธอมาที่นี่เองหรือว่าลุงรองกับป้าสะใภ้รองรู้เรื่องด้วย?”
“ไม่รู้ค่ะ หนูมาที่นี่เอง” โจวลิ่วนีตอบ หล่อนน่าจะสัมผัสได้ว่าญาติผู้พี่ของเธอคนนี้ไม่ใช่คนที่คุยด้วยง่ายนัก ดังนั้นหล่อนจึงเอ่ยว่า “อาสี่กับอาสะใภ้สี่อยู่ที่ไหนคะ?”
“อยู่ที่ร้าน” โจวข่ายบอก “ฉันกำลังจะกลับแล้ว เธอรออยู่ที่นี่ก่อน”
เขาเอากล่องข้าวไปที่บ้านเฒ่าหวังและจากนั้นจึงมาพาโจวลิ่วนีไปที่ร้าน
“เมืองหลวงคึกคักมากเลยนะคะ อยู่ที่นี่ต้องมีชีวิตที่ดีมากเลย พี่ใหญ่คะ ต่อไปหนูอยู่ที่นี่ด้วยได้ไหม?” โจวลิ่วนีเอ่ยปากถาม
“ฉันไม่ได้เป็นคนตัดสินใจในเรื่องนี้” โจวข่ายกล่าว
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรให้คุยกันมากนัก เขาพาหล่อนมาที่ร้านเกี๊ยว
หลินชิงเหอกลับไปพักผ่อนที่อะพาร์ตเมนต์ โจวชิงไป๋อยู่ที่ร้านเกี๊ยว ส่วนโจวเฉวี่ยนและโจวกุยหลายกลับไปทำการบ้านแล้วเช่นกัน
“ลิ่วนี?” โจวชิงไป๋มองไปที่โจวลิ่วนี “ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่นี่?” เขามองไปทางด้านหลังของโจวลิ่วนีโดยคิดว่าจะมีคนอื่นตามมาด้วย
แต่ไม่มีใครเลย
“ลิ่วนีมาที่นี่ตามลำพังครับ” โจวข่ายบอก
เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นแล้วคิ้วของโจวชิงไป๋ก็แทบจะชนกัน
โจวลิ่วนีส่งสายตาลอกแลก “อาสี่คะ หลายวันมานี้หนูไม่ค่อยได้กินอะไรมากนัก อาหาอะไรให้หนูกินหน่อยได้ไหมคะ?”
โจวชิงไป๋ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาไปทำเกี๊ยวมาให้หล่อนกินชามหนึ่ง
โจวลิ่วนีกินเกี๊ยวในชามเข้าไปอย่างหิวโหย
คุณป้าหม่าที่ล้างจานชามเสร็จแล้วตอนนี้ถามโจวข่ายขึ้นว่า “เสี่ยวข่าย มีอะไรหรือ?”
“ญาติผู้น้องของบ้านคุณลุงรองของผมครับ หล่อนหนีมาเมืองหลวงคนเดียวตามลำพังโดยที่ไม่ได้บอกคนในครอบครัวไว้เลยครับ” โจวข่ายเล่า
คุณป้าหม่าขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เด็กคนนี้ช่างใจกล้าเกินไปแล้ว ต้องเดินทางมาไกลขนาดนี้หนูขึ้นรถไฟมาตามลำพังหรือ? หนูไม่กลัวเลยหรือจ๊ะว่าจะไปผิดที่?”
“ไม่กลัวค่ะ หนูถามผู้หญิงคนที่ขายตั๋วบนสถานีรถไฟแล้วค่ะ” โจวลิ่วนีตอบนางด้วยสำเนียงจีนกลางอันอ่อนหัดของหล่อน
“ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเธอเป็นเด็กฉลาด” คุณป้าหม่าพูด
คิ้วของโจวชิงไป๋ยังคงขมวดกันเป็นปมอยู่ แต่เพราะเขาต้องไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นจึงยังไม่มีเวลาได้ถามอะไรกับหลานสาวคนนี้
ดังนั้นเมื่อโจวลิ่วนีกินเสร็จ เขาจึงบอกลูกชายคนโตว่า “พาน้องไปหาม้าของลูกด้วย”
“ลิ่วนี ต้องกันไปแล้ว” โจวข่ายพูด
โจวลิ่วนีไม่อยากจะไปเจอคุณอาสะใภ้สี่คนนี้ของหล่อนเลย คุณอาสะใภ้สี่คนนี้เป็นคนมีฤทธิ์เดชที่หล่อนต้องคิดคำนวณให้ดี หล่อนอยากอยู่กับคุณอาสี่มากกว่า
“พี่ใหญ่ อีกสักพักหนูค่อยไปหาอาสะใภ้สี่นะคะ ให้หนูช่วยล้างจานก่อน” โจวลิ่วนีพูด
“ไม่จำเป็นหรอกจ้ะ ฉันมีหน้าที่ล้างจานและทำความสะอาดโต๊ะที่ร้านเกี๊ยวนี้” คุณป้าหม่าหัวเราะ
โจวลิ่วนีอุทานออกมาอย่างแปลกใจว่า “ทำไมคุณป้าเป็นคนทำล่ะคะ? แล้วพี่เอ้อร์นีกับพี่เชิ่งเหม่ยล่ะ?”
“พวกหล่อนอยู่ที่อีกร้านหนึ่ง เอาล่ะ ไปหาคุณอาสะใภ้สี่ของหนูได้แล้ว” คุณป้าหม่าโบกมือ
นางไม่อยากจะสนใจกับโจวลิ่วนี ตั้งแต่เด็กสาวเดินเข้ามาในร้าน สายตาของหล่อนมองสอดส่องไปรอบ ๆ ไม่หยุด มันไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงเลยที่จะพูดว่าหล่อนมีพฤติกรรมที่มีเลศนัยไม่น่าไว้ใจ
หลินชิงเหอไม่ใช่คนใจอ่อน เธอแค่ให้โจวข่ายไปส่งโจวลิ่วนีกลับไปในวันเดียวกัน
โจวลิ่วนีร้องไห้ขึ้นรถไฟกลับไป
สวี่เชิ่งเหม่ยกับหู่จือถึงกับตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้ฟังเรื่องนี้ พวกเขาไม่ยังทันได้เจอลิ่วนีเลยและหล่อนก็กลับไปทางเดียวกับที่หล่อนมา
“ลิ่วนีก๋ากั่นเกินไปจริง ๆ ถึงกับกล้าแล่นมาไกลถึงที่นี่และยังเสี่ยงทำเรื่องให้อาสี่กับอาสะใภ้สี่ไม่พอใจอีก!” เมื่อโจวเอ้อร์นีได้ฟัง หล่อนก็รู้สึกโมโหมากเช่นกัน
“อารองของเธออาจจะไม่รู้เรื่องด้วย แต่เรื่องที่ว่าอาสะใภ้รองของเธอจะรู้ด้วยหรือไม่ยังเป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน ค่าเดินทางมาไม่ใช่ถูก ๆ” หลินชิงเหอพูดอย่างเฉยเมย
“น้าสะใภ้คะ ส่งลิ่วนีกลับไปอย่างนั้นจะดูไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่าคะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยพูดเสียงเบา
“บางทีหนูอาจจะคิดว่าน้าสะใภ้สี่คนนี้เป็นคนใจร้ายที่ส่งหล่อนกลับไปทันทีที่หล่อนมาถึงโดยไม่ยอมให้หล่อนได้พักค้างคืนก่อน แต่นี่เป็นนิสัยของน้า ถึงแม้ว่าจะเป็นคุณตากับคุณยายของเธอจะมาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าน้า น้าก็ยังจะตอบออกไปตรง ๆ แบบนี้” หลินชิงเหอกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เธอไม่ได้โตมากับลิ่วนี เธอไม่เข้าใจหรอกว่าลิ่วนีเป็นคนอย่างไร หล่อนไม่เคยหยุดก่อเรื่อง แทนที่หล่อนจะมาช่วย หล่อนจะมาสร้างปัญหาให้มากกว่า” โจวเอ้อร์นีอธิบายให้หู่จือและสวี่เชิ่งเหม่ยฟัง
ญาติผู้น้องสองคนนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าโจวลิ่วนีญาติของพวกเขาเป็นคนนิสัยอย่างไร? มีแต่หล่อนที่โตมากับโจวลิ่วนี
หล่อนเห็นด้วยกับวิธีการของคุณอาสะใภ้สี่ ถ้าคุณอาสะใภ้ไม่ให้บทเรียนที่ต้องจดจำไปอีกนานกับหล่อนในครั้งนี้แล้ว ในอนาคตจะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นอีกแน่
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สะใจมากค่ะแม่ /ตบเข่าฉาด/ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยจ้ะหนู คิดว่าแม่จะหลอกง่ายเหมือนแม่ตัวเองสินะ ยังเร็วไปร้อยปีค่ะลิ่วนี
อ่านแล้วก็น่าโมโห สะใภ้รองต้องมีเอี่ยวกับเรื่องนี้แน่ ๆ ค่ะ รอดูตอนต่อไปนะคะ กำลังหมั่นไส้เลย /หักข้อนิ้วกรอบแกรบ/
ไหหม่า(海馬)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...