เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าจางเหมยเหอไม่ได้สนใจในตัวโจวชิงไป๋
ผู้ชายแบบโจวชิงไป๋เป็นแบบที่ผู้หญิงสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้วมักจะชื่นชอบ ด้วยรูปร่างที่สูงและร่างกายแข็งแรงบึกบึน สมเป็นชายชาตรีอย่างมาก
ความมีเสน่ห์ดึงดูดใจพวกผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย
บางคนที่ไปกินเกี๊ยวที่ร้านถึงกับอดไม่ได้ที่จะแอบมองเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องเพราะหลินชิงเหอไม่ชอบใจนักที่เขาเริ่มเจ้าเนื้อมากเกินไปเมื่อปีที่แล้ว เขาจึงเริ่มหันกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งในปีนี้ บางโอกาสเขาจะให้ลูกชายคนโตมารับช่วงดูแลร้านแทนเพื่อที่เขาจะได้ไปสนามบาสเกตบอลที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเพื่อเล่นบาสเกตบอล
เขาจึงมีรูปร่างที่ดีมาก
หลินชิงเหอไม่สามารถปล่อยมือออกห่างจากเขาได้เลย
จะไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงผู้อื่นได้อย่างไรล่ะ? โดยเฉพาะจางเหมยเหอผู้ซึ่งแต่งออกไปและมีความสัมพันธ์กับหนุ่มข้างบ้านนั้น เมื่อหล่อนหันกลับมามองก็ยังพบว่าคนโปรดของหล่อนเป็นโจวชิงไป๋อยู่ดี
แต่จะทำอะไรได้ บุปผาร่วงหล่นมีใจแต่สายน้ำกลับไร้ไมตรี โจวชิงไป๋ไม่แม้แต่จะชายตามองมาที่หล่อนตั้งแต่ต้นจนจบ
สะใภ้ตระกูลจางจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าหล่อนเป็นคนที่มีศีลธรรมอะไรบ้าง หล่อนจึงเอ่ยปาก “ฉันว่านะคะพี่สาว พี่น่าจะหยุดมองได้แล้ว ด้วยท่าทางแบบนี้ของเขา แล้วเขาจะไปมองพี่ได้อย่างไรกันคะ?”
ในเดือนมีนาคมของปีนี้ สะใภ้บ้านจางได้ให้กำเนิดลูกชายคนโตกับบ้านตระกูลจาง ตอนนี้หล่อนมีความมั่นใจขึ้นมามากในเรื่องคำพูดคำจา และไม่สามารถเก็บปากเก็บคำไว้ได้เช่นกัน
“ทำไมเขาจะไม่สนใจล่ะ? เธอไม่เห็นหรือว่ายัยคนแซ่หลินนั่นหยิ่งยโสขนาดไหน? ผู้ชายที่ไหนจะไปชอบผู้หญิงอย่างนั้นกัน?” จางเหมยเหอย้อนกลับ
หล่อนได้เผชิญหน้ากับหลินชิงเหอมามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว หลินชิงเหอเป็นคนนิสัยอย่างไร? หลินชิงเหอไม่แยแสหล่อนโดยสิ้นเชิง ถึงอย่างไรพวกหล่อนต่างก็เคยฉีกหน้ากันมาแล้ว ดังนั้นหล่อนยังจะตีหน้าแบบไหนได้อีก?
หลินชิงเหอจะให้เกียรติผู้หญิงที่กล้าไปสนใจสามีของหล่อนอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทาง
“ไม่ชอบคนแบบอาจารย์หลินงั้นหรือ? แล้วเขาควรจะมาชอบคนแบบพี่เนี่ยนะคะ?” สะใภ้จางเอ่ยพูดอย่างไม่เกรงใจ
“ฉันเป็นยังไง?” จางเหมยเหอรู้สึกว่าตนเองยังคงดูดีอยู่มาก
ผู้ชายที่หล่อนแต่งงานไปด้วยก็ดีมากทีเดียว อย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้หล่อนพึงพอใจได้มาก แต่เขาเปลี่ยนอาชีพและจะกลับบ้านได้เพียงแค่เดือนละ 2 หรือ 3 วันเท่านั้น นี่มันไม่ใช่อยู่อย่างกับตนเป็นแม่ม่ายอย่างนั้นหรือ?
ดังนั้นในคืนหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เมื่อเด็กทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว ผู้ชายที่อยู่ข้างบ้านก็เข้ามาเอาถังน้ำที่บ้าน
จากนั้นหล่อนก็พาเขากลับมาที่ห้องและต่อจากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปตามธรรมชาติ
แต่เพื่อความปลอดภัย พวกเขาไม่กล้าที่จะทำเรื่องอย่างนั้นที่บ้านทุกครั้ง แต่ใครจะไปคาดคิดว่าถึงจะออกไปหาห้องพักที่ข้างนอกแล้ว พวกเขาก็ยังถูกภรรยาของผู้ชายคนนั้นจับได้อยู่ดี
ตอนที่ถูกจับได้เป็นตอนที่พวกเขากำลังเดินจับมือถือแขนกันออกมาพอดี จากนั้นภรรยาของฝ่ายชายก็ไปถามพนักงานของที่พักว่าพวกเขาเป็นแขกที่มาที่นี่เป็นประจำหรือเปล่า?
ไม่ต้องพูดอะไรแก้ตัวอีก พวกเขาไปที่นั่นกันบ่อยมาก พนักงานยืนยันพร้อมบอกว่าพวกเขาไปที่นั่นเป็นประจำประมาณ 3 ถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์
ในตอนนั้นเองที่ทุกอย่างถูกเปิดโปงออกมา
อดีตสามีของหล่อนก็ไม่สามารถรับได้กับเรื่องประเภทนี้เช่นกัน
เนื่องเพราะเวลาในการเข้างานของเขาถูกปรับเปลี่ยน ดังนั้นจำนวนครั้งที่ได้กลับบ้านในแต่ละเดือนก็ถูกจำกัดลงจนเหลือน้อยมาก ดังนั้นภรรยาที่เขาแต่งกลับมาคนนี้มีอะไรกับเขาน้อยกว่ามีกับเจ้าคนข้างบ้านนั่นเสียอีก ยังมีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่ไหม?
เขาซ้อมเจ้าคนข้างบ้านนั่นจนน่วมและหย่าขาดจากหล่อน
สะใภ้บ้านจางรู้เรื่องเหล่านี้ดี ดังนั้นจางเหมยเหอจึงได้รับคำพูดเยาะเย้ยถากถางจากหล่อนมากมาย ในเวลานี้เมื่อหล่อนได้ยินคำพูดยกตัวเองเสียจนสูงส่งของจางเหมยเหอแล้ว หล่อนจึงเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาว ครอบครัวนี้คงไม่สามารถเลี้ยงดูคนได้จำนวนมากนักหรอกนะคะ ถ้าพี่มีความสามารถถึงขนาดนั้นจริง ๆ พี่ก็อย่ามาเป็นภาระให้กับที่บ้านเลยค่ะ”
หลังจากที่สามารถกำจัดจางเหมยเหลียนน้องสาวคนเล็กของสามีออกไปได้แล้วในที่สุด พี่สาวคนโตของสามียังจะกลับมาอีก
สะใภ้บ้านจางรู้สึกว่าชีวิตของหล่อนช่างเลวร้ายจริง ๆ
สามีของหล่อนกลับบ้านได้แค่เดือนละ 1 ครั้ง น้อยกว่าสามีเก่าของจางเหมยเหอเสียอีก นอกจากนั้นเขายังกลับมาได้แค่อย่างมาก 2 วันต่อเดือนเท่านั้น
ดังนั้นตั้งแต่แต่งเข้ามา สะใภ้บ้านจางถึงเพิ่งจะมีหลานชายให้ตระกูลจางได้ในปีนี้ และแม่เฒ่าจางก็ไม่สามารถจะว่าอะไรหล่อนได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...