ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 330

บทที่ 330 ใจหาย
EnjoyBook
บทที่ 330 ใจหาย

การสำเร็จการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิธีจบการศึกษาของนักศึกษารุ่นแรกของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง หลินชิงเหอจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

เธอได้เชิญช่างภาพมาถ่ายรูปให้ด้วย

โจวชิงไป๋ไม่ได้เปิดร้านหนึ่งวัน เขาติดประกาศสีแดงไว้ที่หน้าประตูเพื่อแจ้งว่าวันนี้ปิดร้าน

ทั้งครอบครัวต่างไปร่วมงานฉลองนี้ด้วยกัน

ในงานรับปริญญาพวกเขาถ่ายรูปไว้มากมาย เฉพาะรูปเดี่ยวของโจวข่ายมี 7 ถึง 8 รูป ส่วนที่เหลือก็เป็นรูปหมู่

โดยรวมแล้วมันเป็นวันที่รื่นเริงวันหนึ่ง จากนั้นก็สิ้นสุดลง

3 วันหลังพิธีจบการศึกษา โจวข่ายได้เดินทางไปรายงานตัวที่โรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเขาได้เริ่มต้นบทบาทใหม่ในชีวิตของตนเอง

ในขณะที่หลินชิงเหอจัดเรียงรูปถ่ายอยู่ที่บ้าน

รูปถ่ายทั้งหลายได้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี แม้แต่รูปของโจวกุยหลายตอนใส่ผ้าอ้อมก็ยังมีอยู่

หลินชิงเหอมองดูรูปของเจ้าใหญ่ตอนที่เขายังเป็นเด็กและกล่าวกับโจวชิงไป๋ว่า “พริบตาเดียวเขาก็ไปเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ด้วยตัวคนเดียวแล้วนะคะ”

นี่ถือได้ว่าเจ้าใหญ่ได้โผบินออกไปแล้วอย่างแท้จริง

ไม่นับรวมก่อนหน้านี้ที่เขาไปเรียนโรงเรียนมัธยมปลายในตัวอำเภอ แต่ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นเดินตามเส้นทางของตัวเองแล้วจริง ๆ

โจวชิงไป๋กล่าวว่า “เขาโตแล้วนะครับ”

หลินชิงเหอได้แต่ถอนหายใจออกมา แต่เธอก็ยังคงมีความสุขมากที่ลูกชายของเธอเติบโตขึ้น

เมื่อโจวกุยหลายกลับมาพร้อมกับหู่จือ พวกเขาก็ได้เห็นภาพถ่ายเหล่านี้ ทั้งคู่จึงเข้ามามุงดูรูปภาพด้วยกัน

“น้าสะใภ้ครับ พี่ข่ายกับคนอื่นมีรูปถ่ายตั้งแต่ตอนที่ยังเด็กขนาดนี้เลยหรือครับ?” หู่จือพูดอย่างประหลาดใจ

“ทุก ๆ ปีอาสะใภ้สี่จะพาเสี่ยวข่ายกับคนอื่นไปถ่ายรูปที่ในเมืองน่ะ” โจวเอ้อร์นีบอก

เธอรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี โดยปกติแล้วจะไปถ่ายรูปทุกปีไม่มีเว้น แต่ถึงแม้จะมีปีไหนจะไปไม่ได้ คุณอาสะใภ้สี่ก็จะหาเวลาไปถ่ายรูปในภายหลังอยู่ดี

ดังนั้นจึงมีรูปถ่ายของทุกปี

“เยี่ยมไปเลยค่ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยรู้สึกอิจฉา

หล่อนรู้สึกว่าคุณน้าสะใภ้ของหล่อนรู้จักวิธีใช้ชีวิต หล่อนเคยได้ยินมาก่อนว่าคุณน้าสะใภ้ไม่รู้ว่าควรจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าวิธีในแบบของคุณน้าสะใภ้คือการใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น

ดูรูปถ่ายพวกนี้สิมันล้ำค่ามากขนาดไหน?

“พวกเธอมาดูกันได้นะ เจ้าสาม หลังจากที่ดูเสร็จแล้วเอาไปเก็บไว้ในห้องของแม่ด้วย” หลินชิงเหอโบกมือ

เธอออกไปหาหวังลี่

สามีของหวังลี่ยังไม่สามารถมาที่นี่ได้เนื่องจากตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตของฤดูร้อน เขายุ่งมากเสียจนไม่สามารถปลีกตัวมาได้เลย

“เขาโทรมาบอกให้ฉันรอเขาอีกประมาณ 2-3 วันน่ะจ้ะ” หวังลี่บอกด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้นก็รออีกสัก 2-3 วัน ถ้าเธอกลับไปตามลำพังฉันจะยิ่งเป็นห่วง” หลินชิงเหอกล่าว

2-3 วันต่อมา หลี่ป๋อชวนสามีที่คล้ายกับหมีดำของหวังลี่ก็เดินทางมาถึง

ซึ่งหวังลี่เล่าเรื่องให้หลินชิงเหอฟังในภายหลัง

หล่อนเล่าว่าเมื่อหลี่ป๋อชวนมาถึงที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขาถึงกับตกตะลึงไปเลยเมื่อมองเห็นท้องของหล่อนตอนที่หล่อนเดินออกมาหา

ตั้งแต่ต้นจนจบ หวังลี่ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องที่หล่อนตั้งครรภ์ระหว่างช่วงปีใหม่ให้สามีของหล่อนฟังเลย

อย่างไรก็ตาม หลี่ป๋อชวนดูจะรู้อยู่แก่ใจดี เขานึกได้เกือบจะในทันทีว่าใครเป็นคนที่ทำให้ท้องของภรรยาเขาขยายใหญ่ขึ้น

รอยยิ้มไม่เลือนออกไปจากใบหน้าของเขาเลย เขาคงจะยิ้มอย่างสดใสมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

หวังลี่แกล้งแหย่เขาด้วยซ้ำไปว่าเด็กเป็นของคนอื่นไม่ใช่ของเขาและให้เตรียมตัวหย่ากัน

หลี่ป๋อชวนยิ่งยิ้มหน้าระรื่นมากขึ้น “ท้องจากคืนนั้นตอนช่วงปีใหม่ใช่ไหมครับ?”

เขารู้ดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอย่างไร หล่อนมีเขาและลูกชายของพวกเขาอยู่ในหัวใจหรือไม่เขาย่อมรู้ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม