ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 335

สรุปบท บทที่ 335 พี่น้อง: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

สรุปเนื้อหา บทที่ 335 พี่น้อง – ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดย Internet

บท บทที่ 335 พี่น้อง ของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 335 พี่น้อง
EnjoyBook
บทที่ 335 พี่น้อง

ถ้าพูดอย่างจริงจังแล้วต้องบอกว่าในยุคนี้มีคนไม่มากนักหรอกที่จะเต็มใจเลี้ยงดูลูกสาวในแบบที่สะใภ้สามทำอยู่

อย่างสะใภ้ใหญ่ก็หาได้ยากเช่นกัน นี่เป็นเพราะหล่อนได้รับอิทธิพลมาจากหลินชิงเหอในอดีตถึงได้เต็มใจส่งลูกสาวให้เข้าโรงเรียนจนถึงชั้นประถมปีที่ 3 จนลูกสาวสามารถอ่านออกเขียนได้อยู่หลายคำ

หู่จือ ลูกชายของพี่สาวรองก็ได้เรียนจนถึงชั้นนี้เช่นเดียวกัน

ในขณะที่สวี่เชิ่งเหม่ยของพี่สาวใหญ่นั้นไม่ได้เรียนแม้แต่ชั้นประถมหนึ่ง นี่เป็นเรื่องปกติของยุคนี้

สะใภ้สามยิ้มกริ่มตอบว่า “พี่ไม่ได้หวังให้ลูกต้องมากตัญญูอะไรพี่ไปจนตลอดชีวิตหรอก แค่ถ้าทางบ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาแล้วหล่อนสามารถพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างเท่านี้ก็พอแล้วละจ้ะ”

แต่ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร การที่อู่นีได้เข้าโรงเรียนหรือแม้กระทั่งได้เข้ามหาวิทยาลัยก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับหล่อน

หลังจากนั่งคุยกันมาพักใหญ่แล้วหลินชิงเหอก็ควรจะไปร่วมกินข้าวกับพวกเขาด้วย แต่เพราะเธอกินมาแล้วจากบ้านโจวเสี่ยวเหมย ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอันยกเลิกไป

สะใภ้ใหญ่และสะใภ้สามเอาถุงลูกอมและนมผงกลับไปด้วยอย่างขัดเขิน

แต่ละครอบครัวได้ลูกอมและนมผงกันคนละถุง ครอบครัวบ้านรองก็ได้เช่นกัน

สะใภ้สามไม่พูดไม่จากับสะใภ้รองอีกต่อไป หล่อนจึงไม่ใส่ใจที่จะเอาของไปให้ สะใภ้ใหญ่จึงต้องเป็นคนเอาของไปให้น้องชายรอง

“แม่เจ้าใหญ่ฝากเอามาให้จ้ะ แล้วบอกด้วยว่าสำหรับบำรุงร่างกายทุกคน ให้ชงดื่มเต็มที่ไม่ต้องเก็บไว้นะจ๊ะ แต่ละครอบครัวได้ลูกอมกับนมผงกันคนละถุง” สะใภ้ใหญ่อธิบาย

“ผมรับไว้ไม่ได้จริง ๆ ครับ” น้องชายรองพูดขึ้นอย่างกระดากอาย

ครั้งก่อนลูกสาวคนรองของเขาทำตัวเหลวไหล สร้างปัญหาจนเจ้าใหญ่ต้องเป็นคนพาหล่อนกลับมาด้วยตัวเอง

“ไม่มีอะไรหรอก เราก็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ชิงเหอไม่เก็บเอามาใส่ใจหรอกจ้ะ” สะใภ้ใหญ่บอกด้วยรอยยิ้มพร้อมกับส่งถุงลูกอมกับนมผงให้น้องชายรอง

น้องชายรองจึงรับของเอาไว้

พอเวลาประมาณ 2 ทุ่ม โจวชิงไป๋ก็มาสังสรรค์ร่วมกับพี่ชายทั้งสามคน พวกพี่น้องพากันไปอาบน้ำและว่ายน้ำกันที่แม่น้ำ

“ต้าหลินจะไปเปิดร้านขายซาลาเปาอยู่ที่โน่น มันจะคุ้มกันเหรอ? เงินเดือนของเขามากถึง 60 หยวนเลยนะ” พี่ชายใหญ่ยังกังวลอยู่เล็กน้อย

“โรงงานที่เขาทำอยู่กำลังจะปิดแล้วละครับ ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ลาออกไปอย่างนี้หรอก” พี่ชายสามร่วมสนทนาในเรื่องนี้ด้วย

พวกเขาต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นท่านแม่โจวจึงไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้กับพวกเขา

“ถ้าเขาไปที่นั่นแล้วทำธุรกิจได้ดี ชีวิตเขาก็คงจะไม่แย่หรอกครับ” พี่ชายรองเอ่ย

ไม่ว่าพวกผู้หญิงจะมีความคิดอย่างไรกัน แต่พี่น้องทั้งสี่คนก็ยังเข้ากันได้ดี

“เมื่อทุกอย่างก้าวหน้าขึ้น เขาจะไปได้สวยเลยล่ะครับ” โจวชิงไป๋บอก จากนั้นเขาก็มองอย่างจริงจังไปที่พี่ชายทั้งสามของตนเอง “พวกพี่ไม่คิดจะไปหาความก้าวหน้ากันในเมืองบ้างหรือ?”

“ชีวิตนี้ฉันก็รู้แต่เรื่องทำไร่ทำนา คงจะไปทำอะไรที่ในเมืองไม่ไหวหรอก” พี่ชายใหญ่ส่ายศีรษะ

“ต้าหลินกำลังจะย้ายไปอยู่เมืองหลวง บ้านของเขาก็จะว่าง ถ้าพวกพี่ไปเปิดร้านในเมืองก็จะมีที่อยู่พอดีเลยนะครับ” โจวชิงไป๋พูด

เนื่องจากซูต้าหลินจะเข้าไปทำธุรกิจในเมืองหลวง โดยทั่วไปแล้วเขาจะไม่มีเวลาได้กลับมาที่นี่ไปอีก 2-3 ปีแรกเลยทีเดียว เพราะเขาจะต้องทุ่มเทอยู่ทางนั้นและจะต้องทำธุรกิจมั่นคงเสียก่อน

ฉะนั้นพวกเขาจึงสามารถไปอาศัยอยู่ที่นั่นได้ชั่วคราว

“ฉันก็ไม่ได้วางแผนจะไปอยู่ในเมืองเหมือนกัน ฉันอยากจะเลี้ยงไก่เพิ่ม แต่พี่สะใภ้รองของนายไม่เห็นด้วย” พี่ชายรองถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“ภรรยาผมบอกว่าเลี้ยงไก่แล้วดีนะครับพี่ หล่อนยังแนะนำโจวต้งไปด้วยเลย” โจวชิงไป๋อ้างถึง

“ฉันรู้ สะใภ้สี่เคยบอกมาพวกเราแล้ว ฉันถึงได้อยากจะทำ ทั้งไก่ทั้งเป็ดด้วย พี่สะใภ้รองของนายกลัวว่านโยบายจะโดนยกเลิกทีหลัง แล้วจะเลี้ยงไปโดยไม่ได้อะไรน่ะ” พี่ชายรองรู้สึกหมดหวัง

“เรื่องอย่างนั้นในอดีตจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วละครับ” โจวชิงไป๋ตอบ

พี่ชายรองเชื่อเรื่องนี้ ติดแต่ภรรยาของเขาให้ตายก็ไม่ยอมให้เขาทำ แล้วเขาจะทำยังไงได้? ทำได้แต่ทำงานในทุ่งนาต่อไปเท่านั้นเอง

“อาสี่ น้องภรรยาของนายไปทำงานอยู่ในเมืองแล้วเป็นยังไงบ้าง?” พี่ชายสามที่เฉลียวใจขึ้นมาบ้างถามขึ้น

“ดีมาก ๆ เลยละครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้าบอกเมื่อเห็นว่าพี่ชายของเขามีความสนใจเรื่องนี้

“แล้วถ้าจะซื้อร้านในเมืองต้องใช้เงินมากไหม?” พี่ชายสามถามขึ้น

ในฐานะลูกชายคนโตของบ้านตระกูลโจว ความช่วยเหลือที่พวกเขาให้กับทางบ้านตระกูลโจวนั้นยังไม่เท่ากับบ้านสาขาสี่เลย

กระนั้นพวกเขาก็ดีใจที่ครอบครัวตระกูลโจวประสบความสำเร็จได้เช่นนี้ นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับครอบครัว

โจวชิงไป๋เอาเงินมาให้พี่ชายใหญ่แล้วก็กลับไป

หลินชิงเหอยังคงอ่านหนังสืออยู่ ในเมื่อโจวชิงไป๋บอกไว้ว่าเขาจะชดเชยให้เธอ ดังนั้นเขาจะต้องทำให้ดีอย่างที่พูดไว้

“คุณนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย” หลินชิงเหอแสร้งทำเป็นทุบเขาเบา ๆ แต่ความจริงคือเธอเองก็ชอบแบบนี้

เป็นเรื่องปกติที่ทั้งคู่จะทำการบ้านและส่งการบ้านกัน

วันรุ่งขึ้น พวกเขาตื่นขึ้นมาก่อนตี 4 หลังจากล้างหน้าและกินข้าวแล้ว หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็ออกเดินทางพร้อมกับท่านพ่อโจวและท่านแม่โจว

พี่ชายใหญ่และคนอื่นก็พากันมาส่งด้วย พวกเขาเดินมาส่งจนถึงทางเข้าของหมู่บ้านก่อนที่จะถูกเกลี้ยกล่อมให้กลับเข้าหมู่บ้านไป

ในช่วงนี้ยังมีงานในทุ่งนาที่ต้องทำอีกมาก ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเข้าไปส่งถึงในเมืองหรอก

สำหรับกุญแจบ้าน พวกเขาก็ให้พี่ชายใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนเก็บเอาไว้ ในบ้านไม่ได้มีของมีค่าอะไรอยู่ มีแต่พวกหม้อกับกระทะเท่านั้น ส่วนที่เหลือถูกนำไปด้วยหมดแล้ว

……………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

สงสารพี่รองจังเลยค่ะ อยากจะก้าวหน้าบ้างแต่ภรรยาก็ขัดตลอด เลยต้องยอมทนเพราะรักลูกเมีย

ส่วนพ่อกับแม่ก็ขยันทำการบ้านเหลือเกิน ทำในคืนก่อนจะเดินทางอีกด้วย เอาพลังมาจากไหนกันคะ

สองผู้เฒ่าบ้านโจวจะได้ไปเปิดหูเปิดตาในเมืองหลวงแล้วค่ะ จะตกใจกับค่าครองชีพในเมืองหลวงขนาดไหนกันหนอ

ไหหม่า(海馬)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม