หลินชิงเหอไม่อยากเปิดร้านใหม่ไกลนัก เป็นการดีที่สุดที่จะเปิดร้านใหม่ใกล้กับร้านเสื้อผ้าผู้หญิง
ตอนนี้ที่ร้านเสื้อผ้ายังมีแค่เด็กสาวสองคนเป็นผู้ดูแล ซึ่งความปลอดภัยในยุคนี้เทียบไม่ได้กับยุคหลัง ๆ ปกติแล้วไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น พวกหล่อนก็ต้องได้รับการช่วยเหลือบ้าง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเธอโชคดีหรือไม่
เพราะว่าอีกฟากหนึ่งของถนนตรงข้ามกับร้านเสื้อผ้าผู้หญิง มีร้านค้าว่างอยู่ที่หนึ่งพอดี
แถมร้านนี้ยังเป็นร้านค้าสองชั้นเหมือนร้านเกี๊ยวของโจวชิงไป๋อีกด้วย
“ร้านค้านี้ตั้งราคาไว้ 5,000 หยวน ซึ่งทางผู้ขายก็บอกว่าลดให้อีกไม่ได้แล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพย์สินบอกกับเธอ
“ตอนนี้คุณว่างอยู่ไหมคะ? คุณสามารถพาฉันไปดูได้ไหมคะ?” หลินชิงเหอกล่าว
“ได้ค่ะ” เจ้าหน้าที่คนนี้เคยได้ลูกกวาดถุงหนึ่งจากหลินชิงเหอมาก่อน หล่อนพยักหน้าแทนคำตอบ
หากร้านค้าร้านนี้ถูกขาย หล่อนก็จะได้หน้าไปด้วย ในยุคนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าค่าคอมมิชชันหรอก มีแค่เงินเดือนล้วน ๆ
พวกเธอไปดูร้านค้ากันที่นั่น แล้วหลินชิงเหอก็รู้สึกพอใจ
ชั้นสองสามารถใช้เป็นโกดังเก็บของได้ และยังมีพื้นที่กว้างขวางมากอีกด้วย
อีกอย่างตำแหน่งของร้านค้าก็อยู่ในทำเลดี อยู่ติดถนนและอยู่ตรงข้ามกับร้านเสื้อผ้าผู้หญิง เมื่อยืนมองมาจากประตูร้านก็จะเห็นร้านเสื้อผ้าผู้หญิงแล้ว
หลินชิงเหอไม่ลังเลแต่อย่างใด เธอรีบกลับไปจัดการทำธุรกรรมในทันที
“คุณไม่ต้องคุยเรื่องนี้กับสามีของคุณก่อนหรือคะ?” เจ้าหน้าที่ถาม
“ไม่จำเป็นค่ะ ฉันมีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในบ้านอยู่แล้ว” หลินชิงเหอตอบ
เจ้าหน้าที่สาวถึงกับขำ จากนั้นบ้านก็ถูกถ่ายโอนสิทธิ์เป็นของหลินชิงเหอ ซึ่งหล่อนรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นหญิงสาวหยิบเงินจำนวนมากขนาดนั้นออกมาจากกระเป๋าผ้า
เงิน 5,000 หยวน ครึ่งหนึ่งของราคา 10,000 หยวน หล่อนไม่คิดเลยว่าเธอจะจ่ายเงินมากขนาดนี้ได้ในคราวเดียว ช่างเป็นคนรวยจริง ๆ
หลังได้รับโฉนดร้านค้าและเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว หลินชิงเหอก็ออกจากสำนักงานจัดการทรัพย์สินด้วยอารมณ์ดีสุดขีด
ร้านเกี๊ยวในตอนนั้นมีราคาแค่ 3,000 หยวนเท่านั้น ในขณะที่ร้านค้าใหม่นี้มีราคาถึง 5,000 หยวน แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงเหอก็ไม่สนใจ
ไม่เพียงแต่ตลาดในตอนนี้จะเปลี่ยนไปจาก 2 ปีที่แล้ว พื้นที่ร้านค้าก็ยังใหญ่ขึ้นอีกด้วย การมีชั้นสองทำให้เธอรู้สึกว่าราคานี้ไม่ถือว่าแพงเกินไปนัก
เธอมาที่ร้านเกี๊ยวและกระซิบบอกเรื่องนี้กับโจวชิงไป๋ ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไป
เขาไม่คิดเลยว่าภรรยาจะลงมือไวขนาดนี้ เธอเพิ่งตัดสินใจเมื่อคืนและซื้อร้านในวันนี้เลย
ในเมื่อเธอซื้อร้านมาแล้ว เขาจึงตอบไปว่า “งั้นคุณไปคุยกับคุณป้าหม่าแล้วกันครับ”
หลินชิงเหอพยักหน้าและเล่าแผนของเธอให้กับคุณป้าหม่าที่กำลังล้างจานอยู่
คุณป้าหม่าชะงักไป ทันใดนั้นนางก็เอ่ยออกมา “ไม่ใช่ว่าแม่เฒ่าสวี่เป็นคนจัดการงานที่นั่นเหรอจ๊ะ? ให้เฉิงหมินไปทำงานส่วนนั้นจะเหมาะสมเหรอ?”
“เหมาะสิคะ” หลินชิงเหอตอบ
ที่หม่าเฉิงหมินต้องจัดการคือบัญชีสินค้าที่ผลิตได้ เป็นต้นว่ามีเสื้อผ้าจำนวนกี่ชุดที่ผลิตได้จากผ้าที่สั่งเข้ามา
ส่วนที่แม่เฒ่าสวี่กับหลี่ซุ่ยเฟิ่งสะใภ้ใหญ่ของนางดูแลอยู่คืองานควบคุมคุณภาพของเสื้อผ้าที่ตัดเย็บออกมา
“ฉันเช่าร้านไว้ร้านหนึ่งด้วยน่ะค่ะ แล้วก็คิดว่าจะขายเสื้อผ้าเหมือนกัน แต่ครั้งนี้เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย ถึงตอนนั้นเฉิงหมินกับหลานชายของฉันก็จะเป็นคนดูแลร้านนั้นค่ะ” หลินชิงเหออธิบาย “เงินเดือนที่พวกเขาได้ก็จะได้เท่ากับแม่เฒ่าสวี่กับคนอื่น ๆ ที่มีหน้าที่จัดการดูแล คือ 35 หยวนต่อเดือน แต่เนื่องจากเขาต้องทำงานหลายอย่าง ฉันก็เลยตัดสินใจว่าปีหน้าจะขึ้นเงินเดือนให้เขาด้วยค่ะ”
คุณป้าหม่าได้ยินก็ปิติยินดี “ได้จ้ะ ได้ เดี๋ยวป้าจะกลับไปบอกเขานะ”
“งั้นต้องรบกวนคุณป้าหม่าแล้วค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า
“ไม่มีปัญหาเลยจ้ะ ป้าต่างหากที่ต้องขอบคุณอาจารย์หลินในเรื่องนี้!” คุณป้าหม่ามองหลินชิงเหอและเอ่ยด้วยความซาบซึ้ง
นางกับสามีเฒ่าต่างยินดีเมื่อเห็นว่าลูกชายและครอบครัวของเขาสามารถกลับมาอยู่ในเมืองหลวงได้ มันไม่สำคัญหรอกที่พวกเขาจะต้องใช้เงินมหาศาลในการย้ายทะเบียนบ้านของลูกชายกลับมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...