แม่ตุ๊กตาคือฉายาที่โจวข่ายใช้เรียกเวิงเหม่ยเจี่ย เพราะว่าหล่อนสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา
เวิงเหม่ยเจี่ยเม้มปากด้วยความขบขันขณะกลอกตามองค้อนเขา
โจวข่ายนั่งอยู่ที่บ้านนั้นมากกว่า 1 ชั่วโมงก่อนจะขอตัวกลับ
เวิงกั๋วเหลียงอยากนัดเขาไปที่โรงอาบน้ำด้วยกัน
มันเป็นธรรมเนียมของที่นี่ ว่าสหายสนิทจะนัดกันไปที่โรงอาบน้ำและผลัดกันอาบน้ำให้แก่กัน
ทันทีที่โจวข่ายกลับไปแล้ว เวิงกั๋วเหลียงก็เอ่ยขึ้น “โจวข่ายมีความสามารถขนาดนี้ เมื่อไหร่ที่เขาออกจากโรงเรียนเตรียมทหาร เขาก็จะได้เลื่อนขั้นทันทีหากมาร่วมกับเรา”
เขาจบการศึกษาพร้อมกับโจวข่ายในปีนี้ หลังจบการศึกษาแล้วเขาก็จะเข้ากองทัพ
ตอนนี้จึงถือว่าเป็นช่วงวันหยุดสำหรับเขาด้วยเหมือนกัน
“ตอนนี้เสี่ยวข่ายกลับมาแล้ว ลูก ๆ สองพี่น้องต้องไปเยี่ยมบ้านเขาบ้างนะ” คุณแม่เวิงพูด
“พี่รองไปคนเดียวก็พอแล้วค่ะ หนูคงไม่ต้องไปด้วยหรอกมั้งคะ?” เวิงเหม่ยเจี่ยเอ่ยอย่างเอียงอาย
“ไปพร้อมกันเถอะ” คุณแม่เวิงเอ่ยตัดบท
หล่อนยังไม่เคยเจอหน้าหลินชิงเหอเลย แต่เคยเห็นรูปของหลินชิงเหอ โจวชิงไป๋ และคนอื่น ๆ แล้ว
ในช่วงพิธีจบการศึกษา เวิงกั๋วเหลียงก็ได้ไปถ่ายรูปกับครอบครัวของหลินชิงเหอ หนึ่งในนั้นเป็นรูปหมู่ ส่วนที่เหลือเป็นรูปของเวิงกั๋วเหลียงกับโจวข่าย
ความจริงแล้วในยุคนี้แทบไม่มีพ่อแม่ที่ไหนมาร่วมยินดีกับพิธีจบการศึกษาของลูกเลย
คุณพ่อเวิงกับคุณแม่เวิงจึงไม่เคยคิดในเรื่องนี้ แต่ทันทีที่ลูกชายของพวกเขานำรูปถ่ายกลับมา พวกเขาก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วม
แต่ต้องบอกว่าหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ในรูปถ่ายช่างดูไร้ที่ติ
โจวชิงไป๋ดูสูงสง่ามั่นคง ขณะที่หลินชิงเหอดูเฉลียวฉลาดและรู้จักแต่งตัว บอกได้ว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่มีรูปร่างหน้าตาดีมากที่เดียว
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงเลี้ยงดูลูกออกมาได้ยอดเยี่ยมแบบนี้
วันต่อมา เวิงกั๋วเหลียงกับเวิงเหม่ยเจี่ยจึงมาหาที่บ้านพร้อมกับกล่องขนม
หลินชิงเหอรู้จักเวิงกั๋วเหลียงที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แต่เธอยังไม่รู้จักเวิงเหม่ยเจี่ย
แต่ทั้งคู่ดูคล้ายกันมาก จนบอกได้ว่าเป็นพี่น้องกันแค่มองผ่านครู่เดียว
“นี่คือน้องสาวเพื่อนลูกที่ลูกเคยบอกว่าเหมือนตุ๊กตาน่ะเหรอ?” หลินชิงเหอมองเวิงเหม่ยเจี่ยด้วยความดีใจขณะถามลูกชายคนโต
“ครับ หล่อนคือเวิงเหม่ยเจี่ย” โจวข่ายยิ้มพลางพยักหน้าอย่างภาคภูมิ
เวิงเหม่ยเจี่ยแสดงความเคารพตามพี่ชายและเอ่ยทักทายอาจารย์หลินด้วยท่าทางเอียงอายเล็กน้อย
“หนูไม่ต้องเรียกฉันว่าอาจารย์หลินตามพี่ชายหนูก็ได้จ้ะ เรียกฉันว่าคุณอาหลินก็ได้” หลินชิงเหอยิ้มกริ่ม
“ค่ะคุณอาหลิน” เวิงเหม่ยเจี่ยเรียกตาม
“หนูเป็นคนสวยอยู่นะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าใหญ่ถึงบอกว่าหนูเป็นสาวข้างบ้านที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา นั่งลงก่อน ดื่มชาน้ำผึ้งเกรปฟรุต(1)ให้ชุ่มคอกันก่อนดีไหมจ๊ะ?” หลินชิงเหอถาม
“อาจารย์หลินไม่ต้องบริการถึงขนาดนี้ก็ได้ครับ แค่น้ำเปล่าก็พอแล้ว” เวิงกั๋วเหลียงปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีปัญหาหรอก พวกเธอนั่งลงก่อน ฉันจะไปทำเครื่องดื่มมาให้” หลินชิงเหอยิ้ม
เธอเดินไปล้างแก้วจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ลงมือทำชาน้ำผึ้งเกรปฟรุตมา 2-3 แก้ว ซึ่งเกรปฟรุตนี้เป็นเกรปฟรุตที่เธอซื้อมาในช่วงฤดูของมันแล้วเก็บไว้ในมิติ
แน่นอนว่าเธอนำออกมาเพื่อคั้นน้ำให้ทุกคนดื่ม ปกติแล้วเธอจะหยิบมันออกมาไว้ในห้อง พวกเด็ก ๆ จึงไม่รู้ว่ามันมีทั้งหมดเท่าไหร่
ถ้ามันหมด เธอก็เหลือเก็บไว้อยู่อีกเป็นจำนวนมาก
หลังเทใส่แก้วแล้ว หลินชิงเหอก็หยิบยื่นให้พวกเขาคนละแก้ว
เวิงกั๋วเหลียงกับเวิงเหม่ยเจี่ยเป็นคนที่สุภาพมาก พวกเขาเอ่ยขอบคุณเธอก่อนจะดื่ม
“รสชาติใช้ได้ไหมจ๊ะ?” หลินชิงเหอถามเวิงเหม่ยเจี่ย
“ตอนที่ลูกไปอยู่ที่นั่น อาจารย์หลินมีท่าทางกับลูกอย่างไรบ้าง?” คุณแม่เวิงถามอีกครั้ง
“ทำไมแม่พูดแบบนี้ล่ะครับ? อาจารย์หลินเป็นมิตรกับเรามากอยู่แล้ว” เวิงกั๋วเหลียงตอบ “อาจารย์หลินจะให้ชาน้ำผึ้งเกรปฟรุตโหลนี้กับเหม่ยเจี่ย แต่เหม่ยเจี่ยปฏิเสธ หล่อนก็เลยบอกให้พวกเรานำกลับมาให้แม่แทนน่ะครับ”
“คุณอาหลินใจดีแถมยังคุยสนุก หล่อนยังบอกว่าถ้ามีเวลาว่างจะมาเยี่ยมแม่ด้วยนะคะ” เวิงเหม่ยเจี่ยพยักหน้า
“งั้นแม่ต้องต้อนรับเขาดี ๆ แล้วล่ะ” คุณแม่เวิงเอ่ยอย่างมีความสุข
ไม่เพียงคุณแม่เวิงจะดีใจ หลินชิงเหอเองก็เช่นกัน
เธอพูดกับลูกชายคนโตว่า “น้องสาวเพื่อนลูกดูน่ารักไม่น้อยเลยนะ แถมยังใจกว้างและวางตัวดี แสดงว่าครอบครัวของหล่อนเลี้ยงดูหล่อนมาดีถึงได้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยแบบนี้”
โจวข่ายยิ้มกริ่ม “ม้า ถ้าม้าชอบหล่อนมากขนาดนี้ ก็รับหล่อนมาเป็นลูกสาวอุปถัมภ์เลยสิครับ”
หลินชิงเหอมองลูกชายด้วยสายตาตำหนิ เด็กคนนี้ยังไม่รู้จักโตเลยจริง ๆ
“ลืมเรื่องอุปถัมภ์ไปเถอะ” หลินชิงเหอโบกมือและตัดสินใจเอ่ยเตือนลูกชายคนโต “ถ้าอนาคตลูกจะหาภรรยาล่ะก็ หาให้ได้แบบนี้นะ ทั้งอ่อนโยนใจกว้าง งดงามและวางตัวดี”
โจวข่ายแทบจะพ่นชาที่ดื่มเข้าไปแล้วออกมา เขามองมารดาด้วยสีหน้าจนใจ “ม้า ผมอายุแค่ 17 เองนะ ม้าคิดอะไรอยู่ครับเนี่ย?”
“ก็ได้ ๆ” หลินชิงเหอยักไหล่และไม่พูดต่อ
เตือนแค่รอบเดียวถือว่าพอแล้ว ในอนาคตเด็กสาวคนนี้จะเข้าไปเป็นแพทย์สนาม หล่อนจะเหมาะสมกับลูกชายคนโตของเธอขนาดไหนกันนะ ยิ่งกว่านั้นที่นั่นยังมีหนุ่มโสดอยู่มากมาย หากเธอไม่ส่งสัญญาณให้เขาล่ะก็ เขาคงจะมาเสียดายทีหลังหากมีคนได้หล่อนไปครองก่อนอย่างแน่นอน
………………………………………………………………………………………………………………………
(1)เกรปฟรุต พืชตระกูลเดียวกันกับส้มชนิดหนึ่ง
สารจากผู้แปล
ทั้งคุณแม่เวิงกับแม่ไฟเขียวกันเต็มที่เลยค่ะ งานนี้เหม่ยเจี่ยคงได้เป็นว่าที่สะใภ้ใหญ่ของแม่แน่ ๆ ติดอย่างเดียวขอให้เจ้าใหญ่รู้ใจตัวเองเร็ว ๆ แล้วค่ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะนกนะคะ
ไหหม่า(海馬)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...