ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าหรือตู้แช่แข็ง พวกเขาก็ไม่ได้นำมันออกมาจากมิติในทันทีที่กลับมาถึง
แต่ทั้งคู่อธิบายว่าพวกเขาไปไห่หนานเพื่อซื้อตู้แช่แข็ง และพวกเขาจะจัดส่งมาที่นี่ในภายหลัง
“ตู้แช่แข็ง? คืออะไรเหรอคะ?” โจวเสี่ยวเหมยถามขณะที่พวกเธออาบน้ำกันในโรงอาบน้ำ
“คล้าย ๆ กับตู้เย็นน่ะ แต่แช่เย็นของต่าง ๆ ได้ดีกว่าตู้เย็น” หลินชิงเหอตอบ
“ฉันเองก็อยากซื้อมาไว้ที่ร้านซาลาเปาสักตู้เหมือนกันค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยตอบ
หากไม่มีตู้เย็นอยู่ในร้านซาลาเปา มันก็เป็นเรื่องยุ่งยากมาก ถ้ามีมาไว้สักตู้มันจะช่วยลดภาระไปได้เยอะทีเดียว
หล่อนกับซูต้าหลินเคยไปสอบถามที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่แล้ว และทราบมาว่าตู้เย็นตู้หนึ่งมีราคามากกว่า 500 หยวน ถือว่ายังแพงเกินไป
โดยเฉพาะในปีนี้ที่พวกเขาทั้งสองวางแผนกัดฟันซื้อร้านค้าอยู่ พวกเขาจึงไม่กล้าใช้จ่ายเงิน
“ร้านซาลาเปาต้องมีสักตู้จริง ๆ นั่นแหละ” หลินชิงเหอพยักหน้า แต่เธอก็รู้ถึงสภาพคล่องทางการเงินของพวกเขาด้วยเช่นกัน เธอจึงเสนอแนะขึ้นมา “ในเมื่อร้านของพวกเธออยู่ไม่ไกลจากร้านพี่สี่ พวกเธอก็เอาของที่อยากจะแช่เย็นมาฝากแช่แล้วกัน อยากใช้เมื่อไหร่ก็มาเอาที่ร้านเรา”
โจวเสี่ยวเหมยตอบอย่างกระดากใจ “นั่นคงไม่ได้มั้งคะ”
“ตู้เย็นเดี๋ยวค่อยซื้อทีหลัง ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือทำร้านตัวเองให้มั่นคงก่อน” หลินชิงเหอบอก
โจวเสี่ยวเหมยพยักหน้า
สองน้องสามีพี่สะใภ้อาบน้ำอย่างสบายใจและเดินทางกลับหลังอาบเสร็จ
ศูนย์ตัดเย็บเสื้อผ้าเล็ก ๆ ของหลินชิงเหอกับร้านขายเสื้อผ้าเปิดบริการกันหมดแล้ว มีเพียงร้านขายเครื่องดื่มที่ยังไม่เปิดและยังอยู่ในขั้นปรับปรุงร้าน
ถึงอย่างนั้นโจวชิงไป๋ก็ได้ติดต่อผู้ค้าส่งไว้แล้ว
ในฐานะเจ้าของกิจการ เขาสามารถปล่อยให้ลูกจ้างทำสิ่งอื่น ๆ ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องแหล่งสินค้า พวกเขาต้องติดต่อด้วยตัวเอง
ทันทีที่สินค้ามาส่ง พวกเขาก็จะส่งต่อหน้าที่นี้ให้หม่าเฉิงหมินตรวจสอบจำนวน หากเกิดอะไรขึ้นโจวชิงไป๋จะได้เจรจากับผู้ขายได้
ตอนนี้พวกเขาทำเพียงรอจนกว่าร้านเครื่องดื่มจะตกแต่งเสร็จ จากนั้นพวกเขาจึงค่อยโทรศัพท์เรียกให้ผู้ค้าส่งมาส่งสินค้า ร้านค้าถึงจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการได้
ช่วงเวลาหนึ่งพวกเขาจะยังไม่ขายไอศกรีมและหวานเย็น แต่จะขายเพียงเครื่องดื่มเท่านั้น จากนั้นก็ค่อยนำตู้แช่แข็งออกมาใช้ขายไอศกรีมกับหวานเย็นออกสู่ท้องตลาด
หลังเริ่มภาคการศึกษาใหม่อย่างเป็นทางการ หลินชิงเหอก็กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับบ้านและไปทำงานเหมือนเดิม
ช่วงต้นภาคการศึกษามีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำ ตอนนี้เธอมีการเรียนการสอนสี่ชั้นเรียน ซึ่งกล่าวได้ว่ายุ่งมากทีเดียว
จะบอกว่าเงินเดือนของเธอในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเช่นเดียวกันก็ไม่ผิดนัก แต่มันก็ยังไม่อยู่เหนือความคาดหมาย
นับตั้งแต่มีการปฏิรูปและเปิดประเทศ ราคาสินค้าต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งค่าแรงงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกันโดยไม่ต้องกล่าว
ร้านเครื่องดื่มเปิดอย่างเป็นทางการตอนปลายเดือนมกราคม
มันยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อโจวเฉวี่ยนกับโจวกุยหลายรู้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาเปิดร้านค้าใหม่อีกแล้ว!
“เปิดร้านค้าอีกร้าน?” สวี่เชิ่งเหม่ยอึ้งไปเมื่อได้ยินดังนี้
จำนวนร้านค้าในตอนนี้เป็นเท่าไรน่ะเหรอ? นี่เป็นร้านแห่งที่สี่น่ะสิ!
“จะมีคนประจำอยู่ที่ร้านค้านี้หรือยังนะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยรัวเร็วหลังตั้งสติได้
ถ้าไม่มีใครเฝ้าดูร้านนี้ หล่อนก็จะพาน้องชายมา มันคงจะเหมาะสมดี
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอต้องไปถามน้าสะใภ้สี่ดูน่ะ” โจวเอ้อร์นีส่ายหน้า
สวี่เชิ่งเหม่ยไม่กล้าไปถามหลินชิงเหอ หล่อนจึงมาถามกับน้าสี่ของหล่อนก่อน
“ร้านนี้ไม่ขาดคนแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋บอก
“ไม่ขาดคนเหรอคะ? แต่หนูได้ยินจากพี่เอ้อร์นีว่ามันเพิ่งเปิดนี่คะ” สวี่เชิ่งเหม่ยตอบ
“เราจ้างคนไปเรียบร้อยแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋ตอบ
สวี่เชิ่งเหม่ยเม้มปากก่อนเอ่ยตอบ “น้าสี่คะ สวี่เชิ่งเฉียงน้องชายของหนูอยากมาช่วยงานที่นี่น่ะค่ะ”
“เราไม่ขาดคนแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋ยืนยันคำตอบเดิม
โจวเฉวี่ยนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา “พี่เชิ่งเหม่ย พี่อยากให้เชิ่งเฉียงมาที่นี่เหรอ?”
สวี่เชิ่งเหม่ยฝืนยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...