เมื่อไม่สามารถระบายให้เฒ่าจูฟังได้ แม่เฒ่าจูจึงมาหาเพื่อนบ้านเก่าแก่อย่างแม่เฒ่าหู
หลังจากที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้จบ แม่เฒ่าหูก็เหลือบมองนางแล้วเอ่ยว่า “ปีนี้เธอไม่ได้ปลูกอะไรไว้เองเลยเหรอ”
“ก็ปีนี้ฉันรู้สึกขี้เกียจขึ้นมาไม่ได้หรือ?” แม่เฒ่าจูพูด “หล่อนปลูกผักผลไม้ไว้ที่บ้านตั้งเยอะแยะจนกินไม่หมด พวกเราต่างก็เป็นเพื่อนบ้านกัน ฉันขอแบ่งมาบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย แต่หล่อนกลับไม่ยอมแบ่งให้เลยสักนิดจริง ๆ”
ปีนี้นางคิดว่าทั้งสองครอบครัวจะได้เกี่ยวดองกัน ต่อไปในอนาคต อย่าว่าแต่แตงกวา กะหล่ำและมะเขือเทศเลย แม้แต่ไข่นางก็สามารถเอ่ยปากขอจากท่านแม่โจวได้ ท่านแม่โจวเลี้ยงไก่ไว้หลายตัว ซึ่งก็ออกไข่อย่างสม่ำเสมอมาก
นางมักจะได้ยินเสียงไก่ร้องตอนออกไข่เป็นครั้งคราว
ใครจะไปคิดว่าครอบครัวที่ทำอาชีพอิสระอย่างครอบครัวตระกูลโจวจะกล้าปฏิเสธหลานสาวของนาง
ทุกวันนี้แม้แต่แตงกวาและมะเขือเทศนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ให้นางไม่ได้
แม่เฒ่าหูไม่อยากจะคุยกับแม่เฒ่าจูต่อ พวกนางเป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายปี จะไม่รู้นิสัยของกันและกันได้อย่างไร?
แม่เฒ่าหูแค่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น หลานสาวของแม่เฒ่าจูที่เป็นแบบนี้ ก็มีแต่แม่เฒ่าจูเท่านั้นแหละที่คิดว่าหล่อนดีราวกับนางฟ้า สำหรับแม่เฒ่าหูแล้ว หล่อนไม่คู่ควรกับหลานชายร่างสูงบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งเอาเสียเลย
แม้ว่าท่านแม่โจวจะไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง แต่พวกนางต่างก็เป็นเพื่อนบ้านกัน แล้วจะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร?
โดยเฉพาะเมื่อจูเจินเจินมาที่นี่ทุกวันเพื่อรอเจอหลานชายของท่านแม่โจว
“ที่สวนฉันยังพอมีอยู่บ้าง ถ้าเธออยากได้ก็ตามเข้ามาเอาสิ” แม่เฒ่าหูบอก
แค่แตงกวาไม่กี่ลูก ไม่ได้มีค่ามากมายขนาดนั้นหรอก
บ้านของทั้งคู่ต่างก็มีสวน เพียงแต่มีพื้นที่เล็กกว่าของบ้านท่านแม่โจวนิดหน่อย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกหล่อนถึงไม่ได้เลี้ยงไก่หรือทำอย่างอื่นอีก นอกจากปลูกแตงกวากับบางอย่างเอาไว้กินเองภายในบ้านเท่านั้น
แม่เฒ่าจูเดินเข้าไปเด็ดแตงกวา 7-8 ลูกแล้วแยกจากไป
แม่เฒ่าหูไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่แล้วหลังจากนั้น เมื่อนางสังเกตเห็นว่าแตงกวา 3 ลูกที่ยังโตไม่เต็มที่ได้ถูกเด็ดไปด้วยและไม่มีแตงกวาเหลือไว้อีกเลยสักลูกเดียว นางก็อดก่นด่าออกมาไม่ได้
แม่เฒ่าหูจึงต้องมาขอจากท่านแม่โจว ถึงแม้ท่านแม่โจวไม่คิดจะติดต่อกับแม่เฒ่าจูก็จริง แต่นางก็ยังรักษามารยาทกับแม่เฒ่าหูอยู่
นางฟังแม่เฒ่าหูบ่น “ที่จริงที่สวนฉันก็ปลูกเอาไว้นะ แต่บ้านที่อยู่ติดกันมาบอกว่าหล่อนไม่มี ฉันก็เลยให้หล่อนเข้ามาเก็บที่สวนของฉัน ไม่คิดเลยว่าหล่อนจะเอาไปจนไม่เหลือไว้ให้ฉันสักลูก เด็ดเอาไปทั้งหมดเลย”
ตอนนี้ท่านแม่โจวไม่เหลือความรู้สึกดี ๆ ให้กับแม่เฒ่าจูอีกแล้ว นางไม่ได้แสดงความเห็นอะไรออกมา แค่บอกว่า “ฉันเพิ่งไปเก็บมา แบ่งเอาไปสิ”
แม่เฒ่าหูหยิบมา 4 ลูกสำหรับแค่พอรับประทาน
ตอนเย็นหลังจากเลิกงานแล้วสวี่เชิ่งเหม่ยก็มาที่นี่ ตอนนี้หล่อนมักจะมากินอาหารเย็นและค้างคืนที่นี่ด้วย ซึ่งโจวเอ้อร์นีอยู่ที่ร้านเกี๊ยวเพียงคนเดียว
“เสี่ยวเหม่ยมาแล้วเหรอ?” แม่เฒ่าหูยิ้มอย่างยินดีที่ได้เจอหล่อน
“ค่ะ คุณยายหูกินอะไรหรือยังคะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยทักทายอย่างสุภาพ
“กินแล้วละจ้ะ” แม่เฒ่าหูตอบพลางมองไปรอบ ๆ พอแน่ใจว่าไม่มีใคร หล่อนก็ยื่นไข่ต้มมาให้พร้อมกับกระซิบว่า “เก็บไว้กินนะ”
“คุณยายหู ทำอย่างนี้ไม่ได้หรอกค่ะ รีบเอาคืนไปเร็ว เก็บไว้กินเองเถอะนะคะ” สวี่เชิ่งเหม่ยปฏิเสธ
อาหารการกินของหล่อนอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นทางบ้านคุณน้าสี่หรือทางบ้านคุณยาย ไข่ไม่ใช่ของหายาก
แต่ใครบ้างจะไม่ชอบของฟรี?
“เด็กน้อย แค่ไข่เท่านั้นเอง ไม่ได้มีค่าอะไร ครั้งก่อนเธอก็ช่วยกวาดพื้นให้ฉัน” แม่เฒ่าหูยืนกรานพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นหล่อนก็ยัดเยียดไข่ให้พลางกระซิบ “แอบกินนะ อย่าให้คุณยายเธอเห็นล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...