แม้จะมีโจวหยาง กังจือและอู่นีมาอยู่ด้วยเพิ่ม ก็ยังมีที่พักให้อย่างเพียงพอ
สำหรับอู่นีก็ใช้วิธีการเดิมคือไปพักอยู่กับเอ้อร์นีที่ร้านเกี๊ยว
ส่วนโจวหยางและกังจือ จัดให้ไปพักอยู่ที่ชั้น 2 ของร้านเสื้อผ้าผู้ชาย
แต่ทั้งสองหนุ่มไม่อยากไปอยู่ที่นั่น พวกเขายินดีจะอยู่อย่างเบียดเสียดด้วยกันทางนี้มากกว่าจะไปอยู่ในห้องที่กว้างขวางนั่น
ดังนั้นหลินชิงเหอจึงตามใจให้พวกเขาได้นอนในที่ที่ตนเองต้องการ เด็กหนุ่มเหล่านี้เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้ดีนัก การปูเสื่อนอนบนพื้นในสภาพอากาศแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดแปลกอะไร
อย่างไรก็ตาม สวี่เชิ่งเหม่ยรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่ากังจือมาที่นี่เพื่อทำงานที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย
หล่อนดูหดหู่ไปตลอดทั้งวัน
หลินชิงเหอไม่ได้สังเกตเห็นเลย แต่เป็นโจวเสี่ยวเหมยที่มาชวนเธอไปโรงอาบน้ำด้วยกันเป็นคนบอกถึงเรื่องนี้
“เชิ่งเหม่ยดูจะไม่พอใจพี่สะใภ้สี่อยู่นะคะ” โจวเสี่ยวเหม่ยพูด
“เพราะเรื่องกังจือน่ะเหรอ?” หลินชิงเหอรู้สาเหตุได้ทันทีโดยไม่ต้องเดา
“อืม คงเป็นเพราะพี่ไม่ยอมให้น้องชายของหล่อนมา แต่กลับอนุญาตให้กังจือมาได้น่ะค่ะ” โจวเสี่ยวเหม่ยพยักหน้า
หลินชิงเหอหัวเราะออกมา “นี่เป็นร้านของพี่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่เองไม่ใช่เหรอที่จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะเอาใครมาช่วยงาน?”
โจวเสี่ยวเหมยไม่ได้โต้แย้งอะไรในเรื่องนี้แต่กล่าวว่า “เชิ่งเหม่ยเป็นคนไร้เหตุผลมากเกินไป มักจะชอบมาพูดจากำกวมให้คุณยายของหล่อนฟังด้วย ช่างเป็นหมาป่าตาขาว(1) จริง ๆ”
หลินชิงเหอกล่าวว่า “อายุตั้ง 18 แล้ว ถ้าหล่อนเป็นคนรู้ความมีเหตุผล ก็คงจะเป็นไปนานแล้วละ ในเมื่อหล่อนไม่ต้องการจะเป็นคนมีเหตุผล ก็ไม่มีใครสามารถไปขอร้องให้หล่อนเป็นได้หรอก”
แต่เรื่องนี้หลินชิงเหอก็โทษตัวเองด้วยนิดหน่อยเช่นกัน
ก่อนนี้ที่บ้านครอบครัวโจว ครั้งที่เธอจะพาสวี่เชิ่งเหม่ยกลับมาที่นี่ด้วย จริง ๆ แล้วเธอก็ลังเลใจอยู่เล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าหล่อนเป็นคนนิสัยแบบไหนกันแน่
ท่าทางหล่อนดูดี ทว่าสุดท้ายก็ไม่รู้แน่ชัดอยู่ดี
แต่เพราะคำนึงถึงพี่สาวใหญ่ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเลือกหล่อน เธอจะไปรู้ได้อย่างไรเล่าว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น?
หลินชิงเหอไม่ค่อยจะถูกใจสวี่เชิ่งเหม่ยหลานสาวคนนี้นัก หล่อนมีจิตใจที่คับแคบและมองอะไรสั้น ๆ อีกทั้งยังชอบคิดเล็กคิดน้อยอีกด้วย
เดิมทีเธอตั้งใจจะให้หล่อนไปเรียนภาคค่ำพร้อมกับโจวเอ้อร์นีและหู่จือ แต่หล่อนกลับไม่อยากจะเรียนหนังสือ
ต่อมา เมื่อเธอเริ่มสอนงานเอ้อร์นีและหู่จือเรื่องการจัดทำบัญชี และได้พาเอ้อร์นีไปโรงงานผลิตเสื้อผ้าด้วย หล่อนก็ฮึดฮัดไม่พอใจ
หล่อนไม่กล้าพูดต่อหน้าเธอ แต่กลับชอบไปทำอะไรลับหลัง
หลินชิงเหอไม่พอใจในเรื่องนี้เลย
แต่เธอจะทำอะไรได้อีกล่ะ? เธอพาหล่อนมาที่นี่แล้ว ดังนั้นทำได้แค่ปล่อยให้หล่อนทำงานต่อไป แต่ในใจเธอก็ยังคงรู้สึกเสียใจอยู่ดี
ครั้งนั้นเธอไม่น่าเห็นแก่พี่สาวใหญ่จนยอมพาคนที่เพิ่งเคยพบกันเพียงแค่หนเดียวมาที่นี่ด้วยเลย
หลังจากที่ทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง จะให้เธอทำพลาดอีกอย่างนั้นเหรอ? เธอจะไม่ยอมให้สวี่เชิ่งเฉียงมาที่นี่อย่างเด็ดขาด
เว้นเสียจากว่าเขาจะมีความสามารถมาได้ด้วยตัวเอง แต่ก็อย่าได้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับทางเธอ ไม่อย่างนั้นต่อให้พี่สาวใหญ่จะคิดยังไง เธอก็จะไม่สนใจเลย
การให้กังจือมาเพราะเขาเป็นคนที่เหมาะสม ที่ไม่ให้สวี่เชิ่งเฉียงมาก็เพราะว่าเขาไม่เหมาะ!
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงไม่เหมาะ พี่สาวใหญ่ต้องเป็นคนคิดได้เอง
สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ยังทำให้หลินชิงเหอรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ดี เป็นแค่ญาติกันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอต้องให้สวี่เชิ่งเหม่ยมาที่นี่ด้วยนะ?
แต่ในเมื่อตอนนี้หล่อนอยู่ที่นี่แล้วก็ต้องให้อยู่ต่อไป ถ้าหล่อนตั้งใจทำงาน ตอนกลับไปที่บ้านเกิดและแต่งงาน จะได้มีเงินสินเดิมมากขึ้น คิดเสียว่าเธอได้ทำในส่วนของเธอให้เสร็จสิ้นไป
“อย่าคุยกันถึงเรื่องนี้อีกเลย” หลินชิงเหอบอกและไปอาบน้ำกับโจวเสี่ยวเหม่ย
“พี่สะใภ้สี่คะ ต้าหลินกับฉันจะซื้อร้านจากเจ้าของที่แล้วละค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยพูดขึ้นเมื่อพวกเขาออกมาจากโรงอาบน้ำแล้ว
“ราคาเท่าไหร่ล่ะ?” หลินชิงเหอพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...