หลินชิงเหอมองไปที่ชิงไป๋ของเธอ เขาเคยเป็นคนที่เคร่งขรึมมาก ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ แต่เขาก็ปรับตัวได้เยอะมากแล้ว
โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของการทำธุรกิจ เขาสามารถทำหลายสิ่งได้เองโดยไม่ต้องมีเธอ
หลินชิงเหอเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา โจวชิงไป๋หันไปมองรอบ ๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่ในขบวนเดียวกัน เขาก็ดึงตัวภรรยาเข้ามากอด
พอสังเกตเห็นท่าทางแบบนั้นของเขา หลินชิงเหอก็หัวเราะออกมาแล้วเอ่ยว่า “เราเป็นสามีภรรยากันนะคะ คุณจะกลัวอะไร?”
“เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีครับ” โจวชิงไป๋ตอบ
ใช่สิ ตัวอย่างที่ไม่ดี งั้นใครกันที่เป็นคนโอบเอวเธออยู่ในตอนนี้? แล้วใครกันที่ไม่เคยหยุดเลยตอนที่อยู่ในบ้านพักรับรองแขก?
หลังจากนั่งรถไฟมา 2-3 วัน พวกเขาก็มาถึงเทศบาลมณฑลในตอนที่เย็นมากแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าพักที่บ้านพักรับรองแขกในเทศบาลมณฑล 1 คืน
เมื่อลงจากรถไฟได้ก็ไม่มีอะไรจะสบายไปกว่านี้แล้ว มีสถานที่ให้นอนโดยใช้ผ้าปูเตียงและผ้าห่มของตัวเอง
ถึงพวกเขาจะได้พักผ่อนมาบนรถไฟ แต่อย่างไรก็ไม่ดีเท่ากับการได้นอนบนเตียง
ทั้ง 2 คนนอนหลับสนิท กว่าที่พวกเขาจะได้กินอาหารก็เป็นเวลาหลัง 10 โมงเช้าในวันรุ่งขึ้น จากนั้นก็นั่งรถไปที่อำเภอ
พอมาถึงอำเภอ ทั้งคู่ก็ไปที่ชานเมืองเพื่อเอารถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากมิติ จากนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมกับนำน้ำมันถังใหญ่ไปที่ร้านของน้องชายสามตระกูลหลิน
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ครอบครัวของน้องชายสามตระกูลหลินทุกคนต่างก็อยู่ที่บ้านกัน
พวกเขากำลังกินข้าวกลางวันกันอยู่ในร้านตอนที่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นก็เห็นพี่สาวและพี่เขยของเขากำลังมุ่งหน้ามาที่ร้าน
โจวชิงไป๋รู้วิธีขี่มอเตอร์ไซค์โดยที่ภรรยาเป็นคนสอน ซึ่งไม่ได้ยากอะไรนัก เขาสามารถขี่เป็นในเวลาอันสั้น
“พี่สาว พี่เขย กินอะไรกันมาหรือยังครับ? มาครับ มากินด้วยกัน” น้องชายสามตระกูลหลินเอ่ยชวนทันที
“ไม่ต้องหรอก ก่อนจะมาที่นี่พวกพี่กินกันมาแล้ว” หลินชิงเหอตอบ
“พี่สาวสาม เข้ามากินน้ำแกงอีกสักถ้วยไหมคะ? นี่เป็นน้ำแกงบวบที่สดมาก รสชาติอร่อยมากเลยค่ะ” สะใภ้สามตระกูลหลินก็รีบเข้ามาทักทาย
“ไม่เป็นไร พวกเธอดื่มกันเถอะจ้ะ” หลินชิงเหอยิ้ม
โจวชิงไป๋ขนถังน้ำมันลงมาเรียบร้อยแล้ว น้ำมันถังนี้น่าจะใช้ได้นานประมาณ 6-7 วัน
“ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ เสร็จแล้วค่อยมาดูว่าถูกใจไหม” หลินชิงเหอกล่าวกับน้องชายสามของเธอ
น้องชายสามตระกูลหลินรีบพุ้ยข้าวในถ้วยเข้าปาก จากนั้นก็ออกไปดูมอเตอร์ไซค์ด้วยความตื่นเต้น
“มอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ?” หลินชิงเหอกล่าวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าเมื่อได้เห็นน้องชายเป็นเช่นนี้
“อืม ไม่มีที่ดีไปกว่านี้อีกแล้วละครับ!” น้องชายสามตระกูลหลินอดพูดออกมาด้วยความขัดเขินอยู่นิด ๆ ไม่ได้ว่า “ไม่รู้ว่าผมจะหัดขี่เป็นไหม?”
“มีอะไรถึงจะขี่ไม่เป็น? ให้พี่เขยนายพาไปลองขี่ดู ไม่ยากหรอก พี่ยังขี่กลับมาได้เลย” หลินชิงเหอพูด
โจวชิงไป๋พาน้องชายสามตระกูลหลินไปสอนขี่มอเตอร์ไซค์
เนื่องจากโจวชิงไป๋สามารถขับรถได้ จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาในการหัดขี่มอเตอร์ไซค์ แต่สำหรับน้องชายหลินแล้วชัดเจนว่าจำเป็นต้องฝึกฝนให้มากกว่า แต่กระนั้นก็ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไป มีแค่เกียร์ 2-3 เกียร์ คลัตช์และก็เบรก ที่เหลือก็ไม่ได้แตกต่างจากจักรยานมากนัก
หลินชิงเหอหยิบถุงลูกอม 2 ถุงและขนมหวาน 2 กล่องออกมาจากกระเป๋าผ้า แล้วบอกหลานสาวว่า “เอาไปแบ่งกันกินนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณป้าสาม” หลานสาวคนโตบิดริมฝีปากโค้งจนเป็นรอยยิ้ม
พริบตาเดียว หล่อนก็โตเป็นสาวแล้ว สามารถช่วยงานได้ทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน
“ไม่จำเป็นต้องเอาของพวกนี้มาให้ทุกปีเลยค่ะ” สะใภ้สามตระกูลเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ธุรกิจปีนี้เป็นยังไงบ้าง? เติบโตขึ้นไหมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว?” หลินชิงเหอถาม
“ค่ะ ธุรกิจปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วมากเลย” รอยยิ้มจริงใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสะใภ้สามตระกูลหลิน
เดิมทีธุรกิจในปีที่แล้วก็ค่อนข้างดีทีเดียว ในปีนี้ธุรกิจดีกว่าปีที่แล้ว 30% ทุกเช้าก่อนฟ้าสาง สามีของหล่อนจะไปเก็บรวบรวมผลไม้และผักในชนบท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...