ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 393

บทที่ 393 ตระกูลบัณฑิต
EnjoyBook
บทที่ 393 ตระกูลบัณฑิต

ท่านแม่โจวรู้สึกว่าในชีวิตนี้นางเป็นคนซื่อตรงและไม่มีเรื่องให้ต้องละอายใจ

แต่เรื่องครั้งนี้ทำให้นางเกิดความกังวล

“แต่ก่อนหล่อนชอบมาปากยื่นปากยาวอยู่ต่อหน้าฉัน บอกว่าเธอลำเอียงไม่ชอบหล่อน ไม่เห็นคุณค่าของหล่อน และเห็นคุณค่าแต่ของเอ้อร์นีและหู่จือเท่านั้น ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจหล่อนเลย แล้วตอนนี้หล่อนทำเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาได้!” ท่านแม่โจวเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว

พอถึงตอนนี้ หลินชิงเหอก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมา

พอกล่าวจบ ท่านแม่โจวก็ได้สติขึ้นมา จึงรีบพูดขึ้นว่า “หล่อนคร่ำครวญแต่เรื่องทำนองนี้ แต่แม่ไม่เคยเอาเก็บมาคิดเป็นจริงเป็นจังเลยนะ เธอเป็นคนยังไง แม่รู้ดี เหตุผลที่แม่ไม่ได้เล่าให้เธอฟังก็เพราะไม่อยากจะเพิ่มปัญหาให้ไปสุมไว้ที่เธอ!”

“หล่อนน่าจะมีแผนของตัวเองแล้วละค่ะ” หลินชิงเหอหันเหเรื่อง

ท่านแม่โจวทนฟังเรื่องของหลานสาวคนนี้ไม่ได้อีกต่อไป จึงแค่นเสียงเย็นชาว่า “หล่อนจะมีแผนอะไรกัน? ฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตระกูลจ้าวนั่นแล้ว เจ้าหนุ่มจากตระกูลจ้าวนั่นอายุ 25 แล้วยังไม่คิดจะมีครอบครัวอีก ในอนาคตการแต่งงานครั้งนี้อาจจะไม่ดีนัก แต่พวกเธอไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ปล่อยหล่อนไป หล่อนเลือกของหล่อนเอง!”

การที่สามารถทำให้ท่านแม่โจวผู้ซึ่งมีจิตใจอ่อนโยนกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ แสดงให้เห็นว่านางโกรธมากขนาดไหน

หลินชิงเหอยิ้มอย่างเข้าใจ ท่านแม่โจวเป็นคนที่ซื่อตรงและซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต ตอนนี้ตราบใดที่ไม่มีคนเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้น ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องละอายใจ

แต่มันก็น่าอายเสียจนแทบจะไปเจอหน้าผู้คนไม่ได้เลยเช่นกัน

“ในเมื่อตอนนี้เรื่องเป็นอย่างนี้แล้ว ก็แค่รอให้พี่สาวใหญ่กับพี่เขยใหญ่มาที่นี่ คุณแม่ก็มองในแง่ดีเถอะนะคะ อย่าทรมานตัวเองอย่างนี้เลย” หลินชิงเหอกล่าว “เครื่องซักผ้าที่ซื้อมาเป็นของดี ถึงตอนนั้นคุณแม่ต้องเรียนรู้วิธีใช้ไว้นะคะ”

“ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อเครื่องซักผ้ามาเลย ให้เสี่ยวเหมยซักมือเอาก็ได้” ท่านแม่โจวตอบ

โจวเสี่ยวเหมยอาศัยอยู่กับคุณพ่อและคุณแม่ของตัวเอง ดังนั้นการซักเสื้อผ้าทั้งหมดย่อมต้องเป็นหน้าที่ของหล่อน ไม่อย่างนั้นจะให้แม่ของตนดูแลลูก ๆ ให้พร้อมทั้งต้องทำงานบ้านไปด้วยอย่างนั้นหรือ?

โชคดีที่หล่อนไม่ได้ทำอย่างนั้น มิฉะนั้นหลินชิงเหอคงจะต้องสั่งสอนหล่อนเสียหน่อย

“เครื่องซักผ้าเครื่องนี้ซื้อมาให้คุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ เสี่ยวเหม่ยแค่ตัวแถมเท่านั้น” หลินชิงเหอบอก

“แค่กตัญญูต่อฉันกับคุณพ่อของเธอก็พอแล้วล่ะ” ท่านแม่โจวตำหนิ

หลินชิงเหอทนไม่ได้เมื่อเห็นว่าแม่สามีของเธอทำตัวเหมือนเด็กทารก ดังนั้นจึงรีบเปลี่ยนเรื่องและบอกนางเรื่องการแต่งงานของซานนี

“ซานนีจะแต่งงานเหรอ? แต่งกับครอบครัวไหน? ฐานะทางบ้านฝ่ายชายเป็นยังไง? เด็กคนนี้เป็นเด็กเก็บตัว ไม่รู้ว่าหล่อนจะถูกรังแกหรือเปล่า?” ท่านแม่โจวยิงคำถามออกมาเป็นชุดเมื่อได้ยินเรื่องนี้

“ครอบครัวนั้นสกุลหลี่ค่ะ ไม่ได้อยู่ในอำเภอเรา มาจากอีกอำเภอที่อยู่ติดกันแต่อยู่ไกลออกไปหน่อย ชิงไป๋กับฉันไปดูมาแล้วละค่ะ เป็นหมู่บ้านบนภูเขาค่อนข้างยากจนนิดหน่อย” หลินชิงเหอตอบ

“ความยากจนไม่ใช่ปัญหาหรอก ตอนที่ฉันอยู่กับพ่อของเธอ พ่อของเธอก็ไม่มีอะไรเลย ตราบใดที่ขยันทำงาน เขาก็จะมีทุกอย่างไปเองนั่นละ” ท่านแม่โจวกล่าว

หลินชิงเหอพยักหน้า “เราไม่ได้เจอตัวเขาหรอกค่ะ แต่จากที่ฟังพี่สะใภ้ใหญ่เล่า ฉันรู้สึกว่าเขาดีทีเดียว แค่อายุมากกว่าซานนีไป 10 ปีแล้วก็ขาเป๋นิดหน่อย”

“อายุมากกว่า 10 ปีแล้วก็ขาเป๋อย่างงั้นเหรอ?” ท่านแม่โจวอดร้องออกมาอย่างตกใจไม่ได้ “นี่…ทำอย่างนี้ได้ยังไง?”

“ตอนที่ได้ยิน ฉันก็รู้สึกว่าเขาไม่เหมาะสมเหมือนกันค่ะ แต่พอได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าเขาค่อนข้างดีเลยทีเดียว เขายังให้เงินสินสอด 400 หยวนด้วยค่ะ ถือว่าเขาแสดงความจริงใจมากพอ” หลินชิงเหอกล่าว

หลี่อ้ายกั๋วแยกบ้านออกมาแล้ว ในฐานะคนโสด เขายังสามารถนำเงินถึง 400 หยวนมาเป็นสินสอดให้ได้ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถเลย

ถึงจะไม่สามารถตัดเรื่องที่ว่านั่นอาจจะเป็นเงินที่ขอยืมมาจากคนอื่นก็ได้ แต่การที่ในยุคนี้ยังสามารถขอยืมเงินจำนวนที่มากขนาดนี้มาได้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถมากเพียงใด

ทว่าหลินชิงเหอก็ไม่คิดว่านั่นเป็นเงินที่ขอยืมมา อย่าลืมว่าโจวซานนีและหลี่อ้ายกั๋วเจอกันได้อย่างไร ที่หลี่อ้ายกั๋วต้องการมาที่อำเภอของพวกเขา ก็เนื่องมาจากการที่เขาขายสินค้าของตนหมดแล้ว ตอนนั้นเองที่ทำให้เขาได้พบกับการแต่งงานที่คาดไม่ถึงเช่นนี้

นอกจากนั้นการที่ได้เห็นว่าเขาแสดงความเอาใจใส่ต่อโจวซานนีอย่างไร เมื่อมองในภาพรวมแล้วก็ไม่ได้แย่อะไรนัก

ในความคิดของหลินชิงเหอ อย่างน้อยก็ดีกว่าคนของสวี่เชิ่งเหม่ยหลายเท่าตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม