ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 424

บทที่ 424 ตำแหน่งงานว่าง

“หลานสาวตระกูลโจวของเราคนนี้น่ากลัวจริง ๆ” หลินชิงเหอเอ่ยด้วยแรงอารมณ์กับโจวเสี่ยวเหมย

โจวเสี่ยวเหมยย่นคิ้ว “หรือหล่อนจะใช้เรื่องลูกมาเป็นข้ออ้างในการฝากสวี่เชิ่งเฉียงให้มาทำงานในโรงงานตระกูลจ้าวกันคะ?”

“อืม” หลินชิงเหอพยักหน้า เธอไม่ได้พูดแสดงความคิดดำมืดในใจออกมา

สวี่เชิ่งเหม่ยอยากพาน้องชายของหล่อนมาที่นี่ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หล่อนอยากทำมานานแล้วแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำเสียที

ยิ่งกว่านั้น หลินชิงเหอรู้สึกว่าการที่สวี่เชิ่งเหม่ยเลือกจ้าวจวินตั้งแต่แรกเป็นเพราะหล่อนชอบใจตระกูลจ้าว พวกเขามีโรงงาน คุณพ่อจ้าวเป็นถึงผู้อำนวยการโรงงาน มันเป็นเรื่องยากแค่ไหนกันที่เขาจะใช้เส้นสายฝากคน ๆ หนึ่งเข้าไปทำงาน

แต่แม้ว่าสวี่เชิ่งเหม่ยจะได้แต่งงานอย่างสูงส่งตั้งแต่แรก หล่อนกลับไม่เคยมีโอกาสได้นำเรื่องนี้มาคุยกับพ่อสามี เพราะตัวหล่อนจัดว่าอยู่ตำแหน่งต่ำที่สุดในตระกูลจ้าว ดังนั้นไม่ต้องคิดถึงเรื่องยื่นคำขอให้น้องชายของหล่อนมาที่นี่เลย

แต่ตอนนี้ได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หล่อนจึงฉวยโอกาสนี้ในการพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เสือซ่อนเล็บตระกูลจ้าวนั่นก็อยากกู้หน้ากลับมาเหมือนกัน เพราะการแท้งลูกไม่ใช่เรื่องเล็ก และพวกเขาไม่อยากให้เรื่องมันแดงขึ้นมา

พวกเขาจึงใช้ตำแหน่งงานในการอุดเรื่องนี้

หลินชิงเหอเดาไว้แบบนี้ เธอรู้สึกว่าต่อให้มันจะผิดแผกจากที่เดาไว้ มันก็คงไม่คลาดจากที่เดาไว้มากนักหรอก

และถ้าเธอเดาถูกต้อง สวี่เชิ่งเหม่ยหลานสาวคนนี้ก็ดูจะเป็นคนที่ค่อนข้างน่ากลัวในเรื่องความเจ้าเล่ห์เพทุบายเลยทีเดียว

เกรงว่าในบรรดาหลานสาวตระกูลโจวคงไม่มีใครเทียบหล่อนได้อีกแล้ว

หล่อนอาจสู้ไม่ได้ในเรื่องของความเฉลียวฉลาด แต่ถ้าเป็นเรื่องกลอุบายแล้ว ไม่มีใครสู้หล่อนได้

โจวเสี่ยวเหมยเอ่ยตามตรง “เชิ่งเหม่ยคิดอะไรอยู่นะ? เฉียงจืออ่านคำไม่ได้มากนัก หลังเข้ามาทำงานในโรงงานแล้วเขาจะไม่ทำให้หล่อนขายหน้าเหรอ?”

การเข้ามาทำงานในโรงงานไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ปราศจากวุฒิการศึกษาที่เหมาะสมแล้ว คน ๆ นั้นก็จะไม่รู้จักจัดการสิ่งต่าง ๆ แล้วคนรอบตัวก็จะคัดพวกเขาออก

หลินชิงเหอไม่ได้เอ่ยอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตระกูลสวี่ต้องจัดการกันเอาเอง

ขณะที่ท่านแม่โจวรู้สึกใจอ่อนลง นางรู้ว่าหลินชิงเหอไม่ชอบหน้าสวี่เชิ่งเหม่ย จึงไม่กล้าที่จะบอกหลินชิงเหอแต่มาบอกกับโจวเสี่ยวเหมยแทน “เฉียงจือมาที่นี่แล้ว เราควรจัดการกับเขาอย่างไรดี?”

โจวเสี่ยวเหมยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร “ก็ให้ใครก็ตามที่บอกให้เขามาจัดแจงให้เขาเองสิคะ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลยถูกไหม?” จากนั้นหล่อนก็โน้มน้าวแม่ของตน “ถ้าแม่มีเวลาก็เลี้ยงไก่เถอะค่ะ ฉันได้ยินมาจากพี่สะใภ้สี่ว่าเจ้าใหญ่จะกลับมาในอีก 2 เดือน ถึงตอนนั้นเขาจะอยู่กับเราได้แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น แม่ต้องบำรุงเจ้าใหญ่อย่างด่วนที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เลยนะคะ”

“เขาไม่ได้กลับมาเกือบปี ตอนนี้เขากลับอยู่บ้านได้แค่ 7 วันเท่านั้นเหรอ?” ท่านแม่โจวเบนความสนใจในทันที

“ค่ะ หลานชายคนโตของแม่ไม่ได้อยู่สบายนัก หลานชายพวกนี้ชอบให้ปู่ย่าคอยกังวลกับพวกเขาอยู่เรื่อย พวกเขาไม่ใช่เฉิงเฉิงกับคนอื่น ๆ นี่คะที่ไม่มีปู่ย่ามาคอยกังวล” โจวเสี่ยวเหมยพูด

“ฉันรู้แล้ว ก็แค่ถามเท่านั้นแหละ พวกเราจะไม่ช่วยพวกเขาสามพี่น้องสักหน่อยได้อย่างไรล่ะ?” ท่านแม่โจวถอนหายใจ

“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็อย่ามาหาหนูกับต้าหลินนะคะ เราทั้งคู่ต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่ตีสี่ พวกเรายุ่งมากจนไม่มีเวลาจัดการเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด

ท่านแม่โจวไม่ว่ากล่าวอะไร

แม้สวี่เชิ่งเฉียงจะได้มาที่นี่แล้ว เขากลับถือตัวอย่างยิ่ง หลังจากแสดงตัวในวันแรกแล้วเขาก็ไม่เคยมาหาอีกเลย

แม้หลินชิงเหอจะไม่สนใจใด ๆ แต่ก็ยังส่ายหน้าอยู่ในใจ

ถ้าพูดในเรื่องของจิตใจแล้ว สวี่เชิ่งเฉียงยังหน้าบางมากนัก ห่างไกลจากสวี่เชิ่งเหม่ยผู้เป็นพี่สาวหลายขุม ที่ต่อให้หล่อนจะได้นั่งบนตั่งเย็น หล่อนก็ยังเสนอหน้ามาหาอยู่

ทุกครั้งที่หล่อนมาเยือน หล่อนก็จะลืมความขุ่นข้องหมองใจจากครั้งที่แล้วจนหมดสิ้น ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินชิงเหอคิดแล้วก็ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคนอย่างพี่สาวใหญ่กับพี่เขยใหญ่เลี้ยงดูลูกสาวอย่างสวี่เชิ่งเหม่ยมาได้อย่างไร?

แม้จะมีปัญหาชวนปวดหัวของสวี่เชิ่งเหม่ยกับสวี่เชิ่งเฉียงเข้ามา แต่วันเวลาตอนนี้ก็ยังสงบสุข การมาของสวี่เชิ่งเฉียงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มันกระทบชีวิตครอบครัวของเธอไม่ได้หรอกถูกไหม? ซึ่งนั่นก็ต้องขอบคุณเขาเป็นอย่างสูง

ในวันอาทิตย์ที่หลินชิงเหอได้หยุดงาน คุณแม่เวิงก็มาหา

ทั้งคู่พากันมาส์กหน้าด้วยน้ำผึ้งอยู่ในห้องนั่งเล่น

หลินชิงเหอบอกคุณแม่เวิงว่าลูกชายคนโตจะกลับมาในช่วงวันหยุดฤดูร้อน “เขากลับมาได้แค่อาทิตย์เดียวนะคะ หลังจากที่ไม่ได้กลับบ้านมาเกือบปี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม