บทที่ 426 ไร้ความหวัง
สะใภ้ใหญ่จะเป็นกังวลก็ถูกแล้ว
เพราะภายในสองวันก็เกิดเรื่องขึ้น
หลังสวี่เชิ่งเฉียงถูกฝากเข้ามาทำงานในโรงงานตระกูลจ้าวแล้วเขาก็ลำพองใจไม่น้อย เขาได้งานผ่านเส้นสายครอบครัว พี่สาวของเขาเป็นลูกสะใภ้ของผู้อำนวยการโรงงาน แล้วเขาจะไม่ลำพองใจได้อย่างไร?
แต่เดิมสวี่เชิ่งเฉียงก็เป็นคนประเภทชอบรังแกคนอื่นอยู่แล้ว แม้เขาไม่รู้อะไรเลยแต่ยังได้เข้ามาทำงานในโรงงานได้ ทำให้ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกไม่มั่นคง
แถมเขายังมาจากชนบท เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกด้อยค่าอยู่เสมอ
แต่เขาเป็นคนที่หยิ่งยะโสและก้าวร้าว ไม่ยอมอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อเรียนรู้จากคนอื่น โดยเฉพาะในเรื่องที่เขามีสำเนียงชนบทชัดเจน
วันเวลาผ่านไป ผู้คนในโรงงานเริ่มนินทาเขาอยู่บ่อย ๆ แต่ด้วยการที่เขามีเส้นใหญ่ พวกเขาจึงไม่กล้าพูดต่อหน้า ทว่าลับหลังแล้วมันก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่ว
แม้สวี่เชิ่งเฉียงจะรู้สึกได้ถึงสายตาเยาะเย้ยจากพวกเขา แต่เขาไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้ลากเขาลงบ่อโคลนเรียบร้อย
ถึงอย่างนั้นข่าวซุบซิบนินทาก็ถูกเปิดเผยโดยคนที่เกี่ยวข้องคนหนึ่งเสมอ
หลังจากที่เรื่องแดงขึ้นก็มีการต่อสู้กัน ชายคนนั้นไม่กล้าสู้กลับเพราะอีกฝ่ายเป็นญาติกับครอบครัวผู้อำนวยการ เขาจึงถูกสวี่เชิ่งเฉียงซ้อมจนมีอาการร่อแร่
เขาโดนซ้อมจนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล!
คุณพ่อจ้าวกับคุณแม่จ้าวโกรธมากในทันทีที่รู้เรื่อง โดยเฉพาะคุณแม่จ้าว ทันทีที่พวกเขามากินอาหารที่บ้าน หล่อนก็พลันเปิดฉากดุด่า
หล่อนไม่ได้เอ่ยชื่อตรง ๆ แต่ใช้วิธีพูดเสียดสีเหน็บแนมแทน
“พอกันทีกับการฝากมันเข้ามาทำงานโดยที่มันไม่ทำอะไรเลย มันกล้าซ้อมคนอื่นแบบนี้ ต่อให้ตระกูลจ้าวของเราจะเป็นคนตัดสินใจ แต่โรงงานก็ไม่ใช่ของตระกูลเรา ต่อให้เป็นโรงงานตระกูลจ้าว แกจะยังทำแบบนี้ได้เหรอ?”
“สมกับเป็นคนบ้านนอกจริง ๆ ขายขี้หน้าคนอื่นชะมัด ชายคนนั้นพูดแค่ไม่กี่คำถึงกับต้องซ้อมจนส่งเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ? ป่าเถื่อนสิ้นดี มันคิดว่าที่นี่เป็นที่ชนบทยากจนหรือยังไง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเราใช้เงินยัดในคราวนี้ เรื่องก็คงไม่จบหรอก คงต้องขึ้นโรงพัก ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครช่วยเหลือมันได้แล้ว มันต้องติดคุกติดตะราง อย่าแม้แต่จะคิดว่าชีวิตนี้จะเจริญหลังทำเรื่องระยำแบบนี้เลย!”
“…”
สวี่เชิ่งเหม่ยฝืนยิ้มก่อนเอ่ยขึ้น “คุณแม่คะ เรื่องนี้เฉียงจือเป็นคนผิดจริง ๆ ถึงชายคนนั้นจะนินทาลับหลังเขา แต่เขาก็ไม่ควรซ้อมคนอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน คุณแม่อย่ากังวลไปเลยค่ะ เราจะไปเยี่ยมและขอโทษเขาเอง ส่วนค่ารักษาพยาบาลและอื่น ๆ เราก็จะจ่ายให้เขา”
คุณแม่จ้าวแค่นเสียงเย็นชา “พอกันทีกับการให้มันมาทำงานในโรงงานโดยไม่ได้อะไรกลับมานานขนาดนี้ แถมมันยังสร้างปัญหาให้เราไม่หยุด ฉันคิดว่ามันไม่ต้องทำงานอีกแล้วล่ะ!”
novel-lucky
“คุณแม่อย่ากังวลไปเลยค่ะ คราวนี้ฉันจะไปสั่งสอนเฉียงจือให้ดี ๆ ให้เขาทำงานต่อเถอะค่ะ เขาจะไม่สร้างปัญหาให้ตระกูลจ้าวอย่างแน่นอน” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยรับประกัน
คุณแม่จ้าวส่งสายตาทิ่มแทงให้หล่อนและไม่พูดอะไรอีก
สวี่เชิ่งเหม่ยกินอาหารเย็นมื้อนั้นแบบฝืดคอที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารใส่กล่อง และออกจากบ้านตระกูลจ้าวมาหาน้องชาย
สวี่เชิ่งเฉียงเช่าบ้านพักอยู่อาศัยข้างนอก เขาไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลจ้าว เพราะทางตระกูลจ้าวไม่อนุญาต ยิ่งกว่านั้นมันก็ไม่มีห้องเหลือด้วย
“ทำไมพี่มาช้าแบบนี้? ผมหิวจะตายอยู่แล้ว?” สวี่เชิ่งเฉียงพูดเมื่อเห็นหล่อนมา จากนั้นจึงคว้ากล่องข้าวไปกิน
สวี่เชิ่งเหม่ยไม่ได้ห้ามเขาเช่นกัน หลังเห็นเขากำลังเขมือบ หล่อนก็เอ่ยเสียงเรียบ “หลังกินเสร็จแล้ว นายเก็บข้าวของแล้วกลับไปได้แล้วล่ะ”
“หา?” สวี่เชิ่งเฉียงแทบจะสำลัก เขาไออย่างห้ามไม่ได้ ในที่สุดก็กลืนอาหารในปากลงท้องก่อนจ้องมองพี่สาว “พี่หมายความว่ายังไง? อยากให้ผมกลับไปเหรอ?”
“จะไม่กลับเหรอ? นายจะอยู่ต่อสร้างปัญหาที่นี่เนี่ยนะ!” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยด้วยสีหน้าขรึมลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...