บทที่ 532 หลานชายคนโตของย่า
“ชอบแล้วเหรอครับ? ทำไมผมกลับรู้สึกว่าหมอนั่นยังไม่เห็นจะเปิดใจเลย” เวิงกั๋วต้งพูดอย่างประหลาดใจ
“แฟนสักคนลูกก็ยังไม่เคยมี ลูกจะไปเข้าใจอะไร?” คุณแม่เวิงพูดอย่างรู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่า
ตอนที่หล่อนพูดถึงอายุที่ควรจะแต่งงาน หล่อนก็เห็นว่าเสี่ยวข่ายแอบมองลูกสาวของหล่อนอยู่
อย่าถามเลยว่าในใจคุณแม่เวิงรู้สึกดีขนาดไหน คนเป็นว่าที่แม่ยายยิ่งมองก็ยิ่งพอใจที่ว่าที่ลูกเขยพูดออกมาแบบนี้แล้ว
หล่อนรู้อยู่แก่ใจแล้วและยังแน่ใจอีกด้วย แต่ท่าทางของลูกสาวหล่อนกลับยังดูไม่ชัดเจน
เวิงกั๋วต้งถูกแทงใจดำอีกครั้งก็ไม่พูดต่อ
“คุณอย่าไปพูดแบบนั้นกับเหม่ยเจี่ย ลูกก็พอใจในตัวของเสี่ยวข่ายเหมือนกัน” คุณพ่อเวิงพูด ลูกสาวของตัวเองทำไมเขาถึงจะไม่รู้
เวิงกั๋วต้งพยักหน้า น้องสาวตัวเองแกะส้มให้โจวข่ายกินแบบนี้แล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงความใส่ใจที่มีต่อเขาเลย
คุณแม่เวิงได้ยินจึงไม่ได้เข้าไปรบกวนลูกสาว หล่อนยิ้มและพูดขึ้น “ให้พวกเขาคบกันก่อน 2 ปี แล้วหลังจากนั้นก็ให้พวกเขาแต่งงานกัน”
คุณพ่อเวิงเองก็รู้สึกว่าไม่เลว แต่งงานตอนอายุ 22-23 กำลังพอดี ไม่เด็กเกินไปด้วย
ด้านโจวข่ายพอกลับมาถึงก็เห็นแม่ของเขากับน้อง ๆ ตอนที่เขากลับมากับเหม่ยเจี่ยนั้นพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่ไปซื้อของกัน
“พี่ใหญ่สุดยอด แบบนี้แค่มองก็รู้แล้วว่ามีฝีมือ(ด้านการต่อยตี)” โจวกุยหลายพูดอย่างอิจฉา
“รอนายเรียนจบ เข้าไปที่นั่นสัก 2 ปีแล้วค่อยออกมาสิ” โจวข่ายพูด
โจวกุยหลายมีสีหน้าเปลี่ยนทันที “ผมไม่ไป ๆ ผมจะอยู่บ้านคอยดูแลป๊าม้าแล้วก็พวกปู่ย่า!”
“มีแววอยู่” โจวข่ายปรายตามองเขาอย่างหมั่นไส้
“พี่ใหญ่ แขนพี่ตอนนี้แข็งปั๋งเหมือนเหล็กกล้าเลย” โจวกุยหลายพูดขึ้นพลางทุบแขนพี่ชายเล่น
โจวข่ายไม่สนใจเขาอีกและมองไปที่หลินชิงเหอ “ม้าครับ เย็นนี้ทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้ผมกินหน่อยสิ?”
“อยากได้อะไรอร่อย ๆ งั้นเหรอ? กินหัวไชเท้าดองไปก่อนเถอะ!” หลินชิงเหอพูด
พูดจบเธอก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระเพาะหมูที่ซื้อมาแช่เย็นเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา และเรียกเจ้ารองให้ไปต้มน้ำถอนขนไก่ออก
ทุกครั้งที่กลับมา หลินชิงเหอจะทำอาหารจำพวกกระเพาะหมูยัดไก่ให้เขากิน เธอรู้ว่าเขาอยู่ข้างนอกไม่ได้อดมื้อกินมื้อก็จริง แต่พอกลับมาแล้วก็จะต้องบำรุงเขาเสียหน่อย
คำโบราณกล่าวไว้ไม่ผิด คนบำรุงกระเพาะไว้ก่อน 30 ปี อีก 30 ปีให้หลังกระเพาะจะบำรุงคนเอง
เธอจึงทำกระเพาะหมูยัดไก่นี้มาบำรุงเขาอย่างดี
“พี่ใหญ่กลับมาทีไรม้าก็ทำอาหารจานนี้ให้กินทุกที เมื่อวานถึงกับไปสั่งจองกระเพาะหมู 3 ชิ้นไว้ล่วงหน้าเลยนะ ทั้งหมดเก็บไว้ให้พี่เลย ขนาดพวกเราอยากกินม้ายังบอกว่ารอให้พี่กลับมาก่อนแล้วค่อยกินน่ะ” โจวกุยหลายจุ๊ปากพูด
“ปกติลูกอดยากหรือว่าไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่หรือไงจ๊ะ?” หลินชิงเหอพูด
“ไม่ใช่ครับ ก็แค่รู้สึกว่าทุกครั้งที่พี่ใหญ่กลับมา พี่รองกับผมจะไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว” โจวกุยหลายหัวเราะ
“แม่โปรดปรานพวกนายมาทั้งปีแล้ว แบ่งให้ฉัน 2-3 วันสิ” โจวข่ายพูด
โจวกุยหลายหัวเราะ หลังจากนั้นก็กลับไปที่บ้านเพื่อหยิบกล้องของเขามา ก่อนให้พี่ชายใหญ่ของเขายืนเพื่อเป็นแบบถ่ายรูป
“พี่ไม่รู้อะไรหรอก ตอนที่พี่ยังไม่กลับมา ม้าก็จะดูรูปพวกนี้ทุกวัน พลิกดูกลับไปกลับมาตั้งหลายรอบ” โจวกุยหลายพูด
โจวข่ายจึงให้ความร่วมมือด้วยการถ่ายรูปกับแม่เขา ถ่ายกับพ่อผู้มีสีหน้าปราศจากอารมณ์ และออกไปถ่ายกับน้องรองที่กำลังถอนขนไก่อยู่
เมื่อเดินวนถ่ายรูปพี่ใหญ่แบบนี้แล้วโจวกุยหลายก็พูดด้วยรอยยิ้ม “อัลบั้มรูปของครอบครัวเป็นสิ่งของล้ำค่าแล้ว หลังจากนี้มันก็จะเป็นมรดกของเราแล้วล่ะ”
ตั้งแต่เขายังเล็ก พ่อกับแม่ก็พาพวกเขาไปถ่ายรูปในตัวอำเภอ และเป็นธรรมเนียมแบบนี้ต่อกันมาทุก ๆ ปี
แม้ตอนนี้โจวกุยหลายจะโตขนาดนี้แล้ว แต่เมื่อได้กลับไปดูรูปที่พวกเขายังเด็กเหล่านั้น เขาก็รู้สึกอิ่มเอมใจเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...