ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 579

บทที่ 579 อบอุ่นดั่งหยก

รองผู้ว่าการเจียงกับเซวียเหม่ยลี่ได้ยินแล้วก็รู้สึกจนปัญญา

“จริงสิ พี่ชายรองมาแล้ว พรุ่งนี้ผมจะพาพี่รองไปเที่ยว แม่บุญธรรมบอกว่าพรุ่งตอนเย็นให้พาไปกินข้าวที่นั่น” เจียงเกิงพูด

“งั้นพรุ่งนี้เช้าลูกอย่าลืมบอกพ่อแม่บุญธรรมของลูกว่า ไม่ต้องซื้อกับข้าวอะไรนะ ให้แม่กับพ่อของลูกซื้อก็พอ ” เซวียเหม่ยลี่พูด

“ครับ” เจียงเกิงพยักหน้า

เขาเองก็เหนื่อยแล้วเช่นเดียวกัน หลังอาบน้ำเสร็จก็กลับไปเข้าห้องนอนของตัวเอง

ส่วนสาวน้อยเจียงอวี๋กำลังกินขนมที่พี่ชายนำกลับมา “อร่อย ๆ ”

เซวียเหม่ยลี่หัวเราะและนั่งลงกินด้วยหนึ่งชิ้น จากนั้นก็ยื่นให้สามีของหล่อนอีกหนึ่งชิ้นพร้อมพูดขึ้น “ครอบครัวโจวใจกว้างจริง ๆ เลยนะคะ”

แน่นอนว่าไม่ใช่ความเห็นแก่ได้อะไร แต่ครอบครัวโจวนั้นทั้งอัธยาศัยดีทั้งตรงไปตรงมา ไม่มีใครไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนเช่นนี้หรอก

ขนาดหล่อนเองยังอยากจะสานสัมพันธ์กับครอบครัวนี้ต่อไปเลย

เพราะว่าพวกเขามีผลกระทบต่อคนมาก ดูลูกชายหล่อนสิเพิ่งจะไม่นานเท่าไหร่ หล่อนกลับสัมผัสได้ว่าจิตใจเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว เมื่อก่อนยังเป็นเด็กท่าทางไม่รู้ความอยู่เลย

“ครอบครัวนี้ไม่เลวเลย ต่อไปต้องได้ไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ แล้ว” รองผู้ว่าการเจียงพยักหน้าพูด

หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน หลินชิงเหอพิงหลังกับที่นั่ง ส่วนโจวชิงไป๋กำลังดูสมุดบัญชีอยู่

เจ้ารองเป็นคนเอามันมา หลังจากที่พวกเขาทำการเปลี่ยนแปลงร้านแล้วก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ตอนนี้ยอดขายเพิ่มมากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก

“ตอนนี้สถานการณ์ภายในครอบครัวไม่มีปัญหาอะไรครับ ป๊ากับม้าดูแลตัวเองดี ๆ ก็พอแล้ว” โจวเฉวี่ยนพูด

“ไม่กังวลหรอกจ้ะ มีพวกลูกสองคนอยู่นี่ทั้งคน ถ้าขนาดเด็กม.ปักกิ่งสองคนยังดูแลร้านไม่ดีอีก ม้าก็ไม่กล้าคิดถึงว่าพวกลูกจะเลี้ยงดูตอนแก่ยังไงแล้ว” หลินชิงเหอพูด

โจวเฉวี่ยนหลุดขำออกมา

“ทำไมยอดขายร้านบุหรี่เพิ่มขนาดนี้เลยล่ะ?” โจวชิงไป๋พูด

“เจ้าสามเป็นคนไปดูน่ะครับ ทั้งยังเอาบุหรี่นำเข้าเข้ามาด้วยล็อตหนึ่ง กิจการไม่เลวเลยครับ” โจวเฉวี่ยนพูด

“หลังติดตั้งโทรศัพท์แล้ว ได้โทรศัพท์ไปหาพี่ใหญ่บ้างแล้วหรือยัง?” หลินชิงเหอถาม

“โทรไปแล้วครับ คนที่นั่นบอกว่าจะบอกพี่ใหญ่ให้ แต่ตอนนี้พี่ใหญ่น่าจะกำลังทำภารกิจอยู่ คงจะไม่ได้กลับ” โจวเฉวี่ยนพูด

โจวชิงไป๋มองลูกชายนิด ๆ โจวเฉวี่ยนถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว จึงมองไปที่แม่ของเขาอย่างหวาด ๆ แล้วมันก็ทำให้เขาได้เห็นสีหน้าที่ดำทะมึนเล็กน้อยของแม่เขา

“ม้าไม่ต้องกังวลถึงพี่ใหญ่หรอกนะครับ เขาเป็นคนยังไงแม่เองก็รู้ ที่จริงแล้วพวกเราสามคนแม่ไม่ต้องกังวลเลยจริง ๆ นะครับ” โจวเฉวี่ยนละล่ำละลักพูดปลอบใจหล่อน

หลินชิงเหอมองค้อนเขาครั้งหนึ่งแล้วพูด “ลูกยังต้องบอกม้าอีกเหรอ พักนี้ม้าไม่ได้โทรศัพท์หาพี่ใหญ่ของลูกเลย”

การที่เธอคิดถึงลูกชายคนโตนั้นเป็นเรื่องจริง แน่นอนว่าย่อมต้องรู้สึกกังวลอยู่แล้ว แต่เธอก็รู้ว่ามันยากจะทำใจ เพราลูกชายของเธอเลือกทำอาชีพนี้เอง นั่นก็เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเขาเช่นกัน

“ผมบอกกับคุณยายหม่าแล้วว่าถ้าได้รับโทรศัพท์จากพี่ใหญ่ ก็ให้นัดเวลาโทรกับพี่ใหญ่ไว้ หล่อนจะต้องบอกกับเจ้าสามอยู่แล้วครับ พรุ่งนี้ผมจะโทรศัพท์ไปหาเจ้าสาม ฝากบอกว่าถึงตอนนั้นให้โทรมาที่นี่หน่อยได้ไหม” โจวเฉวี่ยนพูด

แม้จะดูวุ่นวายไปสักหน่อย แต่หลินชิงเหอก็พยักหน้ารับ “ก็ได้จ้ะ”

โจวเฉวี่ยนจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

“รีบไปพักผ่อนเถอะจ้ะ นั่งรถมาทั้งวันแล้ว” หลินชิงเหอพูด

“ครับ” โจวเฉวี่ยนจึงขอตัวไปพักผ่อนก่อน

หลินชิงเหอจึงดูละครเรื่องจิ้งจอกภูเขาหิมะต่อสักพัก แล้วก็งีบหลับกับโจวชิงไป๋พลางพูดว่า “อาชีพของเจ้าใหญ่ทำฉันเป็นห่วงจริง ๆ ค่ะ”

“ฝีมือของเขาดีกว่าผมเมื่อตอนนั้นเสียอีก คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก” โจวชิงไป๋พูดแล้วกอดปลอบ

เขารู้จักลูกชายของตัวเองดี เด็กคนนั้นเป็นสีเขียวเกิดจากสีน้ำเงินแต่กลับเด่นกว่าสีน้ำเงิน [1] ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลย อีกทั้งเจ้าใหญ่ของเขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม