ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 595

บทที่ 595 หัวร้อนและมุทะลุ

หลินชิงเหอว่างเว้นไว้แปดหรือสิบวันจึงโทรศัพท์ไปหาโจวเสี่ยวเหมย และรับรู้เรื่องนี้มาจากปลายสายเช่นกัน

“ตอนนั้นคุณแม่โมโหมากจนหวังหยวนต้องพาไปโรงพยาบาลทันที ฉันก็โมโหแทบตายเหมือนกัน สรุปแล้วตระกูลโจวของพวกเราเคยติดหนี้อะไรพวกเขาสองพี่น้องกันแน่คะ เรื่องดี ๆ ไม่เคยทำ พอเกิดเรื่องแบบนี้พวกเขากลับรีบเอาหายนะมาให้ทันที!” โจวเสี่ยวเหมยพูดด้วยน้ำเสียงเดือดจัด

ต้นเหตุของเรื่องนี้ก็คือสวี่เชิ่งเฉียงที่ออกไปตั้งแผงลอยนั้นมีเรื่องวิวาทกับคนอื่น อีกฝ่ายขอต่อรองราคา เขาก็พูดอย่างไม่ไว้หน้าด่าว่าจนแล้วก็อย่ามาซื้อเสื้อเขา อีกฝ่ายไม่ยอมและยืนขวางแผงขายของกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาซื้อสินค้าของเขา

สวี่เชิ่งเฉียงย่อมต้องไม่พอใจจึงต่อยอีกฝ่ายทันที

ไม่เพียงถูกคนซ้อมอย่างน่าเวทนา เขาก็เป็นคนหัวร้อนและมุทะลุเช่นกัน แต่เขาก็สู้คนได้โหดเหี้ยมมากถึงขนาดใช้ก้อนอิฐฟาดจนหัวแตก ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าอีกฝ่ายถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น

หลังจากนั้นเขาก็ถูกจับกุมตัวไปแล้ว

เรื่องนี้ตอนแรกสวี่เชิ่งเหม่ยไม่รู้ เป็นจางเหมยเหลียนพอได้รับข่าวก็ตรงไปที่บ้านตระกูลจ้าวทันที เนื่องจากพอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หล่อนก็มีแต่ต้องมาหาสวี่เชิ่งเหม่ยที่ตระกูลจ้าวแล้ว

สวี่เชิ่งเหม่ยโกรธจนตบหน้าหล่อนไปหนึ่งที หลังจากนั้นจึงไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลจ้าว เพียงแต่ตระกูลจ้าวกลับไม่คิดจะสนใจเลยสักนิดเดียว

ไม่ใช่ครั้งแรกที่สวี่เชิ่งเฉียงอวดดีจนเป็นเรื่องแบบนี้ ครั้งก่อนที่โรงงานก็วิวาทต่อยตีกับคนอื่นไม่เบาเลย ซึ่งในตอนนั้นตระกูลจ้าวก็ไกล่เกลี่ยให้แล้ว ต่อมาเขาก็มีเรื่องต่อยตีในตอนเรียนภาคค่ำ มาตอนนี้เขาก็มีเรื่องทะเลาะต่อยตีขณะตั้งร้านแผงลอยอีกแล้ว

ตระกูลจ้าวไม่ใช่คนที่มีหน้าที่ต้องมาเก็บกวาดปัญหาที่คนอื่นก่อขึ้น ทำครั้งเดียวพวกเขาก็เกินพอแล้ว นี่ยังจะมีครั้งที่สองอีกเหรอ? ต่อให้สวี่เชิ่งเหม่ยจะมีลูกชายให้พวกเขาแล้วก็ไร้ประโยชน์

ตระกูลจ้าวไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอะไรแบบนั้นด้วย

สวี่เชิ่งเหม่ยจึงจำต้องมาขอความช่วยเหลือที่ตระกูลโจว จะว่าไปแล้วตั้งแต่เรื่องที่หล่อนทำแดงขึ้นมา หล่อนก็ไม่มาที่นี่อีกเลย แน่นอนว่าบ้านหลักตระกูลโจวก็ไม่คาดหวังให้สองพี่น้องมาหาเช่นกัน

มีชีวิตของใครของมันไปก็พอ

แต่ใครจะรู้ว่าหล่อนจะมาหา อีกทั้งบทจะมาหาก็นำเรื่องมาให้ด้วย แถมยังเป็นเรื่องคุกเรื่องตารางอีก

ตอนนั้นท่านแม่โจวโมโหจนพูดอะไรไม่ออก และถูกความโกรธเล่นงานจนมึนหัวไปเลย

“แล้วจัดการกันยังไงต่อ?” หลินชิงเหอถามขึ้น ความจริงเธอไม่ได้อยากจะฟังเรื่องเหล่านี้เท่าไรนัก แต่ก็ทำเหมือนฟังเรื่องซุบซิบนินทาไปแล้วกัน

“หวังหยวนจัดการให้แล้วน่ะค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด

หวังหยวนออกมาทำการค้าก็จริง แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวของเขามีเส้นสายทางการเมืองอยู่ การจะเอานักโทษออกมาสักคนหนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก

อันดับแรกสวี่เชิ่งฉียงไม่ได้ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต คนคนนั้นแม้ว่าจะศีรษะแตกจนเลือดอาบไม่น้อย แต่โชคดีที่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้

ดังนั้นสวี่เชิ่งเฉียงจึงถูกจำคุก 7 วัน สุดท้ายแล้วก็ใช้เงินประกันตัวออกมา

เป็นจำนวนเงิน 5,000 หยวน

“จางเหมยเหลียนนั่นร้องห่มร้องไห้บอกขายหน้าคนอื่นจะตายแล้วที่สามีของหล่อนทำร้ายคนจนกลายเป็นแบบนั้น ไม่จ่ายเงินแล้วจะแก้ไขปัญหาได้ยังไง” โจวเสี่ยวเหมยแค่นหัวเราะเสียงเย็น

หล่อนร้องไห้โวยวายบอกว่าคนอื่นก็ผิดเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายผิดที่ไปต่อยตีคนอื่นก่อน ฝ่ายนั้นใช้กำปั้นของตัวเองทั้งหมด แต่สวี่เชิ่งเฉียงกลับหยิบก้อนอิฐขึ้นมาใช้

จากที่มีข้ออ้างก็กลายเป็นไร้ข้อแก้ตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสวี่เชิ่งเฉียงเลยว่าเขายังมีเหตุผลอะไรให้แก้ตัวได้อีก!

“นั่นเป็นเงินที่เยอะมากเลยนะ” หลินชิงเหอพูด

5,000 หยวนนั่นเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียว

“จางเหมยเหลียนจ่าย 3,000 หยวนค่ะ สวี่เชิ่งเหม่ยออกให้ 2,000 หยวน” โจวเสี่ยวเหมยพูด

ส่วนตระกูลจ้าวนั้นแน่นอนว่าพวกเขาไม่ออกเงินให้อยู่แล้ว ล้อเล่นหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาสักนิด หวังหยวนต้องออกหน้ามาประกันตัวด้วยตัวเองก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ไม่อย่างนั้นสวี่เชิ่งเฉียงจะได้ออกมาเร็วขนาดนี้เหรอ?

“หลังจากออกมาแล้วแม้แต่หน้าก็ยังไม่มาให้เห็นเลยค่ะ!” โจวเสี่ยวเหมยพูดต่อพร้อมกับพ่นลมขึ้นจมูกอย่างเย้ยหยัน

แม้พวกเขาจะไม่สนใจว่าสวี่เชิ่งเฉียงแสดงท่าทางอย่างไร แต่ท่าทางที่เขาแสดงออกมาแบบนี้ก็เกินจะเยียวยาแล้วเหมือนกัน

“ครั้งนี้ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับพี่แล้ว เตือนกังจือกับหู่จือไว้ก็พอ” หลินชิงเหอพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม