บทที่ 596 เจ้าใหญ่กลับบ้าน
สำหรับนิสัยแบบนั้นของสวี่เชิ่งเฉียง หลินชิงเหอนั้นรู้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่เริ่มต้น และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะจบเช่นกันกัน ถ้ายังมีนิสัยเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะยิ่งแย่กว่านี้อีก
แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับสองพี่น้องนั่นยังสู้คนแปลกหน้าไม่ได้เลย หลินชิงเหอจึงย่อมไม่เอ่ยปากพูดอะไรมาก
ต่อให้พูดไปเขาก็คงไม่ฟังเหมือนกัน จึงไม่จำเป็นที่เธอจะต้องไปค่อยสั่งสอนพวกเขา
หลังกินข้าวเย็นเสร็จ โจวชิงไป๋ก็ออกจากบ้าน ซึ่งหลินชิงเหอรู้ว่าเขาออกไปโทรศัพท์
เหมือนจะเดาได้ว่าเขาต้องโทรศัพท์ไปเหมือนกัน โจวกุยหลายจึงรีบกินข้าวเย็นที่บ้านปู่กับย่าแล้วรีบมาดักรอรับสายที่ร้านเกี๊ยว
“เหอะ พอผมได้ยินคุณอาเล็กโทรศัพท์ไปหาม้าแล้ว ก็รู้ว่าอีกไม่นานป๊าต้องโทรมาที่ร้านแน่” โจวกุยหลายพูดด้วยรอยยิ้ม
“ปู่กับย่าของลูกสบายดีไหม” โจวชิงไป๋ถาม
“สองสามวันมานี้ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับ ปวดหัวตัวร้อน แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ป๊าไม่ต้องห่วง” โจวกุยหลายพูด
โจวชิงไป๋ไม่ได้ถามเรื่องของสวี่เชิ่งเฉียง เพียงฝากให้บอกหู่จือกับกังจือสองคนพี่น้องนั้นว่าให้ระวังตัวเองขณะออกไปตั้งแผงลอยข้างนอก
“พวกเขารู้แล้วล่ะครับ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องเตือนหรอก ป๊าครับ น้องสาวของผมหน้าตาเป็นยังไงเหรอ?” โจวกุยหลายพูด
พอพูดถึงลูกสาวของตัวเอง อารมณ์ของโจวชิงไป๋ก็ดีขึ้นถนัดตา “เหมือนพ่อ”
เขารู้สึกขัดใจไม่น้อย เจ้าใหญ่กับเจ้าสามเหมือนเขากันหมดแล้ว แต่เจ้ารองกับเจ้าสี่กลับเหมือนเอนไปทางแม่พวกเขาเล็กน้อย
ก็เหมือนกับเจ้ารองในตอนนี้ที่มีหน้าตาดึงดูด แต่เพียงคิดไปถึงตอนที่ลูกสาวของเขาโตแล้ว เขาควรจะปกป้องหล่อนอย่างไร
โจวกุยหลายพูด “พี่ซื่อนีบอกว่าเหมือนผมนะ!”
ตอนนี้เป็นปลายเดือนพฤศจิกายน อีกนิดก็ใกล้จะเข้าสู่เดือนธันวาคมแล้ว แน่นอนว่าเป็นการนับตามปฏิทินสุริยคติ แต่นั่นก็หมายถึงฤดูกาลอันหนาวเย็นเช่นกัน
ตอนนี้อากาศเย็นมากจริง ๆ ขนาดตอนเช้าตื่นขึ้นมายังสามารถมองเห็นน้ำแข็งได้แล้ว
พวกเขาที่เป็นพี่ชายย่อมต้องเป็นห่วงน้องสาวอยู่แล้ว เนื่องจากจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยเจอตัวเลย
โจวชิงไป๋มีความอดทนเช่นกัน จนถึงตอนนี้ถึงเอ่ยปากพูด “ปีนี้พี่ใหญ่ของพวกลูกยังไม่กลับมาเหรอ?”
“พี่ใหญ่บอกว่ายังไม่รู้ แต่เขารู้เรื่องที่ม้าคลอดน้องสาวแล้ว เป็นไปได้เก้าในสิบส่วนครับที่เขาจะกลับมา” โจวกุยหลายพูด
พวกเขารู้ดีถึงนิสัยพี่ใหญ่พวกเขา ยิ่งปีนี้ครอบครัวของพวกเขามีเรื่องน่ายินดีถึงขนาดนี้ ต่อให้ไม่มีโอกาสกลับมาก็ต้องหาโอกาสกลับมาให้ได้
ซึ่งเขาก็ไม่ได้เดาผิดเช่นกัน ตอนนี้โจวข่ายกำลังโน้มน้าวเพื่อนร่วมงานของเขาให้รับผิดชอบงานที่เขาได้รับมอบหมายแทน เพื่อที่เขาจะได้กลับบ้าน
“ผมรู้สึกผิดต่อพี่สะใภ้แล้วจริง ๆ แต่ว่ายังไงปีนี้พี่ให้โอกาสผมกลับบ้านเถอะครับ แม่ของผมจะมีอายุครบ 40 ปีหลังปีใหม่นี้ แล้วตอนต้นปีผมก็ยังไม่รู้ว่าแม่ท้อง จนมาปีนี้แม่คลอดน้องสาวให้ผมคนหนึ่ง ผมเลยจำเป็นจะต้องกลับไปดูพวกเขาน่ะครับ” โจวข่ายพูด
ในเวลาเดียวกันเขาก็ยัดกระเป๋าใบใหญ่ที่บรรจุของไว้เต็มให้กับอีกฝ่าย
กระเป๋าใบนี้เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจของเขา ในนั้นมีนมผง 5-6 กระป๋อง อาหารเสริมธัญพืช 4-5 กระป๋อง นอกจากนั้นยังมีผลไม้กระป๋อง อย่างอื่นก็จะเป็นลูกอมตรากระต่ายขาว 7 ถึง 8 ห่อ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นของดี
ของเหล่านี้เสียเงินไปไม่น้อย และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อด้วยเงินเบี้ยเลี้ยงของเขา
เพียงเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของโจวข่ายแล้ว
เพื่อนร่วมงานของเขามีอายุ 40 กว่าปี ตอนนี้อยู่ตำแหน่งเดียวกับโจวข่าย ที่จริงเขาก็อยากจะกลับปีใหม่เหมือนกัน เนื่องจากปีที่แล้วก็ไม่ได้กลับไป
ภรรยาและลูกกำลังรอเขาอยู่ที่บ้าน
แต่ว่าพอเห็นสิ่งของเหล่านี้แล้ว ใจเขาก็สั่นไหวเหมือนกัน
เพราะทั้งหมดเป็นของบำรุงชั้นดี ถ้าเป็นเขาล่ะก็ เขาคงไม่กล้าซื้อเยอะขนาดนี้หรอก
“ผมกลับไปปีนี้ ถ้ามีวันหยุดครั้งต่อไป พี่ก็มาเปลี่ยนกับผมได้ครั้งหนึ่ง พี่จะได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวได้เหมือนกันไงล่ะครับ” โจวข่ายพูด
“งั้นก็ได้ ปีนี้ผมก็คงต้องยกรายชื่อขอหยุดให้คุณแล้ว” เพื่อนร่วมงานของเขากล่าวตกลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...