บทที่ 597 ใครก็ห้ามทอดทิ้งใคร
การใช้ชีวิตของคนคนหนึ่งสามารถส่งผลกระทบกับอีกคนหนึ่งได้
อย่างเช่นเวิงเหม่ยเจี่ยที่ชอบการใช้ชีวิตของโจวข่ายมาก และหล่อนรู้ว่าเขาจะต้องเลียนแบบมาจากน้าหลินแน่
น้าหลินของหล่อนชอบทานผลไม้มาก แม้โจวข่ายจะชอบกินเนื้อมากกว่า แต่กับผลไม้พวกนี้เขาก็ได้ทานบ่อย ๆ เช่นกัน อย่างเช่นส้ม แอปเปิล กล้วย
และเขาก็ชอบเอามันมาให้หล่อนบ่อย ๆ ด้วย
เวิงเหม่ยเจี่ยเองก็ชอบกิน แน่นอนว่าหล่อนไม่ได้ไปซื้อเอง หล่อนจะกินก็ต่อเมื่อโจวข่ายนำมาให้
แต่เห็นได้ชัดว่าการกินของพวกนี้มาก ๆ นั้นดีมากแค่ไหน
อย่างน้อยในปีนี้หล่อนก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองเจ็บคอไม่สบายแล้ว
และเมื่อปีนี้มีโอกาสได้หยุด โจวข่ายย่อมต้องรู้สึกดีใจเป็นธรรมดา พอไปหาเวิงเหม่ยเจี่ยเสร็จ เขาก็โทรศัพท์กลับมาบอกที่บ้าน
คุณป้าหม่าเป็นคนรับ และนางก็ดีใจที่ได้ยินเสียงของเขา “เสี่ยวข่ายเหรอจ๊ะ?”
“คุณยายหม่า ผมเองครับ พวกน้องชายผมอยู่ที่ร้านหรือเปล่า?” โจวข่ายถาม
“ตอนนี้ไม่อยู่จ๊ะ เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนยังอยู่นะ” คุณป้าหม่าพูด
“งั้นคุณยายหม่าบอกพวกเขาให้หน่อยนะครับว่าปีนี้ผมจะกลับไปฉลองปีใหม่ด้วย” โจวข่ายพูดพลางยิ้มไปด้วย
“ปีนี้เธอกลับมาได้ ปู่ย่าและก็พ่อกับแม่ของเธอจะต้องดีใจกันแน่” คุณป้าหม่าได้ยินก็พูดอย่างดีใจ
เมื่อไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ทั้งคู่ก็วางสายไป พอโจวเฉวี่ยนมาถึง คุณป้าหม่าก็พูดกับเขาเรื่องนี้
โจวเฉวี่ยนได้ยินก็ไม่แปลกใจ และเดินไปบอกกับคุณย่าของเขา
ท่านแม่โจวดีใจมาก “เจ้าใหญ่กลับมาได้ก็ดีแล้ว คนแก่อย่างฉันไม่รู้ว่าจะสามารถเจอหลานชายคนโตได้อีกกี่ครั้ง”
ครั้งนี้ที่ถูกเจ้าหลานชายนอกตระกูลก่อเรื่องจนโมโหหน้ามืดไป ก็ทำให้นางยอมรับแล้วว่าตัวเองแก่แล้วจริง ๆ ร่างกายกระดูกกระเดี้ยวเริ่มจะไม่ไหวแล้ว
จะว่าไปแล้วตั้งแต่มาที่เมืองหลวงนางก็หน้ามืดไปแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเพราะหลานนอกตระกูลผู้หญิง ครั้งนี้ก็โกรธจนหน้ามืดเพราะหลานนอกตระกูลผู้ชายอีก
สองพี่น้องนั่นทำให้นางต้องเป็นแบบนี้ทั้งสิ้น ถ้าเกิดมีเรื่องขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ว่าตัวนางเองจะสามารถทนไหวหรือเปล่า
“คุณก็พูดเกินไป ใกล้จะปีใหม่แล้วพูดเรื่องพวกนี้ให้มันน้อย ๆ หน่อย อย่าไปทำให้เจ้าใหญ่มันหนักใจนัก” ท่านพ่อโจวพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“คุณย่าต้องดูแลรักษาสุขภาพดี ๆ นะครับ พี่ใหญ่ของเราตอนนี้ใกล้จะได้แต่งงานแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะมีโหลนไว้ให้คุณย่าอุ้มแล้วไงครับ” โจวเฉวี่ยนพูด
“การได้อุ้มลูกของเจ้าใหญ่ไม่ใช่ความฝันที่คุณคิดถึงเหรอ หลังจากนี้หากไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าทำให้พวกเขาพี่น้องต้องกังวลอีก ใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะคุณจะได้อายุยืน” ท่านพ่อโจวพูด
แม้ว่าตัวเขาเองจะโกรธกับเรื่องในครั้งนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เรียกใครมาให้วุ่นวาย เพราะว่าถ้าเกิดป่วยขึ้นมา เสี่ยวเหมยก็ต้องหาเวลามาดูแล อีกทั้งหลานชายหลานสาวและหลานเขยก็ต้องพากันไปดูแลหมด ทำให้ทุกคนเหนื่อยไม่น้อยเลย
“ฉันก็ไม่ได้อยากสนพวกเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าได้ยินแล้วรู้สึกโกรธจนทนไม่ไหวเหรอ” ท่านแม่โจวพูด นางอยากห้ามใจตัวเองไว้ก็ห้ามไม่ไหว อย่างไรก็รู้สึกโมโหอยู่ดี
นางโกรธตรงที่อยู่อย่างสงบสุขได้ไม่นานเท่าไหร่ ก็เกิดเรื่องขึ้นกับหลานชายอีกแล้ว แถมครั้งนี้หวังหยวนสามีของหลานสาวก็ต้องออกตัวช่วยไปตั้งมากมายด้วย ดูสิแม้แต่คำขอบคุณสักคำยังไม่มาพูดเลย
โจวเสี่ยวเหมยกับซูต้าหลินจัดเก็บร้านเสร็จจนกลับมาที่บ้านและได้ยินประโยคนี้พอดี ซูต้าหลินไม่ได้พูดอะไร ส่วนโจวเสี่ยวเหมยนั้นกลอกตามองบน
หล่อนรู้สึกว่าอาการป่วยของแม่หล่อนไร้ทางเยียวยาแล้ว
“ผมเหมือนจะได้ยินแม่เฒ่าจางข้างบ้านนั่นแนะนำให้จางเหมยเหลียนหย่ากับสวี่เชิ่งเฉียงด้วย” โจวเฉวี่ยนพูดประโยคที่ทำให้ทุกคนตกใจ
เขาไม่ได้พูดลอย ๆ แต่อย่างใด เพราะเขาได้ยินมาอย่างนั้นจริง ๆ เจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้จางเหมยเหลียนจะไม่กลับมาร้องไห้ฟ้องที่บ้านเลยหรือ? และหล่อนก็ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้วเช่นกัน
หลังกลับมาที่บ้านตระกูลจาง หล่อนก็บ่นว่าสวี่เชิ่งเฉียงไม่มีสมองไม่อาจควบคุมตัวเองและไกล่เกลี่ยสถานการณ์ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องจ่ายค่าปรับมากขนาดนี้หรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...