สรุปเนื้อหา บทที่ 645 ทั้งหมดเป็นเพียงความว่างเปล่า – ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดย Internet
บท บทที่ 645 ทั้งหมดเป็นเพียงความว่างเปล่า ของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 645 ทั้งหมดเป็นเพียงความว่างเปล่า
โจวชิงไป๋ที่ถูกลูกชายล้อเลียนไปตอนนี้กำลังเล่นอยู่กับลูกสาวของตนอยู่ เขาเรียกให้ช่างไม้มาทำกระดานเลื่อนที่เรือนสี่ประสานให้ เพื่อจะให้สาวน้อยมี่มี่ได้เล่นโดยเฉพาะ
วันนี้สวี่เชิ่งเฉียงก็มาหา เขาไปหาคุณตาคุณยายของเขาก่อน พอได้ยินว่าคุณน้ากับน้าสะใภ้ย้ายย้าน เขาจึงมาหา
เขาไม่ได้เข้าไปในบ้าน เพียงแค่เห็นความหรูหราจากภายนอกของเรือนสี่ประสาน นัยน์ตาก็ฉายแววละอายใจออกมา
เขารู้ว่าหลังจากที่เขาแต่งงานกับจางเหมยเหลียน คุณน้าก็ตัดสายสัมพันธ์อาหลานกันทันที นอกจากนั้นในตอนที่เขามีเรื่องทะเลาะวิวาท คุณน้าของเขาก็ต้องมาว่ากล่าวเขาทุกครั้ง แต่หลังจากที่เขาแต่งงานไปครั้งนั้น คุณน้าของเขาก็ไม่ว่าอะไรเขาอีกเลยสักประโยคเดียว
จนมาถึงตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจว่าเพราะว่าเขาแต่งงานกับจางเหมยเหลียนผู้หญิงคนนี้ คุณน้าของเขาจึงได้ตัดสายสัมพันธ์กับเขาทันที
เพราะสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ จางเหมยเหลียนที่แต่งงานกับเขาไปแล้ว กลับมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับจ้าวจวินพี่เขยของเขา
ถ้าจะถามว่าสวี่เชิ่งเฉียงรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร นั่นก็เพราะว่ามีคนหนุ่มที่เขารู้จักกันมาเป็นคนบอกให้เขารู้
อีกฝ่ายบอกว่าในตอนที่เขาดูร้าน เขาเห็นภรรยาของเขาเข้าโรงแรมไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ช่วงที่เดินเข้าไปด้วยกันนั้นทั้งสองก็หัวเราะคิกคักมีท่าทางสนิทสนมกันมากด้วย
เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ใช่คนในพื้นที่นี้ เขาอยู่ค่อนข้างจะห่างไกลจากที่นี่ สวี่เชิ่งเฉียงออกไปตั้งแผงลอยขายของจึงได้รู้จักกัน ทั้งยังเคยพามากินข้าวด้วย ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าภรรยาของสวี่เชิ่งเฉียงหน้าตาเป็นอย่างไร
ทำให้เขาต้องรีบวิ่งมาบอกให้สวี่เชิ่งเฉียงรู้
สวี่เชิ่งเฉียงก็ไม่ได้พูดอะไรอื่นอีกเช่นกัน เขาปิดร้านและยืนหลบตัวอยู่ในซอกมุมตึกกับเด็กหนุ่มคนนั้น ตั้งแต่ตอนเช้าที่จางเหมยเหลียนออกจากบ้าน จนกระทั่งเที่ยงหล่อนก็เดินออกมาจากโรงแรมพร้อมกับจ้าวจวิน
พวกเขารอนานถึงขนาดนี้ คิดว่าเขายังต้องถามอีกเหรอว่าสองคนนั้นเข้าไปทำอะไร?
สวี่เชิ่งเฉียงไม่ลังเลเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพี่สาวเขาทันที ตอนแรกพี่สาวของเขาไม่เชื่อ แต่สวี่เชิ่งเฉียงรู้ว่าสิ่งที่จางเหมยเหลียนกับจ้าวจวินทำต้องไม่ใช่ครั้งแรกอย่างแน่นอน
พวกเขาสองคนน่าจะมีอะไรกันตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในคุกแล้ว
การที่พวกนั้นถูกเขาจับได้ในครั้งนี้อย่างไรก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เขาจึงให้โอกาสจางเหมยเหลียนบอกให้หล่อนกลับบ้านแม่ไปบ้าง แล้วเขาจะดูร้านให้
จางเหมยเหลียนแสร้งแสดงท่าทางว่าซาบซึ้งใจเขามาก พอหมุนตัวหายไปก็ไปโผล่อยู่กับจ้าวจวินที่โรงแรมแล้ว ครั้งนี้พี่สาวเขาแทบไม่กล้าที่จะไม่เชื่ออีกต่อไป
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อน ในครึ่งเดือนที่ผ่านมาทั้งเขาและสวี่เชิ่งเหม่ยแค้นใจจนแทบจะทนไม่ไหว แต่พวกเขากลับอดทนไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น เพราะพี่สาวเขาบอกว่าหล่อนจะไม่ยอมให้หญิงร้ายชายเลวนั่นลอยนวลไปง่าย ๆ แน่
พี่สาวเขาจะทำอย่างไรเขาไม่รู้ แต่เขานั้นรู้สึกหมดกำลังใจไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนชีวิตของตนพ่ายแพ้ย่อยยับ
ไม่เพียงชีวิตของเขา ชีวิตของพี่สาวเขาก็เช่นกัน เมื่อก่อนเป็นเพราะพี่สาวหาสามีด้วยตัวเองจนทำให้คุณน้าสะใภ้เขาเกลียดพี่สาวเขามาก เขาคิดแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ได้ทำให้เขารู้แจ้งแล้วว่าจ้าวจวินเป็นคนอย่างไร
ขนาดภรรยาของน้องชายภรรยาตัวเองยังกล้าลักขโมยกิน เขายังเป็นคนอยู่ไหม?
ยังมีจางเหมยเหลียน ที่แม้แต่พี่เขยของตัวเองหล่อนก็ยังมีความสัมพันธ์ด้วย ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อก่อนหล่อนเคยทำแท้งลูกที่เกิดจากคนอื่น
โชคดีที่เขาบอกว่าไม่สนใจเรื่องทั้งหมด เพียงแค่ต่อไปหล่อนกับเขาใช้ชีวิตไปด้วยกันให้ดีก็พอ แต่หญิงเลวก็ยังคงมีกมลสันดานเป็นหญิงเลวอยู่วันยังค่ำ ทั้งชีวิตนี้ของหล่อนคงยากจะแก้ไขแล้ว
สวี่เชิ่งเฉียงพยายามที่จะไม่มีเรื่องอย่างสุดชีวิต ดังนั้นเขาจึงทิ้งร้านไว้ให้จางเหมยเหลียน ส่วนตัวเองก็ออกมาระบายอารมณ์ข้างนอก
เดินไปเดินมาเขาก็เดินมาที่บ้านของคุณตาคุณยายเขาแล้ว คุณตากับคุณยายเขาไม่สนใจเขาเลยสักนิด หากเป็นเมื่อก่อนพวกเขาต้องมีดุด่าว่ากล่าวเขาสักสองสามประโยคไปแล้วล่ะ มาตอนนี้พวกเขาสองคนกลับไม่ว่าเขาเลยสักคำ
การที่เขาถูกขังอยู่ในคุกนาน 2 ปีมันทำให้จิตใจของเขาได้รับรู้อะไรขึ้นเยอะมาก ไม่เพียงตอนนี้จะสุขุมขึ้นเยอะมาก เขายังมองออกแล้วว่าใครบ้างที่หวังดีต่อเขา
แต่ในตอนนั้นเขากลับไม่รู้ คิดไปเองว่าบ้านหลักตระกูลโจวดูถูกพวกเขาสองพี่น้อง มาตอนนี้พวกเขาพี่น้องมีค่าอะไรให้บ้านหลักตระกูลโจวมองเห็นได้อีกล่ะ ไม่ว่าจะเขาหรือว่าพี่สาวเขาต่างก็หน้ามืดตาบอดกันไปเองทั้งนั้น
สวี่เชิ่งเฉียงจึงเดินกลับบ้าน สวี่เชิ่งเหม่ยกำลังมาหาเขาพอดี พอเห็นเขากลับมาแล้วก็พูดขึ้น “นายไปไหนมาน่ะ?”
“ไปเยี่ยมคุณน้าที่บ้านน่ะครับ” สวี่เชิ่งเฉียงพูด
“ที่นั่นมีอะไรให้ไปอีก ถ้าพวกเขารู้เรื่องทางนี้แล้วคนพวกนั้นไม่หัวเราะเยาะพวกเราพี่น้องแย่หรือไง!” สวี่เชิ่งเหม่ยพูดอย่างแค้นใจ
หล่อนไม่เพียงเกลียดจางเหมยเหลียน หล่อนยังเกลียดจ้าวจวินยิ่งกว่า การที่หล่อนได้แต่งงานกับเขา ก็ทำให้บ้านหลักตระกูลโจวเกลียดหล่อนไปแล้วทั้งตระกูล ต่อมาพอได้แต่งแล้วก็ยังมีเรื่องแม่สามีลูกสะใภ้ แถมจ้าวจวินกลับยังมาทำเรื่องแบบนี้กับหล่อนอีก!
“พี่ครับ เมื่อไหร่ผมถึงจะหย่ากับจางเหมยเหลียนได้สักที” สวี่เชิ่งเฉียงพูด
“ไม่ต้องรีบ รอให้ฉันทำทุกอย่างเสร็จก่อน ถึงตอนนั้นฉันไม่มีวันปล่อยมันสองคนไปง่าย ๆ แน่!” สวี่เชิ่งเหม่ยพูด
สวี่เชิ่งเฉียงจึงไม่พูดอะไรอีกแล้ว
เมื่อเร็ว ๆ นี้สวี่เชิ่งเหม่ยเพิ่งตกคุณชายสามตระกูลลี่เพื่อนสนิทของตระกูลจ้าวได้ คุณชายสามลี่คนนี้แสดงออกว่ารู้สึกดีกับหล่อน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่หล่อนเริ่มจะ ‘หวั่นไหว’ เขาก็เริ่มที่จะรุกจีบหล่อนแรงขึ้น
……………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โดนสวมหมวกเขียวมันช่างเจ็บปวด ขอให้หย่ากันไปให้จบ ๆ เร็ว ๆ นะคะ
แต่ทำไมมีลางว่าเชิ่งเหม่ยจะมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดกันนะ ขอทำนายว่าคนอย่างเธอไม่มีทางได้ผู้ชายดี ๆ ไปหรอก ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนจะมาจีบภรรยาคนอื่นทั้งที่ยังไม่หย่า
ไหหม่า(海馬)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...