ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 661

สรุปบท บทที่ 661 ไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

บทที่ 661 ไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ตอนนี้ของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 661 ไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 661 ไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน

โจวอู่นีพาหลินซิ่วเดินเล่นไปทั่ว พวกหล่อนออกจากบ้านกันแต่เช้า จนมืดค่ำแล้วถึงยอมกลับมา ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่น้อย

แม้ทั้งคู่จะเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็รู้สึกเหนื่อย ดังนั้นหลังอาบน้ำกินข้าวเย็นเสร็จ ทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับห้องไปนอน

พรุ่งนี้พวกหล่อนต้องไปเที่ยวซื้อของที่อื่นอีก

หลินชิงเหอมาที่ห้องโจวอู่นี สาธยายเรื่องของเจียงเหิงให้ฟัง

โจวอู่นีออกอาการเขินอายอยู่มาก “อาสะใภ้สี่พูดเรื่องพวกนี้ทำไมกันคะ ตอนนี้อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เงยหน้าไม่เจอก้มหน้าก็เจอ”

“ไม่ใช่ว่าอาอยากพูดมากหรอก แต่วันนี้แม่เธอโทรหาอา ให้อาช่วยเธอดูหน่อย อาเลยคิดว่าเจียงเหิงก็เป็นคนขยันขันแข็ง เธอเองก็เห็นหน้าค่าตาเขาแล้ว เรียบร้อยสุภาพไม่ได้แย่ ถึงจะจบแค่มัธยมปลายแต่อายุน้อยกว่าเธอ ถ้าพวกเธออยากคบกันถือว่าฝ่ายหญิงโตกว่า อัตราความสุขสูงมากเลยนะ” หลินชิงเหอกล่าว

นี่เป็นตัวเลขที่ทำสถิติมาแล้ว หากเป็นครอบครัวที่ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า อัตราความสุขในครอบครัวจะสูงมาก

“เด็กกว่าหนูอีกหรอคะ? แบบนั้นจะเป็นไปได้ยังไง” โจวอู่นีผงะ เขินยิ่งกว่าเดิม

น้องชายอายุแค่นี้ เธอจะกล้ายื่นกรงเล็บของตัวเองใส่ได้ยังไงกัน

“เธอโง่รึเปล่า พวกเธอไม่ได้อายุต่างกันมาก จะเป็นอะไรไป อีกอย่างเด็กหน่อยสิดี กลางวันเป็นหมาน้อย กลางคืนเป็นหมาป่า” หลินชิงเหอแซว

โจวอู่นีหน้าแดงก่ำขึ้นมา แต่พอนึกถึงรูปร่างของเจียงเหิงแล้ว หล่อนก็ยังรู้สึกว่าทำไม่ลง

“เธอไม่ต้องเขินหรอก อาเห็นเขาชอบพอเธออยู่พอสมควร สงสัยจะรู้ว่าวันนี้อาจะจับคู่ให้พวกเธอล่ะมั้ง เลยรีบบอกเล่าสถานการณ์ของเขามาหมดเลย” หลินชิงเหอเอ่ยยิ้ม ๆ

“แล้วสถานการณ์ของเขาเป็นยังไงหรอคะ” โจวอู่นีหน้าแดง

เจียงเหิงใช้ได้ในทุก ๆ ด้าน ตอนแรกโจวอู่นีไม่ได้คิดมากขนาดนั้น แต่พอเมื่อคืนเจียงเกิงพูดเสียขนาดนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะไม่คิดอะไรเลย

หลินชิงเหอเล่าสถานการณ์ให้ฟัง ท้ายสุดเธอเอ่ยเสริม “เจียงเหิงมาอยู่นี่หลายวันแล้ว ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย พรุ่งนี้เธอจะพาอาซิ่วออกไปข้างนอกอีกไมใช่เหรอ ถึงตอนนั้นพาเขาไปกับพวกเธอด้วยสิ”

“อาสะใภ้สี่……”

“เอาล่ะ ตกลงตามนี้” หลินชิงเหอโบกมือ รู้ว่าหล่อนแค่เขินไม่ใช่ว่าปฏิเสธ จึงลุกออกมา

เจียงเกิงเจียงเหิงและเจ้าสามยังดูทีวีกันอยู่ ส่วนโจวชิงไป๋กล่อมลูกสาวที่นอนอยู่ในห้อง

เขาตามใจสาวน้อยมี่มี่จนตอนนอนยังต้องให้คนเป็นพ่ออย่างเขาเข้าไปกล่อม ทั้งกอดทั้งหอมทั้งยกสูงถึงจะยอมนอน

แน่นอนว่าโจวชิงไป๋เองก็เต็มใจทำให้

หลินชิงเหอนั่งลงพลางกล่าวขึ้น “เจียงเหิง เธอมาตั้งหลายวันแล้ว ยังไม่ได้ไปชมทิวทัศน์ของเมืองใหญ่เลย พรุ่งนี้ไปเที่ยวรอบ ๆ กับหงหมิ่นและอาซิ่วสิ”

เจียงเหิงรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา ก่อนจะรับปาก “ได้ครับ”

“ฉันจะไปกับพวกนายด้วย” เจียงเกิงเอ่ย

“ได้สิ ไปด้วยกันก็ดี” หลินชิงเหอพยักหน้า

เป็นเพราะคำพูดที่ดูเปิดเผยมากนี้เอง โจวกุยหลายจึงอดคิดไม่ได้ว่าแม่ของเขามีเป้าหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่า

หลินชิงเหอถามเรื่องเมื่อไหร่จะเปิดร้านไวน์สาขาสอง

“ถ้าม้าต้องการสองสามวันนี้ผมก็จะเริ่มจัดการเลย หน้าร้านตรงซีเหมินม้าคิดว่าได้ไหมครับ?” โจวกุยหลายเอ่ย

“ได้ ลูกพาคนไปตกแต่งได้เลย” หลินชิงเหอบอกอย่างไม่มีความเห็นต่าง

ไวน์เป็นของที่เก็บไว้ได้นาน ยิ่งเก็บนานยิ่งมีค่า

“พรุ่งนี้หนูขอโทรถามแม่ก่อนนะคะ” โจวอู่นีบอก

หลินชิงเหอนึกในใจ ถามแม่เธอเหรอ ไม่แน่แม่เธออาจจะให้แต่งงานตรงนั้นเลยก็ได้

และก็จริงอย่างที่คิด วันรุ่งขึ้นตอนโจวอู่นีโทรไป สะใภ้สามโจวกลับไม่ลังเลเลยสักนิด “ตอนลูกไปเยี่ยมก็อย่าลืมซื้อของขวัญไปด้วย ห้ามไปเยี่ยมมือเปล่านะรู้ไหม แล้วก็แต่งตัวสวย ๆ ล่ะ”

โจวอู่นีเหนื่อยใจ

หลินชิงเหอวางสายแล้วจึงเอ่ยยิ้ม ๆ “เอาของขวัญไปด้วยมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่เอาแค่หอมปากหอมคอพอ ไม่ต้องแต่งตัวมากหรอก ไปแบบปกตินี่แหละ”

โจวอู่นีจึงมั่นใจแล้วว่าจะนั่งรถไปเซี่ยงไฮ้กับเจียงเหิงพรุ่งนี้แต่เช้า ซึ่งหลินซิ่วก็ตามไปด้วย

ตอนวันหยุดฤดูร้อนเจียงเกิงไม่ได้กลับบ้าน ครั้งนี้โดนหลินชิงเหอไล่ให้กลับไปด้วย และฝากของดีประจำท้องถิ่นไปกับเขาด้วยไม่น้อย รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ ๆ ให้เซวียเหม่ยลี่และเจียงอวี๋

เจียงเกิงไม่ได้โง่ ตอนนี้เขามารู้ทีหลังแล้วว่าพี่รองเขาคบอยู่กับพี่หงหมิ่น

เขาฉวยโอกาสตอนเจียงเหิงเข้าห้องน้ำถามเสียงเบา

“อื้ม” เจียงเหิงยิ้ม

“ผมว่าแล้ว” เจียงเกิงถึงบางอ้อ ก่อนจะยิ้มกว้าง “พี่รองเอาอ่าวหน่อยนะ พี่หมิ่นดูก็รู้ว่าเป็นแม่บ้านแม่เรือน ไม่คิดเล็กคิดน้อยเหมือนพี่สะใภ้ใหญ่ กินมะเขือเกินไปลูกเดียวยังต้องบ่น พี่ต้องรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ได้นะ”

“ที่บ้านเล็กเกินไป ไม่รู้ว่าพี่หมิ่นของนายจะรังเกียจรึเปล่า” เจียงเหิงกังวลเล็กน้อย

“แต่งงานแล้วออกไปเช่าบ้านอยู่ก็ได้นี่ พ่อบุญธรรมผมมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ ไม่ไกลจากร้านขายชาด้วย ข้าง ๆ มีโรงเรียนให้พี่หมิ่นไปสอนหนังสือได้ อยู่ไปก่อนรอมีเงินแล้วค่อยออกไปซื้อก็จบ” เจียงเกิงกล่าว

…………………………………………………………………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม