ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 667

สรุปบท บทที่ 667 ปลาเน่า: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

สรุปตอน บทที่ 667 ปลาเน่า – จากเรื่อง ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดย Internet

ตอน บทที่ 667 ปลาเน่า ของนิยายInternetเรื่องดัง ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 667 ปลาเน่า

ครั้นโจวลิ่วนีไปแล้ว หลี่อ้ายกั๋วถึงคุยกับโจวซานนี “ทำไมถึงไล่หล่อนไปล่ะครับ?”

“ต้องไล่สิคะ คุณไม่รู้หรอกว่านิสัยหล่อนเป็นยังไง ถ้าโดนเกาะติดเข้าให้คงไม่จบไม่สิ้นแน่” โจวซานนีบอก

ชีวิตสุขสบายในตอนนี้ได้มาไม่ง่าย โจวซานนีไม่อยากให้มีอะไรมากระทบเลยสักนิด

กับน้องสาวคนนี้ ถ้าเป็นคนดี ผิดแล้วรู้จักแก้จริง ๆ หล่อนที่มีชีวิตดีขึ้นแล้วก็สามารถช่วยเหลือสนับสนุนได้โดยไม่ถือสาเรื่องแต่ก่อน

อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็หย่าไปแล้ว ชีวิตของผู้หญิงที่หย่านั้นช่างลำบากนัก

แต่ดูสายตาหล่อนตอนที่เข้ามาเมื่อกี้สิ สายตาอะไรล่ะนั่น? แค่สายตานั้นก็ไม่เชื่อว่าหล่อนนิสัยดีขึ้นแล้ว

ที่สวี่เชิ่งเฉียงเปลี่ยนนิสัยได้ก็เพราะติดคุกมา แล้วยังโดนจางเหมยเหลียนหักหลังอีก ถึงได้รู้เรื่องขึ้นมาว่าใครกันแน่ที่ดีกับเขา จึงถือว่ายังมีหวังอยู่

แต่คนอย่างโจวลิ่วนีนั้นไม่ต้องลังเลเลย

“คุณเองก็ไม่ต้องไปสนใจหล่อนเข้าใจไหมคะ ถ้าหล่อนอยู่ต่ออีกหน่อยคงได้เป็นสวี่เชิ่งเหม่ยคนที่สองแน่” โจวซานนีเอ่ย

สวี่เชิ่งเหม่ยหย่าแล้วไม่เอาลูกเอาแต่เงิน แถมยังยอมหย่าตอนที่หาที่ลงได้แล้วด้วย เรื่องนี้โจวเอ้อร์นีแอบกระซิบบอกหล่อนมา

ตอนนี้สวี่เชิ่งเหม่ยแต่งงานใหม่แล้ว ได้ข่าวว่าชีวิตดีใช้ได้ หล่อนได้เปิดร้านเสื้อผ้าใหม่และไปเอาของจากโรงงานเสื้อผ้า

เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครกันที่อยากเล่นงานหล่อน ที่ร้านจึงมีนักเลงไปบุกไม่เว้นวัน แทบจะเปิดต่อไม่ได้แล้ว

หลี่อ้ายกั๋วไม่พูดอะไรอีก

โจวลิ่วนีนั่งรถเก๋งของโจวเอ้อร์นีกลับร้านขายชา แสดงอาการอิจฉามาตลอดทาง

ตอนนี้โจวเอ้อร์นีถึงขั้นขับรถเก๋งได้แล้ว แถมยังเป็นรถที่สามีหล่อนซื้อให้ด้วย

หล่อนโชคดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ต่างกับโจวเอ้อร์นีเมื่อชาติที่แล้วที่โดนแม่สามีทารุณราวฟ้ากับเหว หล่อนในตอนนี้โดนสามีตามใจขนาดนี้เลย

โจวเอ้อร์นีไม่สบายใจมาก เพราะโจวลิ่วนีเอ่ยชมก็จริง แต่กลิ่นริษยาเหม็นเปรี้ยวนั่นที่แฝงไว้ในน้ำเสียงช่างเหม็นชะมัด

หล่อนจะมาริษยาอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่ยอมเปลี่ยนเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นทำไมอาสะใภ้สี่ถึงช่วยยกฐานะให้หลานสาวมากมายขนาดนี้เว้นหล่อนคนเดียวล่ะ

ที่ตอนนี้มาถึงขั้นนี้จะโทษใครได้

ตลอดทางที่มาร้านขายชา โจวลิ่วนีบอกว่าอยากไปเยี่ยมปู่ย่า

โจวเอ้อร์นีเอ่ยทันที “เธออย่าไปเลย ไปแล้วปู่ย่าต้องด่าเธอแน่”

“ต่อให้ด่าฉันก็ต้องไปอยู่ดี มาตั้งไกลจะไม่ไปพบหน้าปู่ย่าเลยเหรอคะ ชีวิตความเป็นอยู่ของปู่ย่าเป็นยังไงบ้างฉันก็ไม่รู้ ต้องไปดูหน่อย” โจวลิ่วนีกล่าว

มันเป็นแค่คำพูดสวยหรูเท่านั้น ตอนที่หลินชิงเหอโจวชิงไป๋ยกสำมะโนครัวมาปักกิ่ง ปีนั้นหล่อนไปกินข้าวกับปู่ย่าเพราะกับข้าวบ้านปู่ย่าอร่อยกว่าดีกว่าอยู่บ่อย ๆ กินเสร็จก็เช็ดปากแล้วผละจากไป ไม่เคยช่วยเก็บถ้วยเก็บตะเกียบสักครั้งเดียว

โจวเอ้อร์นีรู้ดีอยู่แก่ใจ แม่หล่อนยังตักเตือนพวกหล่อนว่าอย่าเอาอย่างโจวลิ่วนี

แต่ที่อีกฝ่ายพูดมาก็ถูก อย่างไรเสียก็เป็นหลาน มานี่แล้วไม่ให้ไปพบปู่ย่าก็ไม่ดี

เพียงแต่ตอนที่ท่านแม่โจวได้เจอหลานสาวโจวลิ่วหนี นางแทบจำหล่อนไม่ได้เมื่อได้มองผ่าน ๆ

ช่วงนี้นางถึงกับหัดเล่นไพ่นกกระจอกกับแม่เฒ่าคนอื่น ๆ แล้ว

แต่เรื่องพวกนี้ยังไม่ต้องพูดถึง เพราะตอนนี้ท่านแม่โจวเริ่มไม่ชอบใจหลานสาวที่เป็นตัวถ่วงคนนี้แล้ว

ที่นางไม่รู้ว่าหล่อนหย่าเรียบร้อยนั้นต้องเป็นเพราะทุกคนตั้งใจปิดไว้ ตอนนี้ท่านแม่โจวเปิดกว้างขึ้น ถึงจะไม่โกรธมากเพราะได้ยินเรื่องหย่ามาเยอะมากจนชินก็ตาม

แต่ก็ยังไม่น่าดูอยู่ดี

ทำไมบ้านโจวถึงมีปลาเน่าตัวนี้ด้วยนะ

โจวลิ่วนีที่ไม่รู้สถานะตัวเองในใจของย่ายังคิดจะตีหน้าน่าสงสารให้เห็นใจอยู่ “คุณย่า หนูทนอยู่ที่หมู่บ้านต่อไปไม่ไหวแล้ว หลังจากหย่าแล้วโดนคนอื่นชี้นิ้วนินทาทุกวัน ชีวิตแบบนี้เมื่อไหร่ถึงจะถึงจุดสิ้นสุดคะ”

“ก็เธออยากหย่าเองนี่ เธอไม่หย่าคนอื่นจะบีบบังคับให้หย่าหรือไง นอกเสียจากว่าเธอจะทำอะไรที่บ้านสามีไม่เอาเธอไว้” ท่านแม่โจวกล่าว

โจวเอ้อร์นีชำเลืองโจวลิ่วนี เรื่องที่โจวลิ่วนีสร้างไว้นั้นหล่อนรู้อย่างแจ่มแจ้ง

โจวลิ่วนีไม่กล้าพูดอะไรต่อ ถ้ากล้าพูดเรื่องหย่าออกมาก็อย่าหวังเลยว่าย่าจะพูดเข้าข้างหล่อนแม้แต่ประโยคเดียว

“คุณย่า ตอนนี้หนูอยากอยู่ที่นี่ หนูขออยู่ที่ปักกิ่งได้ไหมคะ? ขนาดสวี่เชิ่งเฉียงยังอยู่ได้เลย​ หนูเห็นที่ร้านจ้างป้าคนหนึ่งมาล้างจานด้วย หนูไม่ร้องขอทำอะไรที่คำนึงถึงศักดิ์ศรีแล้วค่ะ แค่เลิกจ้างป้าคนนั้นแล้วให้หนูไปล้างจานที่ร้านก็พอ” โจวลิ่วนีทำเป็นวางตัวต้อยต่ำ

รอให้หล่อนได้อยู่ที่นี่ก่อน ถึงตอนนั้นค่อยวางแผนเอาอย่างอื่น แต่ก่อนอื่นต้องให้ได้อยู่ที่นี่ก่อน

“เธอมาพูดเรื่องนี้กับฉันทำไม ฉันกับปู่ไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้แล้ว เธออยากอยู่ล้างจานก็ไปคุยกับอาสี่อาสะใภ้สี่เธอนู่น แต่นิสัยแค่ขวดซีอิ๊วล้มยังไม่รู้จักตั้งขึ้นอย่างเธอ ฉันไม่คาดหวังให้เธอล้างจานหรอก” ท่านแม่โจวกล่าว

………………………………………………………………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม