บทที่ 683 คู่บุญเก่า
หลินซิ่วต้องรอจนถึงฤดูร้อนปีนี้จึงจะเรียนจบ ถึงแม้หล่อนจะเรียนวิทยาลัยที่สู้มหาวิทยาลัยอย่างที่พวกโจวหยางและโจวอู่นีเรียนไม่ได้ แต่สำหรับสมัยนี้ถือว่าเป็นการศึกษาที่เชิดหน้าชูตาได้แล้ว
พอปิดเทอมกลับบ้านที่ตัวเมือง ก็ได้ฟังเรื่องนี้จากแม่หล่อน บอกหล่อนว่าเรียนจบแล้วไม่ต้องรอวิทยาลัยจัดสรรงานให้ ไปหาป้าสะใภ้สามของหล่อนที่ปักกิ่งได้เลย
หลินซิ่วเคยไปปักกิ่งหลายครั้งแล้ว แน่นอนว่าหล่อนชอบที่นั่นมาก ทีแรกหล่อนกำลังเตรียมตัวเรื่องการจัดสรรงาน แต่พอได้ข่าวว่าฝั่งป้าหล่อนกำลังขาดคน มีตำแหน่งว่าง หล่อนจึงไม่ต้องการให้วิทยาลัยจัดสรรงานให้อีก
หล่อนตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะไปปักกิ่งเลย และตั้งใจโทรหาป้าของหล่อนในตอนค่ำ เพราะรู้ว่าป้าอยู่บ้าน
กังจือนั่งอยู่ข้าง ๆ พอดี จึงรับโทรศัพท์ให้
พอได้ยินว่าเป็นหลินซิ่วจึงเรียกน้าสะใภ้เขา หลินชิงเหอเข้ามารับโทรศัพท์ และคุยกับหลานสาวพักหนึ่ง
หลังจากวางสายแล้ว กังจือถามขึ้น “น้าสะใภ้ครับ หลินซิ่วจะมาเหรอครับ?” แน่นอนว่าเขากับหลินซิ่วรู้จักกัน แม้จะไม่ค่อยสนิทก็ตาม
“อื้ม รอหล่อนเรียนจบปีนี้แล้ว จะมาเป็นนักบัญชีมืออาชีพให้ฉัน” หลินชิงเหอกล่าว
กังจือสงสัย “มีพวกพี่เอ้อร์นีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“ไม่ต้องกลัวว่านักบัญชีจะเยอะไปหรอก อีกอย่างพี่เอ้อร์นีของเธอยุ่งจะตาย พี่เขยรองมีโรงงานเสื้อผ้าด้วย ให้หลินซิ่วมาช่วยพี่เอ้อร์นีจะได้หาเวลาไปเดินเที่ยวเล่นกับพี่เขยรองเธอบ่อยขึ้น คราวก่อนพี่เขยรองยังมาบ่นให้ฟังอยู่เลย” หลินชิงเหอบอก
กังจือหัวเราะ โจวชิงไป๋มองหลานชายตัวเองแล้วเอ่ยขึ้น “เธอน่าจะแต่งงานได้แล้วนะ”
ในเรื่องนี้โจวชิงไป๋เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพี่สะใภ้สามโจว เขายึดหลักการเรือล่มในหนองทองจะไปไหน หลังจากหลินซิ่วเรียนจบแล้วมานี่ เขาก็คิดจะให้หลานชายเอาอ่าวขึ้นมาบ้าง
กังจือไม่อาจเข้าใจความตั้งใจของน้าเล็กเขาได้ เขาส่ายหัว “ผมอยากซื้อบ้านก่อน!” เขาหมกมุ่นอยู่กับการซื้อบ้าน แต่เขาอยากมีห้องเล็ก ๆ ของตัวเองจริง ๆ นี่นา
แม้ว่าบ้านน้าและน้าสะใภ้ของเขาจะอยู่สบายมาก แต่จะอยู่ทั้งชีวิตคงไม่ได้ อนาคตต้องแต่งภรรยาอีก จะลากทั้งครอบครัวมาอยู่บ้านน้าเล็กเขาเหรอ?
เรื่องแบบนั้นถูกเสียที่ไหนล่ะ?
“ซื้อบ้านก็เพื่อแต่งภรรยา งั้นเจอคนที่ดีแล้วก็หมั้นหมายไว้ก่อนสิ ไม่อย่างนั้นรอเธอซื้อบ้านได้ก็ปาเข้าไปอายุเท่าไหร่แล้ว” โจวชิงไป๋กล่าว
ตอนเขาอายุเท่านี้ ลูกคนโตสามคนออกมาเกือบครบแล้ว
กังจือหัวเราะ “ก็ยังไม่เจอนี่ครับ”
“เดี๋ยวหาคนดี ๆ ให้ อย่าไปคบสะเปะสะปะกับคนข้างนอกล่ะ” โจวชิงไป๋บอก
กังจือพยักหน้า เรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานของเขาปล่อยให้น้าและน้าสะใภ้เขาจัดการไม่มีปัญหาแน่นอน คนที่พวกเขาบอกว่าดี ไม่มีคู่ไหนที่อยู่อย่างไร้ความสุขเลย
ด้านพี่ใหญ่เขาบัดนี้ก็อยู่อย่างสุขสันต์ ถ้าเขาบอกว่าไม่อิจฉาคงเป็นไปไม่ได้ แต่ช่วยไม่ได้นี่ เขาอยากซื้อคอนโดมิเนียม แล้วก็ยังขาดเงินอีกตั้งเยอะ
เช้าวันรุ่งขึ้น กังจือบรรทุกสินค้าเต็มรถกระบะแล้วออกจากบ้านไป ไม่เพียงแต่มีเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่นเท่านั้น ยังมีพวกที่คาดผมด้วย ส่วนตัวเขาเองซื้อซาลาเปาข้างนอกกินก่อนจะไปตั้งร้าน
ปกติสินค้าหนึ่งคันรถขายได้หนึ่งในสามที่ตลาดนัดตอนเช้า และเวลาที่เหลืออยู่ในหนึ่งวันจะขายสองในสามได้ ปกติเวลาเก็บร้านกลับบ้านก็ไม่ค่อยเหลืออะไรแล้ว
เขาขายดีมาก ๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ถึงตอนนี้เขาจะแค่ตั้งแผงขาย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องขายดีหรือไม่นั้น ดีกว่าหน้าร้านบางแห่งเสียอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...