ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 686

สรุปบท บทที่ 686 พยายามจับคู่ให้: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ตอน บทที่ 686 พยายามจับคู่ให้ จาก ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 686 พยายามจับคู่ให้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 686 พยายามจับคู่ให้

หลินชิงเหอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าขนาดเธอบิดเบือนเนื้อเรื่องไปถึงเพียงนี้แล้ว ยังไปเจอกันได้อีก

ถึงเธอไม่เคยสงสัยในพลังที่มองไม่เห็น คิดว่าคนที่ต้องเจอกันช้าหรือเร็วก็ต้องเจอ แต่ไม่รู้เลยว่าเจ้าสามรู้จักจงฉิงมานานแล้ว

ดูจากท่าทางกระตือรือร้นนั่นทำไมจะดูไม่ออกว่าเขารู้สึกดีกับจงฉิง

เจ้าสามเห็นท่าทางแบบนี้ของแม่เขาแล้วจะกล้าปิดบังอีกได้อย่างไร จึงรีบเล่าเรื่องที่เขาช่วยจับขโมยบนรถไฟก่อนจะเอ่ยขึ้น “แม่เข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นกับจงฉิงเลย ผมจำได้หมดว่าแม่ไม่ให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงแซ่จง จำได้ดีเลยครับ”

หลินชิงเหอถึงยอมปล่อยหูเขา และแค่นเสียง “ถ้าลูกกล้าคิดแบบนั้นม้าจะตีขาลูกให้หักเลย หล่อนดูมีโหงวเฮ้งความเป็นสามีภรรยากับพี่สวี้เจี๋ยของลูกชัด ๆ”

ในฐานะพระเอกนางเอก ไม่ว่าจะเป็นหานสวี้เจี๋ยหรือจงฉิงล้วนหน้าตาดีแบบไม่ต้องพูดมาก ระดับมังกรหงส์เหนือคนทั้งนั้น มองผ่านฝูงชนปราดเดียวก็เห็น แน่นอนว่าบรรดาลูกชายเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน

แต่พวกเขาน่ะเป็นบุพเพสันนิวาสที่ถูกกำหนดมา เธอไม่อนุญาตให้เจ้าสามไปแทรกหรอก แทรกแซงความรักคนอื่นจบไม่สวยแน่

เจ้าสามพึมพำ “แม่เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ ระหว่างจงฉิงกับพี่สวี้เจี๋ยไม่มีอะไรในกอไผ่หรอกครับ ตอนอยู่บนรถไฟผมฟังจงฉิงบ่นมาทั้งทาง ว่าพี่สวี้เจี๋ยเข้มงวดและหัวโบราณ”

หลินชิงเหอเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา นึกในใจอยู่ว่าตอนนี้จงฉิงยังไม่มีความรู้สึกต่อหานสวี้เจี๋ยจริง ๆ พูดให้ถูกคือยังไม่ตระหนักถึงความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อหานสวี้เจี๋ย ไม่อย่างนั้นเรื่องอะไรที่หล่อนต้องบ่นถึงตลอดทั้งทาง?

แต่นี่ก็เป็นเรื่องของพวกเขาสองคน ไม่เกี่ยวกับบ้านเธอ

“เชื่อม้า อย่าไปยุ่งกับเรื่องของพวกเขา อีกหน่อยลูกอยากมีแฟนเป็นดาราหนังยังได้” หลินชิงเหอกล่าว

“ดาราหนังหรอครับ คราวก่อนผมกับพี่เขยรองไปทานข้าวเชิงธุรกิจ มีดาราเล็ก ๆ ไปชงเหล้าให้จริง ๆ นะครับ” เจ้าสามบอกยิ้ม ๆ

“ต้องเป็นคนที่ประวัติไม่มัวหมอง แล้วตัวเองก็ไม่มัวหมองด้วย ไม่อย่างนั้นอย่าหวังจะได้แต่งเข้าบ้าน” หลินชิงเหอมองเขาและเอ่ย

โจวกุยหลายคลี่ยิ้ม “ผมรู้ครับผมรู้ แม่วางใจเถอะ”

หลินชิงเหอกลอกตาใส่เขา ส่วนเรื่องอื่นเธอไม่พูดอะไรมาก แต่นับจากครั้งนี้ไป ทุกครั้งที่หานสวี้เจี๋ยและจงฉิงเดินทางผ่านปักกิ่งก็จะแวะมาที่บ้าน บางครั้งอยู่ค้างคืนด้วย

ถึงแม้หลินชิงเหอจะระแวงจงฉิง แต่ตอนนี้งานของจงฉิงยุ่งมาก ไม่มีเวลาว่างเท่าไร หากเป็นเด็กหนุ่มมากความสามารถอย่างหานสวี้เจี๋ยมาหลินชิงเหอยินดีต้อนรับเป็นธรรมดา

ส่วนจงฉิง อาจเพราะเป็นการเขม่นเพศเดียวกัน และอาจเพราะเธอตั้งแง่มาแต่ต้น ที่จริงจงฉิงถือว่าเป็นเด็กสาวที่ไม่เลวเลย ทัศนคติก็ดี แต่พอนึกถึงเรื่องที่หล่อนอาจทำลายชีวิตเจ้าสามและพาลไปถึงคนโตอีกสองคนด้วย เธอก็รับไม่ได้

เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมา

อย่างไรก็เหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรม แม้จะมีคำเตือนจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เจ้าสามก็ยังคงมีท่าทีกระตือรือร้นต่อแม่นางจงฉิงมาก เป็นเหตุให้จงฉิงชอบมาเล่นที่บ้าน

หลินชิงเหอนึกถึงเนื้อเรื่องที่จงฉิงถูกเจ้าสามดึงดูดจริง ๆ หลังจากนั้นถึงใช้เจ้าสามเป็นการพิสูจน์ความรู้สึกที่เธอมีต่อหานสวี้เจี๋ยก็ชาหนังหัววาบ

เพราะฉะนั้นตอนที่หานสวี้เจี๋ยมาแต่จงฉิงไม่มา หลินชิงเหอจึงทำตัวเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย

“สวี้เจี๋ยเอ๋ย เธออายุมากกว่าเจ้าใหญ่อีกนะ อายุปูนนี้แล้วพ่อแม่เธอน่าจะร้อนใจบ้างแล้ว ตอนนี้มีแฟนหรือยังล่ะ?” หลินชิงเหอถาม

หานสวี้เจี๋ยชะงัก ปีนี้เขาอายุไม่น้อยแล้วจริง ๆ พ่อแม่เขาก็เร่งทุกปี จนเขาไม่ค่อยอยากจะกลับบ้านแล้ว

ฐานะน้าหล่อนสูงมาก หานสวี้เจี๋ยมีความสามารถและมีความดีความชอบก็จริง แต่เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ไร้รากฐาน ที่ได้ดีเพราะนางเอกเสริมดวงให้เขาไม่ใช่เหรอ?

หานสวี้เจี๋ยหัวเราะ “สนิทกันเกินไปครับ” และเขาไม่เคยอ่อนโยนต่อยัยนั่นเลยสักนิด สั่งสอนในฐานะลูกน้องมาตลอด คงจะแค้นเขาอยู่ไม่น้อย

“เด็กโง่” หลินชิงเหอกลอกตาใส่เขาและยิ้มอย่างมีเมตตา “ก็ต้องหาที่สนิทกัน รู้ตื้นลึกหนาบางน่ะสิ ไม่อย่างนั้นไม่ได้หรอก ไม่รู้ว่าเคยผ่านอะไรมาบ้างด้วยซ้ำ แบบเธอกับจงฉิงนี่แหละดีที่สุดแล้ว เธอเชื่อที่น้าบอกไม่ผิดแน่ นั่นน่ะเป็นเด็กดีจริง ๆ นะ ถ้าพลาดแล้วคือพลาดเลย”

คืนนั้นหานสวี้เจี๋ยค้างที่บ้าน และเขาก็เก็บคำพูดของหลินชิงเหอมาใส่ใจ

ตอนแรกเขาไม่ได้คิดไปทางนั้นเลยจริง ๆ แต่พอหลินชิงเหอพูด ทำเป็นเล่นไป จงฉิงนี่ไม่เลวจริง ๆ นะ

เป็นคนทนความลำบากได้ แถมหน้าตาก็น่ารัก จิตใจก็ดีมีเมตตา แค่อายุน้อยไปหน่อย ยื่นกรงเล็บออกไปแบบนี้หานสวี้เจี๋ยก็รู้สึกถึงบาปกรรมนิดหน่อย

แต่ก็ยังยืนยันคำเดิม เขาอายุไม่น้อยแล้ว จะมัวยืดเยื้อต่อไปแบบนี้ไม่ดีแน่ ไม่อย่างนั้นอีก 2-3 ปีก็ 30 แล้ว

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งเดือนและมากันอีกครั้ง หลินชิงเหอพบว่าบรรยากาศระหว่างหานสวี้เจี๋ยและจงฉิงดูแตกต่างจากเดิม

เมื่อก่อนตอนสองคนนี้มาหานั้นดูเปิดเผยสุด ๆ แต่มาครั้งนี้ ทั้งสองคนแทบอยากจะติดประกาศบอกพวกเขาว่าทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน ไม่มีอะไรเป็นอื่น

อยากปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้ชัด ๆ

…………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม