ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 685

บทที่ 685 พระเอกกับนางเอกมากันครบ

สวี่เชิ่งเหม่ยก็ด่าแม่ของหล่อนไปเหมือนกัน ว่าเห็นใครก็เอาหมด ไม่รู้จักไปสืบให้รู้เรื่องก่อน!

หลังจากวางสาย สวี่เชิ่งเหม่ยก็กลับไป บ้านตัวเองมีแต่พวกขุนไม่ขึ้น หล่อนไม่อยากจะยุ่งแล้ว!

ส่วนสวี่เชิ่งเฉียงก็โทรกลับไปหาแม่เขาเหมือนกัน บอกว่าอีกหน่อยคงไม่ได้ส่งเงินกลับไปแล้ว เขาตั้งใจจะเก็บเงินซื้อบ้านเล็ก ๆ สักหลังที่ปักกิ่ง

ป้าใหญ่โจวรักลูกชายคนโตคนนี้มากอยู่แล้ว ได้ยินเขาพูดแบบนี้จึงดีใจมาก หล่อนเอ่ยขึ้น “ที่บ้านยังมีเงินเหลืออยู่ เงินที่แกโอนมาแม่เก็บไว้ให้แกหมด ถึงเวลาแกจะซื้อบ้านก็บอก เดี๋ยวแม่โอนไปให้”

“ไม่ต้องครับ น้าสะใภ้บอกว่าถึงตอนนั้นผมขาดเท่าไหร่หล่อนออกให้ก่อน ผมค่อยคืนน้าทีหลังก็ได้” สวี่เชิ่งเฉียงกล่าว

ป้าใหญ่โจวผงะ “น้าสะใภ้แกบอกเหรอ?”

“อื้ม” สวี่เชิ่งเฉียงพยักหน้า

ป้าใหญ่โจวกระอึกกระอัก “ตอนนี้น้าสะใภ้แกยอมให้อภัยแกแล้วเหรอ?”

“ผมกลับตัวกลับใจแล้ว น้าสะใภ้ย่อมไม่ถือโทษโกรธผมอีก ตอนนั้นผมไม่รักดีเอง หล่อนถึงไม่อยากสนใจผม” สวี่เชิ่งเฉียงบอก

ป้าใหญ่โจวเอ่ยตะกุกตะกัก “คราวก่อนทะเลาะกันเรื่องแกหนักอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้น้าสะใภ้แกจะยอมคุยกับแม่ไหม”

ให้อภัยหรือไม่ให้อภัยไม่ใช่ประเด็นสำหรับหลินชิงเหอ เธอแค่ไม่อยากคบค้าสมาคมกับคนอย่างป้าใหญ่โจวก็เท่านั้น

สมัยก่อนตอนอยู่บ้านเกิดยังดูไม่ออก คิดว่าหล่อนเป็นคนไม่เลว ถึงอย่างไรปีหนึ่งก็ได้กลับบ้านแค่ครั้งสองครั้ง สิ่งที่ได้เห็นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดี

แต่พอได้สัมผัสมากขึ้นหลังจากนั้นมา ก็เห็นได้ชัดว่าหล่อนเป็นคนแยกแยะอะไรไม่ได้ หลินชิงเหอจึงไม่อยากยุ่งกับคนแบบนี้และขอหลีกเลี่ยงมาตลอด

เพราะฉะนั้นตอนที่ป้าใหญ่โจวโทรมาและเธอเป็นคนรับสายพอดี เธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้โจวชิงไป๋โดยไม่ลังเลหลังได้ยินแล้ว

โจวชิงไป๋จึงคุยอะไรกับพี่สาวคนโตเขานิดหน่อย

ก่อนหน้านี้พี่สาวคนโตของเขาคนนี้ทำให้เขาผิดหวังมาก แถมยังขู่พ่อแม่เขาว่าถ้าช่วยเฉียงจือออกมาไม่ได้ก็จะตัดความสัมพันธ์ แถมตอนเฉียงจือโดนจับหล่อนดันตัดความสัมพันธ์จริง ๆ

ผู้ใหญ่ทั้งสองโกรธมาก ถึงจะไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ก็ใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าจะอาการดีขึ้น

เพราะฉะนั้นหลังจากบอกพี่สาวคนโตเขาว่าพ่อแม่สุขภาพดีอยู่ก็วางสายไป

หลินชิงเหอเอ่ย “เธอโทรมาทำไมคะ”

“คงอยากขอสงบศึกกับบ้านโจว” โจวชิงไป๋พูดขึ้น เขาพอรู้จักพี่สาวคนโตอยู่บ้าง

หลินชิงเหอเอ่ยเรียบ ๆ “สงบศึกหรือไม่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่ได้จำเป็นอะไรหรอกค่ะ”

เธอคิดว่าต้องเป็นเพราะป้าใหญ่โจวรู้ถึงความเป็นอยู่ของสวี่เชิ่งเฉียงในตอนนี้เข้า ถึงได้กระอึกกระอักโทรมา แต่อย่างที่เธอบอก มันไม่มีความจำเป็นจริง ๆ

ถ้าสวี่เชิ่งเฉียงอยากตั้งใจทำงาน เธอก็ยอมรับเขาไว้ ถ้าสวี่เชิ่งเฉียงไม่ยอมตั้งใจทำงาน เธอก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน

โจวชิงไป๋ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ความจริงท่าทางที่ภรรยามีต่อหลานชายอย่างเฉียงจือได้ทำให้เขาประหลาดใจพอตัว

ชีวิตในตอนนี้สงบและสุขสันต์ พริบตาเดียวก็เข้าเดือนมิถุนายน

คืนนี้หลินชิงเหอได้รับโทรศัพท์จากเจ้าใหญ่และเหม่ยเจี่ย แน่นอนว่าเธอดีใจมาก คุยกันอยู่ 10 กว่านาทีถึงวางสาย

ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว กังจือก็เพิ่งกลับมาจากการไปตั้งแผงขายของที่ตลาดกลางคืน

“ในครัวมีข้าวโพดที่นึ่งไว้อยู่ ไปหยิบมากินเองนะ” หลินชิงเหอพูดกับเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม