ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 74

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 74 เหนือการควบคุม
บทที่ 74 เหนือการควบคุม
โดย
EnjoyBook
บทที่ 74 เหนือการควบคุม

ฤดูนี้คือฤดูแห่งการเจริญเติบโตของผักป่านานาพรรณ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีอะไรดี ๆ ให้กินมากนัก ในช่วงนี้เองคือช่วงเวลาแห่งความขาดแคลนชั่วคราวอันเป็นประวัติการณ์

ในเย็นนี้เอง พวกเขาก็ได้ทานบะหมี่น้ำตามที่เจ้ารองขอ

เริ่มจากการผัดผักกาดดองหั่นชิ้นกับเศษเนื้อในน้ำมัน จากนั้นก็โรยบนเส้นบะหมี่ต้ม สุดท้ายโปะด้วยไข่ลวกยางมะตูมกลิ่นหอมเป็นอันเสร็จ

บะหมี่น้ำส่งกลิ่นหอมยิ่งนัก

อย่างน้อยก็มีผู้ชายสี่คนในบ้านที่ไม่สงสัยกับทักษะการปรุงอาหารของเธอ

หลังกินและดื่มจนอิ่มหนำกันแล้ว หลินชิงเหอก็มอบหน้าที่ล้างถ้วยชามให้เป็นของเจ้าใหญ่

ในเมื่ออากาศเริ่มคลายความหนาวเย็นแล้ว งานล้างจานจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าใหญ่ ในตอนแรกเด็กชายก็อิดออดไม่อยากทำอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาชินแล้ว

เจ้ารองเองก็ไม่ถูกปล่อยให้ว่างงานเช่นกัน เขาเป็นคนทำความสะอาดห้องและสวนหลังบ้าน ทั้งสองอย่างนี้คืองานบ้านประจำของเขา

ส่วนเจ้าสามยังเล็กเกินไป ตราบใดที่เด็กชายไม่สร้างปัญหา เธอก็ไม่ได้มอบหมายงานให้เขาชั่วคราว

หลังทำงานบ้านเสร็จ หลินชิงเหอก็พาพวกเขาไปกินและเดินเล่น โดยมีโจวชิงไป๋อยู่เลี้ยงหมูที่บ้าน

ในตอนนี้พวกเขาเลี้ยงหมูหนึ่งครั้งก่อนจะเลี้ยงพวกมันอีกทีหลังเก้าโมง จากนั้นก็จะเลี้ยงครั้งถัดไปในเวลาตีสี่หรือตีห้าในวันถัดไป

หลินชิงเหอพาลูกชายทั้งสามไปเยี่ยมโจวต้งกับโจวซีในเวลาเดียวกันกับที่ท่านแม่โจวมาหาที่บ้าน เมื่อนางเห็นว่าลูกชายกำลังเลี้ยงหมูอยู่ นางก็ถามเขา “ภรรยาแกไม่ได้เป็นคนเลี้ยงหมูหรอกเหรอ?”

“ผมทำเรื่องนี้ได้ครับ” โจวชิงไป๋ตอบ “แม่ทานข้าวแล้วหรือยังครับ?”

“ทานแล้วล่ะ” เห็นลูกชายคนเล็กเป็นแบบนี้แล้วท่านแม่โจวก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าสลด นางจึงเอ่ยต่อ “แกทำงานมาทั้งวันแล้ว เข้าบ้านไปพักผ่อนให้เต็มที่นะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ภรรยาผมตอนอยู่บ้านไม่มีเวลาว่างเลย” ชายหนุ่มบอกขณะนึกถึงภรรยาที่คอยดูแลเจ้ารองกับเจ้าสาม เตรียมอาหารอร่อย ๆ ทุกชนิดให้ทาน และคอยดูแลความสะอาดเรียบร้อยภายในบ้าน เมื่อใดที่โจวชิงไป๋ผู้เหน็ดเหนื่อยจากงานข้างนอกกลับมาถึงบ้าน เขาก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

อย่างที่เขาบอกว่า สำหรับสิ่งเหล่านี้แล้ว เขาสามารถทำให้ได้

ยิ่งกว่านั้นภรรยาของเขายังบอกชัดเจนตั้งแต่ตอนนำหมูมาเลี้ยงแรก ๆ แล้วว่าเธอจะช่วยเหลือบ้างเป็นบางครั้งบางคราว จะไม่เข้ามายุ่งในงานส่วนใหญ่

ความจริงอีกอย่างก็คือการเลี้ยงหมูต้องเผชิญกับกลิ่นเหม็นค่อนข้างรุนแรง เป็นเรื่องดีแล้วที่เขาจะเป็นคนจัดการมันเอง เขาไม่ยินดีที่จะเห็นภรรยาของเขาทำงานนี้หรอก

เขาเป็นคนทำงานนี้เองยังจะดีกว่าให้ภรรยาของเขาเป็นคนทำ

หลังเลี้ยงหมูเสร็จแล้ว โจวชิงไป๋ก็ทำความสะอาดเล้าหมูและโรยปูนขาวอีกครั้ง ซึ่งการโรยปูนขาวนี้ภรรยาเป็นคนบอกกับเขาว่าเป็นการฆ่าเชื้อโรค

หลังทำความสะอาดเล้าหมูเสร็จ เขาก็ย้ายไปทำความสะอาดเล้าไก่

แม้ลูกเจี๊ยบจะยังเล็กอยู่ แต่ชายหนุ่มก็เปลี่ยนฟางให้ทุกวันเพราะภรรยาของเขารักความสะอาด แถมเขายังโรยปูนขาวฆ่าเชื้อให้อีกด้วย

แม้ท่านแม่โจวจะทนไม่ได้ที่เห็นลูกชายต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ แต่นางก็ไม่เอ่ยอะไร เพราะรู้ดีถึงนิสัยของสะใภ้สี่ จึงทำเพียงถามเขาว่า “ของพวกนี้มันอะไรน่ะ?”

“ผงปูนขาวครับ ภรรยาผมอ่านเจอในหนังสือว่ามันมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แม่อยากได้กลับไปบ้างไหมครับ ช่วงฤดูนี้ไก่ชอบป่วยง่ายนะครับ” โจวชิงไป๋ตอบ

ท่านแม่โจวพยักหน้ารับ แค่ผงปูนขาวนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก

“แกคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้แล้วเหรอ?” หญิงกลางคนเอ่ยขณะมองลูกชายคนเล็ก

ลูกชายคนเล็กของนางไม่เคยทำงานปศุสัตว์มาก่อนในชีวิต ด้วยอายุน้อยเท่านี้เขาก็ไปเป็นทหาร แต่ตอนนี้เขากลับต้องลาออก ทำให้คนหลายคนรู้สึกเสียดายแทน

และแน่นอนว่านี่คือความคิดของท่านแม่โจว ซึ่งความเป็นจริงแล้วโจวชิงไป๋เป็นคนปรับตัวเก่งมาก “ผมสบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ”

หลังพูดคุยกับลูกชายคนเล็กได้ครู่หนึ่ง ท่านแม่โจวก็กลับบ้านไป

หลินชิงเหอเดินเล่นรอบหมู่บ้านกับลูกชายทั้งสามจนพอใจแล้วก็กลับบ้านเมื่อใกล้จะถึงเวลาพักผ่อน

“นี่ดึกมากแล้ว ลูก ๆ อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนได้แล้วครับ” โจวชิงไป๋หันไปบอกเด็ก ๆ แต่หลินชิงเหอกลับมีความรู้สึกว่าเขาจงใจบอกเธอมากกว่า

เมื่อเธอคิดดังนี้แล้วก็มองโจวชิงไป๋ และเป็นอย่างที่คิด เขากำลังมองเธอด้วยสายตาล้ำลึก

สายตานั้นเต็มไปด้วยความก้าวร้าวดุดัน ทำให้คนถูกมองต้องแข้งขาอ่อน

“ตอนนี้มันกี่โมงแล้วคะ?” หลินชิงเหอเอ่ย

“คุณอยากได้อะไรล่ะ?” โจวชิงไป๋พยักหน้า

“ฉันอยากได้ทุกอย่างที่ต้องใช้ตั้งแต่โรงเรียนประถมจนถึงโรงเรียนมัธยมปลายเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านฉันก็ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว เมื่อไหร่ที่คุณซื้อมาได้ฉันก็จะเรียนด้วยตัวเอง” หลินชิงเหอตอบ

“งั้นผมจะหาเวลาว่างไปซื้อมาให้คุณนะ” โจวชิงไป๋พยักหน้า

“ขอบคุณนะคะ” หลินชิงเหอยิ้ม

“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋ส่งสายตาเป็นนัยให้เธอพร้อมกับเอ่ยเชิญชวน

‘เพิ่งจะหกโมงเย็นเอง ดึกตรงไหนกัน?’ หลินชิงเหอคิดในใจ

“เจ้าใหญ่ยังทำการบ้านไม่เสร็จเลย เจ้ารองก็ยังนับเลขไม่ถึงเจ็ดสิบ ส่วนเจ้าสามก็ยังวาดเฟยอิงไม่เสร็จเลยค่ะ” หญิงสาวตอบ

ไม่นานนัก เจ้าใหญ่ก็ทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยและถูกต้องทั้งหมด แถมยังตอบโจทย์ทั้งหมดที่เธอให้ไปถูกทุกข้อด้วย

เจ้าใหญ่ทำหน้าทะเล้นใส่จนทำให้หลินชิงเหอนึกอยากตีเด็กชายขึ้นมา ปกติแล้วเขาจะทำผิดตลอด แต่ในช่วงเวลาวิกฤตนี้เขากลับทำถูกต้องทั้งหมด ไม่ช่วยถ่วงเวลาให้เธอบ้างเลย!

“เจ้ารองคงนับถึงวันพรุ่งนี้ได้แหละ ตอนนี้เข้านอนพร้อมกับพี่เสียนะ ส่วนเจ้าสามมานอนกับพ่อ” โจวชิงไป๋เอ่ยคำประกาศิตและอุ้มเจ้าสามเดินออกไป

เจ้าใหญ่กับเจ้ารองจะแย้งว่ามันยังไม่ดึก พวกเขานอนหลับไม่ลง แต่เพียงผู้เป็นพ่อจ้องเขม็ง เด็กชายทั้งสองก็ทำตัวว่านอนสอนง่ายและยอมเข้านอนในตอนนี้ทันที

โจวชิงไป๋พาหลินชิงเหอกลับเข้าไปในห้อง หญิงสาวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำกับเขาจริง ๆ แค่ให้แรงกระตุ้นกับเขาเท่านั้น แต่ทำไมเธอกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้เหมือนจะอยู่เหนือการควบคุมของเธออย่างไรก็ไม่รู้ล่ะ?

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แม่โดนพ่อพาขึ้นเขียง…เอ๊ย…เตียงแล้วค่าาา คืนนี้พี่ไป๋จะได้กินเนื้อหงส์สมใจไหม ติดตามต่อตอนหน้านะคะ

ในที่สุดกิจกรรมยอดไลค์เพจครบ 1,000 ไลค์ให้ฟรีตอนที่ 73-74 ของทางสำนักพิมพ์ก็ได้จบลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ต้องขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะที่มาร่วมกิจกรรมนี้อย่างล้นหลามจนเกินความคาดหมาย ทางผู้แปลกับทีมงานรู้สึกดีใจมาก ๆ ค่ะ จะพัฒนาผลงานให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้อ่านทุกท่านต่อไปนะคะ หลังจากนี้ก็มาลุ้นกันไปพร้อม ๆ กันนะคะว่าครอบครัวนี้จะมีเจ้าสี่ออกมาในเร็ว ๆ นี้หรือไม่

ไหหม่า (海馬)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม