ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 79

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 79 ติดอ่างนิดหน่อย
บทที่ 79 ติดอ่างนิดหน่อย
โดย
EnjoyBook
บทที่ 79 ติดอ่างนิดหน่อย

ความจริงก็คือ ขณะนี้โจวเสี่ยวเม่ยได้เจอคนที่ใช่แล้ว

“เขาอายุมากกว่าฉันนิดหน่อยน่ะค่ะ ปีนี้ก็จะครบยี่สิบเก้า แล้วยังเป็นลูกชายคนเดียวที่พ่อแม่เสียไปแล้วแต่ทิ้งบ้านไว้ให้หลังหนึ่ง เขาเป็นคนซื่อสัตย์อยู่นะคะ ติดแค่ว่าพูดติดอ่างนิดหน่อยเท่านั้น”

“พูดติดอ่างนิดหน่อยเหรอ?” หลินชิงเหอจ้องมองหล่อน

“ค่ะ แต่แค่ติดอ่างนิดหน่อยนะคะ ไม่สาหัสมาก ลุงของเขาเป็นหัวหน้าโรงงานทอผ้า ส่วนตัวเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มคนงานในโรงงานทอผ้าน่ะค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยพยักหน้า

“อายุยี่สิบเก้าก็ไม่ถือว่าแก่ไปนะ แถมฐานะครอบครัวก็ไม่เลว แต่ทำไมเขาถึงยังไม่แต่งงานอีกล่ะ?” หลินชิงเหอมองน้องสามี

“ตัวเขาเองก็สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีไม่มีโรคประจำตัวค่ะ คงเป็นเพราะอาการพูดติดอ่างที่ทำให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นตัวซวยที่ทำให้พ่อกับแม่ของเขาต้องตายทั้งคู่มั้งคะ ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่มีพี่น้องคอยช่วยเหลือด้วย มีแค่ลุงคนเดียวที่คอยเลี้ยงดูเขาน่ะค่ะ”

แม้คนในยุคนี้จะเผชิญกับความยากเข็ญ แต่ก็ยังมีความเชื่อบางอย่างอยู่

เขาเป็นคนติดอ่าง กำพร้าพ่อแม่ และยังเป็นลูกคนเดียวในบ้าน ดังนั้นต่อให้เขามีบ้านและมีงานทำ สาว ๆ ในเมืองก็คงจะแสดงท่าทีรังเกียจ

แล้วเขาก็ไม่ได้มีความสนใจสาวชนบทนัก เขาจึงครองโสดมาจนถึงบัดนี้

“แล้วเธอสองคนเจอกันได้ยังไง?” หลินชิงเหอถาม

โรงงานอาหารอยู่ค่อนข้างไกลจากโรงงานทอผ้าไม่น้อย

“ฉันมีวันหยุดพี่รู้ใช่ไหมคะ? แล้วฉันก็ออกไปซื้อของตอนที่ได้พัก จากนั้นก็เจอกับชายสกปรกสองคนในสวนสาธารณะ เขาเป็นคนเข้ามาขวางและไล่พวกเขาไปน่ะค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยสารภาพด้วยท่าทางเอียงอายเล็กน้อย

หลินชิงเหอพยักหน้าและเอ่ยถาม “เธอรู้จักเขามานานเท่าไหร่แล้ว?”

“ครึ่งเดือนได้ค่ะ เมื่อวานนี้ก็เพิ่งไปดูหนังกับเขา ตอนขากลับที่เขามาส่งฉันที่หอพัก เขาก็ถามว่าอยากคบกับฉันและหวังว่าฉันจะตกลงน่ะค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยเอ่ยพร้อมกับพวงแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ

หลินชิงเหอเลยลองถามดูว่าเขารู้เรื่องที่หล่อนเป็นคนชนบทหรือไม่? ซึ่งโจวเสี่ยวเม่ยก็บอกว่าหล่อนบอกเรื่องนี้กับเขาแล้ว อีกฝ่ายบอกว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้และชอบหล่อนในแบบที่หล่อนเป็น

“ในตอนนี้เขาน่าจะเลิกงานแล้วล่ะ พาฉันไปดูเขาหน่อย” หลินชิงเหอบอก

โจวเสี่ยวเม่ยถึงจะรู้สึกเขินอายอย่างมากแต่ก็ยังเห็นด้วยกับเรื่องนี้

หล่อนเชื่อพี่สะใภ้สี่มาก ดังนั้นพวกเธอจึงเดินทางไปยังโรงงานทอผ้า

มันใช้เวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมง แต่ก็เป็นความบังเอิญพอดี เมื่อพวกเธอมาถึง ก็พอดีกันกับที่ซูต้าหลินกำลังปั่นจักรยานกลับบ้านหลังเลิกงาน

รูปโฉมของหลินชิงเหอดึงดูดสายตาคนจำนวนมาก จนพวกเขาอดไม่ได้ที่จะเหลียวมอง ท่าทางของคนเหล่านั้นตื่นเต้นไม่น้อย แต่หลินชิงเหอก็ไม่สบตา

“ถ้าฉันได้กลับบ้านรอบหน้า ฉันจะบอกพี่ชายสี่ว่าต้องจับตามองพี่ดี ๆ แล้วล่ะค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยกระซิบ เรื่องนี้หล่อนก็เคยบอกกับแม่แล้วว่า พี่สะใภ้สี่สวยขนาดนี้จะต้องมีหนุ่มเมืองกรุงอยากแต่งงานกับเธอแน่ แต่ท่านแม่โจวก็ไม่เชื่อ

“ดูผู้ชายคนนั้นที่กำลังมองเธออยู่สิ ใช่คนที่เธอบอกว่าเป็นซูต้าหลินหรือเปล่า” หลินชิงเหอไม่ใส่ใจกับสิ่งที่น้องสามีพูดพร้อมกับเอ่ยขึ้นมา

โจวเสี่ยวเม่ยมองตาม แล้วก็พบว่าเป็นซูต้าหลินจริง ๆ หล่อนโบกมือเรียกเขาด้วยอาการตื่นเต้นปนเคอะเขิน จากนั้นซูต้าหลินก็ปั่นจักรยานมาหา

“ซูต้าหลิน นี่คือพี่สะใภ้สี่ของฉันเองค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยแนะนำ จากนั้นก็แนะนำเขาให้กับหลินชิงเหอ “พี่สะใภ้สี่คะ นี่ซูต้าหลินค่ะ”

ซูต้าหลินได้ยินแล้วก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อให้เขามีอายุ 29 ปีแล้วก็ยังมีท่าทางเคอะเขินอยู่ เขาพยักหน้าให้หลินชิงเหอ “พี่…พี่สะใภ้สี่”

“เอ๊ะ คุณเรียกใครนะคะ?” ใบหน้าของโจวเสี่ยวเม่ยแดงแจ๋

หลินชิงเหอเองก็อึ้งไปเหมือนกัน

จากนั้นซูต้าหลินก็รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เขาพลันหน้าแดงด้วยความอายและรีบชี้แจงอย่างรวดเร็ว “ผม…ผมไม่ได้…ไม่ได้ตั้งใจ…ผม…ผมแค่…แค่…”

เขาพูดติดอ่างหนักขึ้นยามตื่นตระหนก จนแล้วจนเล่าก็ไม่สามารถอธิบายให้กระจ่างได้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันได้ยินว่าน้องสามีพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ ก็เลยมาเพื่อขอบคุณคุณโดยเฉพาะที่คราวที่แล้วเข้าไปช่วยเหลือเธอไว้ได้ทันเวลาน่ะค่ะ แล้วฉันก็เพิ่งบอกให้น้องสามีของฉันไปไหนมาไหนคนเดียวให้น้อยลงแล้ว” หลินชิงเหอตอบอย่างคล่องแคล่ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม