ต้วนอวิ๋นไม่ได้สนใจไยดีปู้ฟางแม้แต่น้อย ในสายตาของเขาไม่มีคู่ต่อสู้คนใดที่คู่ควรประมืออย่างจริงจัง หากไม่ใช่ผู้ฝึกตนขั้นเซียนเทพขึ้นไป ในสนามฝึกอันแสนไร้ค่าแห่งนี้เขามั่นใจมากว่าตนเองไร้เทียมทาน อีกทั้งปราณระดับแปดขั้นเทพแห่งสงครามของเขานั้นย่อมสังหารใครก็ตามที่ไม่ใช่ขั้นเซียนเทพได้อย่างง่ายดาย
ความมั่นใจของชายหนุ่มหยั่งรากมาจากกลุ่มอำนาจเบื้องหลังและไพ่ตายที่เขาถืออยู่
แต่กระทะสีดำใบนี้กลับทำลายความมั่นใจของเขาเสียหมดสิ้น จนทำให้เขาถึงกับเหม่อไปเลยทีเดียว ด้วยความที่มันเป็นแค่กระทะ ก่อนหน้านี้เขาจึงคิดว่าตนเองจะทำลายมันให้แหลกสลายได้อย่างง่ายดาย
แต่ความเป็นจริงช่างโหดร้ายยิ่งนัก
ตอนที่ต้วนอวิ๋นต่อยกระทะสีดำ เขาไม่ได้ทำให้กระทะเกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวเสียด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามือของตนชาหนึบจากการปะทะอย่างรุนแรง ต้วนอวิ๋นชะงักทันทีเมื่อถูกพลังที่รุนแรงกว่าผลักมือของตนกลับมา จากนั้นกระทะก็ฟาดใส่ศีรษะของเขาเต็มๆ
ตึง…
พอกระทะเข้าปะทะศีรษะของต้วนอวิ๋นเต็มเปาเสียงปะทะหนักหน่วงก็ดังชัดเต็มสองหู แรงจากการกระแทกทำเอาต้วนอวิ๋นเหม่อไปทันที เสียงหวึ่งๆ กรีดก้องอยู่ในหู ดวงตาพร่าเลือนไปหมด
จากนั้นปู้ฟางที่ถือกระทะกลุ่มดาวเต่าดำอยู่ในมือก็เดินดุ่มๆ เข้ามาหา
แม้กระทะนั้นจะฟาดใส่ศีรษะต้วนอวิ๋นจนสติหลุดไป แต่ชายหนุ่มก็ยังเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมาก มากเสียยิ่งกว่าองครักษ์โลหิตที่อยู่ในชั้นสูงสุดของระดับแปดขั้นเทพแห่งสงครามเสียด้วยซ้ำ
สายตาพร่าเลือนของต้วนอวิ๋นมองเห็นเค้าโครงของปู้ฟางที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าเพียงรางๆ เท่านั้น สีหน้าของปู้ฟางยังคงไร้อารมณ์เสมอต้นเสมอปลาย
ต้วนอวิ๋นเรียกสติกลับมาได้ จากนั้นม่านตาของเขาก็หดแคบลง
“เจ้าไม่สลบแฮะ… ข้าต้องซ้ำอีกรอบ”
ปู้ฟางพึมพำชัดเจนเต็มสองหูของต้วนอวิ๋น ขณะที่ทั้งสองกำลังประสานสายตากัน
มุมปากของต้วนอวิ๋นกระตุก เขาอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ปู้ฟางกลับไม่ได้สนใจคำตอบแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มยกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำขึ้นแล้วฟาดใส่ต้วนอวิ๋นอีกครั้งพร้อมเสียงดังตุบ จนอีกฝ่ายสลบเหมือดคาที่ทันที แม้พลังปราณของต้วนอวิ๋นจะอยู่ที่ขั้นเทพแห่งสงคราม แต่กลับถูกฟาดสลบด้วยกระทะทำกับข้าว ป่านนี้ชายหนุ่มคงกำลังร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่ในใจเป็นแน่
ปู้ฟางยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มือหนึ่งถือกระทะกลุ่มดาวเต่าดำ อีกมือจับตัวต้วนอวิ๋นที่สลบเหมือดไปเรียบร้อยเอาไว้ พอชายหนุ่มหมดสติไป เปลวเพลิงที่กำลังร้อนแรงก็เริ่มมอดดับ
ฟ้าว!
เสียงลูกธนูพุ่งผ่านอากาศดังออกมาจากในป่า
ลูกธนูที่ส่องสว่างด้วยพลังปราณเที่ยงแท้พุ่งเข้าใส่ปู้ฟาง พลังของลูกธนูนั้นน่ากลัวกว่าที่ศิษย์จากสำนักเจดีย์นภากระจ่างยิงออกมาหลายเท่าตัวนัก
ปู้ฟางสัมผัสได้ถึงกระแสลมเร็วที่พุ่งเข้ามาหาตน ราวกับหมายจะเจาะทะลุกายเขาให้เป็นรูอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มยกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำขึ้นปัดธนูออกไปโดยสัญชาตญาณ
กิ๊ง!
เสียงแหลมจากการปะทะระหว่างลูกธนูและกระทะดังขึ้น ตามมาด้วยประกายไฟ ลูกธนูแตกสลายกลายเป็นลำแสงแล้วหายไปทันทีหลังการปะทะ
กลุ่มควันสีเขียววนรอบมือปู้ฟาง ก่อนที่กระทะกลุ่มดาวเต่าดำจะหายไป
ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออก จากนั้นก็ยืดมือที่ชาเล็กน้อยหยิบมันฝรั่งหัวสิงโตทมิฬ และยึดตัวต้วนอวิ๋นที่หมดสติให้มั่น ก่อนจะหันหลังจากไป
เจ้าขาวยกแขนกลขึ้นมาเกาศีรษะกลม แสงสีม่วงในดวงตาเปลี่ยนกลับเป็นสีแดงเรียบร้อยแล้ว
ทุกคนพากันมองปู้ฟางจากไปเงียบๆ ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปพูดคุยกับชายหนุ่ม
นี่คือชายที่ฟาดผู้ฝึกตนระดับแปดขั้นเทพแห่งสงครามสลบด้วยการโบกกระทะเพียงสองทีเท่านั้น ต้องเป็นคนเช่นใดกันถึงจะเดินโบกกระทะไปมาแบบนี้ ทำไมคนคนนี้ถึงได้น่ากลัวขนาดนี้กัน
เยี่ยผังดูดีใจเป็นอันมาก สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเขาเข้าใจพ่อครัวคนนี้ผิดไป จริงๆ แล้วคนผู้นี้เป็นผู้ฝึกตนที่ทั้งอ่านยากและทรงพลังมากต่างหาก
หญิงสาวและชายหน้านิ่งรู้สึกอับอายเป็นอันมากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาให้คำแนะนำปู้ฟางไป ทั้งสองคิดว่าตนเองช่วยอีกฝ่ายจากการโดนสุนัขป่ากิน โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าจริงๆ แล้วสุนัขป่านั่นละที่กำลังจะถูกปู้ฟางกิน พวกเขาทำตัวเหมือนตนเองแข็งแกร่งมาก แต่สำหรับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ คนอย่างพวกเขาก็เป็นได้เพียงตัวเกะกะเท่านั้น
ช่างน่าอายอะไรเช่นนี้
แต่โชคดีที่ปู้ฟางไม่ได้ถือสาอะไร มิเช่นนั้นแล้วทั้งสองคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
วืด!
สตรีสาวสวยนำผู้ฝึกตนสองสามคนพุ่งออกจากป่ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD