ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 336

สรุปบท บทที่ 336 ข้ามาเพื่อหมื่นไฟประลัยกัลป์: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

สรุปเนื้อหา บทที่ 336 ข้ามาเพื่อหมื่นไฟประลัยกัลป์ – ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet

บท บทที่ 336 ข้ามาเพื่อหมื่นไฟประลัยกัลป์ ของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เนื้อของสุนัขป่าเขียวแย่เหมือนที่สตรีผู้นั้นบอกเอาไว้ไม่มีผิด แย่จนอยากจะเบือนหน้าหนีเลยทีเดียว

แค่ถลกหนังและหั่นเนื้อออกมา ปู้ฟางก็สามารถประเมินรสชาติของเนื้อได้แล้ว เนื้อของสุนัขป่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ทุกส่วนในร่างของมันเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งจนกัดแทบไม่ออก รสชาติย่อมต้องออกมาแย่อย่างไม่ต้องสืบต่อ

แม้เนื้อของพวกมันจะมีพลังปราณปริมาณมาก แต่ก็ยังเปลี่ยนความจริงที่ว่ามันกระเดือกไม่ลงไม่ได้อยู่ดี

ปู้ฟางมองวัตถุดิบตรงหน้าแล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ นี่เป็นเนื้อของอสูรเวทระดับห้า… หากโยนมันทิ้งไปเฉยๆ เขาคงจะรู้สึกเหมือนกำลังหักหลังอาชีพของตนเองอยู่แน่ๆ

ชายหนุ่มโบกมีดทำครัวในมือไปมาก่อนจะหั่นเนื้อสุนัขป่าออกเป็นส่วนๆ จากนั้นก็เอากิ่งไม้เสียบเนื้อแล้ววางมันลงบนกองไฟเพื่อย่าง

เขาปรุงรสเนื้อเป็นครั้งคราวด้วยพลังปราณเที่ยงแท้ระหว่างย่าง

โจ๊กงูโลหิตมังกรที่ยังเดือดอยู่ในหม้อแทบไม่เหลือแล้ว ปู้ฟางจึงไม่คิดที่จะขูดก้นหม้อเพื่อกินให้หมด เพราะได้ชิมรสชาติของมันไปเรียบร้อยแล้ว

เขาล้างหม้อจนสะอาดแล้วเก็บกลับเข้ากระเป๋าไป ก่อนจะหันมาสนใจเนื้อสุนัขป่าย่างบนกองไฟ ชายหนุ่มใช้ความตั้งใจเป็นอย่างมากในการปรุงรสเนื้อ กลิ่นของเลือดยังคงฟุ้งกระจายอยู่ในบรรยากาศโดยรอบ ทั้งยังมีเสียงอสูรคำรามลอยมาเข้าหูเป็นระยะๆ ใครก็ตามที่ได้ยินเสียงร้องคำรามของสัตว์ป่าเข้าไปคงรู้สึกกลัวจนตัวชาแน่นอน

ฉ่า!

เนื้อบนกองไฟร้อนแรงสุกอย่างรวดเร็ว แม้รสสัมผัสของเนื้อจะแข็งมาก แต่มันก็ยังเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามหลังจากย่างเสร็จ ทั้งยังมีหยดน้ำมันไหลลงมาเป็นทางร่วงหล่นไปบนกองไฟ ทำให้ไฟลุกโชนยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ปู้ฟางหยิบเครื่องปรุงออกมาจากกระเป๋าของระบบ แล้วจัดการทามันลงบนเนื้อ

แม้ว่านี่จะไม่ใช่วัตถุดิบที่ดีที่สุดที่เขาหามาได้ แต่ปู้ฟางก็จะไม่มีวันโยนมันทิ้งขว้างเป็นอันขาด เขาพยายามเป็นอย่างมากที่จะเปลี่ยนเนื้อสุนัขป่าเขียวให้กลายเป็นอาหารอร่อย

กลิ่นหอมลอยออกจากเนื้อที่กำลังร้อนฉ่า เนื้อสุนัขป่าที่ควรจะกินไม่ได้ส่งกลิ่นยวนใจออกมาจนทำให้ใครก็ตามที่ได้กลิ่นล้วนต้องน้ำลายสอ

กลิ่นของเนื้อย่างกระจายไปทั่วป่า ทำให้อสูรเวทที่ได้กลิ่นเริ่มกระสับกระส่ายด้วยความอยากกิน พวกมันรีบรุดออกจากที่ซ่อนมาล้อมปู้ฟางเอาไว้อีกครั้ง

แต่ขณะที่พวกมันกำลังจะโจมตีชายหนุ่ม เสียงระเบิดก็ดังขึ้น ทำให้พวกมันหยุดชะงัก

อสูรเวททุกตัวเหมือนจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้ พวกมันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า จากนั้นก็หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป ไม่นานนักทุกตัวก็หายกลับเข้าป่าไปดังเดิม

ปู้ฟางมองไปยังทิศที่เกิดระเบิดด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็คว้าเนื้อย่างมาถือไว้ในมือ เนื้อนั้นถูกย่างจนกลายเป็นสีเหลืองทองและส่งกลิ่นหอมออกมาไม่หยุด เขาลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะมุ่งหน้าไปยังทิศที่เกิดระเบิดขึ้น

ชายหนุ่มปลุกพลังปราณเที่ยงแท้ภายในกายพลางตบมันเข้าใส่กองไฟ ดับไฟลงทันทีในฝ่ามือเดียว จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เดินไปยังทิศที่เกิดระเบิดพร้อมถือเนื้อย่างเอาไว้ในมือ

ปู้ฟางมาที่ดินแดนแสนภูผาแห่งนี้เพื่อตามหาต้นเพลิงที่ชื่อว่าหมื่นไฟประลัยกัลป์ หรือว่าไอ้แรงระเบิดนั่นจะเกี่ยวข้องกับไฟดังกล่าวกันนะ…

เมื่อคิดได้ดังนั้น ปู้ฟางก็อดวิ่งไปยังต้นตอของระเบิดไม่ได้ ทั้งที่ยังถือเนื้อย่างเอาไว้ในมือ

ดวงตาจักรกลของเจ้าขาวกะพริบวาบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่มันจะค่อยๆ เดินตามปู้ฟางไปอย่างคล่องแคล่ว

…..

“ฮี่ๆ… พวกเจ้ามาจากสำนักเจดีย์นภากระจ่างหรือ”

น้ำเสียงเหยียดหยันดังสะท้อนไปทั่วหุบเขาว่างเปล่าวังเวง

ในหุบเขามืดมิดที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์รกรุงรังมากมาย ชายหนุ่มผมสีเทากำลังยืนกอดอกอยู่เหนือต้นไม้สูงใหญ่พลางมองทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง

ผู้คนที่อยู่บนพื้นสวมชุดคลุมยาวสีขาวที่มีรูปเจดีย์เล็กๆ ประดับอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ฝึกตนจากสำนักเจดีย์นภากระจ่าง

อย่างไรเสียดินแดนแสนภูผาแห่งนี้ก็เป็นอาณาเขตของสำนักนี้

“ไอ้ประสาทกลับ! ในเมื่อเจ้าอาจหาญสังหารคนของสำนักเจดีย์นภากระจ่าง เจ้าก็ควรยอมมอบตัวกับพวกข้าเสียแต่โดยดี”

ชายชราผู้มีสีหน้าเย็นชามองชายหนุ่มผมเทา ดวงตาลุกโชนด้วยไฟโทสะขณะตะโกนใส่ชายหนุ่มตรงหน้า บรรดาศิษย์จากสำนักเจดีย์นภากระจ่างที่อยู่ข้างๆ ก็โกรธมากเช่นกัน

“พวกเจ้านี่ช่างน่ากลัวจนข้าขนหัวลุกไปหมด… สำนักเจดีย์นภากระจ่างนั้นช่างยิ่งใหญ่เสียจริง ถึงกับกล้าพูดจาไม่มีเหตุมีผลแค่เพราะมาจากไอ้สำนักอะไรนั่น” ชายหนุ่มผมเทาเยาะเย้ยทุกคนบนพื้น

“ข้าพบมันฝรั่งหัวสิงโตทมิฬระดับแปดก่อน แต่ไอ้ศิษย์จากสำนักเจดีย์สวยหรูของเจ้าพยายามแย่งมันไปจากข้า ข้าก็เลยฆ่ามันทิ้งเสีย หมอนั่นตายเพราะอ่อนแอกว่า จะมาโทษว่าเป็นความผิดข้าได้อย่างไร”

ผู้อาวุโสจากสำนักเจดีย์นภากระจ่างพ่นลมเยาะ ดวงตามองไปที่พืชสีเขียวเข้ม พลังปราณเข้มข้นไหลวนอยู่บนใบไม้สีเขียวชอุ่มเงางาม มองแค่แวบแรกอาจไม่รู้สึกว่าวิเศษวิโสอะไร แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นพืชหายาก ตัวเขาเองก็ประหลาดใจกับการค้นพบมันฝรั่งหัวสิงโตทมิฬระดับแปดนี้เช่นกัน

สมุนไพรระดับแปดถือว่าเป็นของล้ำค่าอย่างยิ่ง

ผู้อาวุโสจากสำนักเจดีย์นภากระจ่างกำลังจะพูดต่อ แต่เขาก็รีบยั้งปากตนเองเอาไว้ เพราะเห็นเปลวเพลิงเบื้องหน้าเปลี่ยนสภาพไปเป็นนกเพลิงที่กำลังส่งเสียงร้องจิ๊บๆ นกตัวนั้นกางปีกออกแล้วพุ่งเข้าหากลุ่มศิษย์จากสำนักทันทีพร้อมพลังร้อนแรงร้ายกาจ

ศิษย์ที่ยืนอยู่ด้านหน้ารับกรรมเข้าไปเต็มๆ ร่างของพวกเขาสลายกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา

ชายหนุ่มผมเทานี้เป็นผู้ฝึกตนระดับแปดขั้นเทพแห่งสงคราม เปลวเพลิงแสนประหลาดที่เขาครอบครองทำให้เขาแข็งแกร่งมากทีเดียว เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีจากผู้อาวุโสของสำนักเจดีย์นภากระจ่าง เขาก็สามารถป้องกันตนเองได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้ชายชราถึงกับต้องกระอักเลือดออกมาแม้จะไม่มีบาดแผลใดๆ

ศิษย์หลายคนจากสำนักเจดีย์นภากระจ่างถูกเผาไหม้กลายเป็นขี้เถ้า สุดท้ายพวกเขาต้องใช้พลังจากวงแหวนปราณในการต้านทานการโจมตีจากชายหนุ่มผมเทา วงแหวนปราณนี้สร้างมาจากการรวมพลังกันของศิษย์ทุกคน จึงทำให้พวกเขายื้อเวลาชะลอการโจมตีจากชายหนุ่มได้สักพัก

แม้บรรดาศิษย์เหล่านี้จะต้านทานการโจมตีของชายหนุ่มผมเทาได้ แต่ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ของตนเองด้วยซ้ำ คนผู้นี้เพียงแค่ใช้ไฟโยนไปโยนมาแกล้งคนจากสำนักเจดีย์นภากระจ่างเหมือนของเล่นเท่านั้น

ทันใดนั้นดวงตาของชายหนุ่มผมเทาก็มองไปยังมันฝรั่งหัวสิงโตทมิฬที่อยู่ด้านล่าง เขากระโจนลงพื้นพลางเดินไปหาหัวมันฝรั่ง พืชต้นนี้กวัดแกว่งไปตามลม ส่งกลิ่นหอมเข้มข้นออกมา ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างไม่ตั้งใจ

มันฝรั่งหัวสิงโตทมิฬได้นามนี้มาจากการที่ใต้ใบของมันมีเห็ดรูปร่างเหมือนหัวสิงโตเติบโตอยู่

เขายื่นมือออกไปจับใบของมันไว้ แล้วใช้พลังทั้งหมดในการดึงหัวมันฝรั่งออกมาจากพื้น ทันทีที่ดึงมันฝรั่งออกมาได้ เสียงสิงโตคำรามก็ดังไปทั่ว พลังปราณเข้มข้นระเบิดออกจากหัวมันฝรั่งกระจายตัวไปทั่วบริเวณ

ใต้ใบไม้นั้นมีศีรษะสิงโตสีทองที่ดูเหมือนจริงมากอยู่ มันอ้าปากพลางส่งเสียงคำรามออกมาดังลั่น

“มันฝรั่งหัวสิงโตทมิฬนี้เป็นวัตถุดิบที่อร่อยมาก… ดูเหมือนว่าข้าจะไม่เสียเวลาเปล่าแล้ว”

ชายหนุ่มผมเทายิ้มกริ่ม เขายื่นจมูกเข้าไปใกล้ศีรษะสิงโต สูดลมหายใจเอากลิ่นเข้าไปเต็มปอด ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา

แต่จู่ๆ ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขามองไปที่ระยะไกล สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนออกมา “ใครน่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เมื่อศิษย์จากสำนักเจดีย์นภากระจ่างได้ยินเสียงตะโกนของชายหนุ่ม ใบหน้าของพวกเขาก็ดีใจขึ้นมา หลังจากที่ต้องต้านทานการโจมตีของนกเพลิงมาเป็นเวลานาน พวกเขาก็ใกล้จะแพ้ไม่แพ้แหล่เต็มทน ดูเหมือนว่ากำลังเสริมจากสำนักจะมาถึงแล้ว

พวกเขามองตามไปที่ระยะไกลเช่นกัน เสียงกรอบแกรบดังออกมาจากพงหญ้า ก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก แต่ตอนนี้กลับดีใจเป็นล้นพ้น

ทว่าความดีใจนั้นกลับเหือดหายไปทันที เมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งเดินเข้าฉากมาไม่ใช่กำลังเสริมจากสำนักเจดีย์นภากระจ่างแต่อย่างใด

คนผู้นี้เป็นเพียงชายหนุ่มตัวผอมๆ โย่งๆ ซึ่งเดินถือเนื้อย่างอยู่ในมือ เนื้อนั้นมันย่องไปด้วยน้ำมัน ดวงตาของชายผู้ที่ถือเนื้ออยู่ก็กำลังมองมายังกลุ่มคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นกัน…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD