เมื่อแม่เฒ่าทั้งหลายเห็นซูหนิงซีเดินเข้ามา สีหน้าพลันถอดสี รีบลุกขึ้นคำนับในทันที
แม่เฒ่าหลี่รีบกล่าวคนแรก“คุณหนูใหญ่มาได้อย่างไรเจ้าคะ? ห้องครัวเป็นสถานที่สกปรก เกรงว่าอาภรณ์ของคุณหนูจะเปื้อนเอาได้นะเจ้าคะ
“ห้องครัวเป็นสถานที่สกปรกหรือ?แล้วส้วมเล่าเป็นสถานที่เช่นใด?”
ซูหนิงซีเหลือบมองแม่เฒ่าหลี่ด้วยสายตาเย็นชา “เดิมทีข้าไม่อยากจะพูดจาไร้สาระกับพวกเจ้า แต่นินทาเจ้านายลับหลัง คนหนึ่งสมควรโดนตบยี่สิบที ข้ากำลังนับอยู่ ”
ขณะพูดอยู่นั้น ซูหนิงซีก็นั่งลงบนเก้าอี้
“คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตข้าด้วย……”
ทันใดที่ได้ยินว่าตบปากยี่สิบที แม่เฒ่าทั้งหลายรีบคุกเข่าร้องขอความเมตตาด้วยความตกใจ
ซูหนิงซีเมินพวกนางพร้อมรับชามข้าวต้มลูกเดือยที่หลิ่วเอ๋อร์ส่งให้ พร้อมตักเข้าปากที่ละนิดๆ“รู้ผิดแล้วรึ?เมื่อครู่ข้ายังได้ยินพวกเจ้าพูดคุยกันสนุกปาก”
ในใจแม่เฒ่าหลี่ไม่ยินยอมนัก แต่นางเองก็ไม่กล้าที่จะท้าทายซูหนิงซี
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงเหตุผลที่คุณหนูใหญ่จู่ๆก็พลันเปลี่ยนนิสัยเป็นคนละคนเช่นนี้ ได้ยินว่าไม่กี่วันมานี้แม้แต่ฮูหยินนางยังไม่เห็นอยู่ในสายตา แม้กระทั่งองค์รัชทายาทนางยังกล้าท้าทาย
“คุณหนูใหญ่ พวกข้าเพียงแต่ได้ยินข่าวลือมาเท่านั้น ไม่มีผู้ใดกล้านินทาว่าร้ายคุณหนูหรอกเจ้าค่ะ คุณหนูโปรดเมตตาด้วย!”
แม่เฒ่าหลี่ร้องขอความเมตตา
“เจ้าเองรู้ดีว่าเป็นเพียงข่าวลือ แต่ยังกล้าปล่อยข่าวลับหลังข้า แม่เฒ่าหลี่เจ้าคิดอันใดอยู่?!”
ซูหนิงซีพลิกหน้า[1]ทันควัน ทุบชามข้าวต้มอุ่นๆลงที่ไหล่ของแม่เฒ่าหลี่ พร้อมลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง
ข้าวต้มกระเด็มเต็มไปทั่วหน้า หัว และไหล่ของแม่เฒ่าหลี่ นางเจ็บแขนจากการโดนทุบ ไม่กล้าแม่กระทั่งหายใจ “คุณหนูโปรดตรวจสอบด้วยเจ้าค่ะ ข้าไม่มิได้เป็นผู้ปล่อยข่าวลือนะเจ้าคะ……”
“นอกจากนี้ ข้าวลือที่แพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวง ไม่ได้เกิดจากข้าเป็นผู้ปล่อยข่าวลือเลยเจ้าค่ะ!”
แม่เฒ่าหลี่ร้องตะโกนขอความเป็นธรรม
“พวกเจ้าจะลงมือตบเองยี่สิบที หรือให้ข้าลงมือ?หรือว่า อยากถูกขายออกไปดี?”
ซูหนิงซีไม่ได้สนใจนาง สีหน้าบึ้งตึง มองแล้วน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
มองไม่ออกเลยจริงๆว่าเดิมทีนางขี้ขลาดเพียงไหน คนรับใช้จึงได้กล้าขี่ขึ้นมาบนหัวของนางเช่นนี้!
งานในจวนแม่ทัพนั้นไม่ได้หนักนัก การปฏิบัติต่อคนรับใช้ถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับจวนอื่นๆ พวกแม่เฒ่าย่อมกลัวที่จะเสียงานดีๆเช่นนี้ไป จึงได้แต่ก้มหน้ากัดฟันตบปากตัวเอง
แสงอบอุ่นจากดวงอาทิตย์เมื่อสาดส่อง ทำให้รู้สึกสบายยิ่งนัก
เสียงตบหน้าทีละฉาดทีละฉาด ได้ยินแล้วช่างจรรโลงใจเหลือเกิน
ข่าวลือที่แพร่สะพัดอยู่นั้นออกมาจากปากผู้ใด ซูหนิงซีรู้ดีอยู่แก่ใจ
อย่างไรเสีย ในเมื่อวันนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ก็คงนับได้ว่าเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น
เมื่อนางได้หลักฐานเมื่อใด แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยผ่านไปง่ายๆอย่างแน่นอน
เหตุการณ์ในครัวล่วงรู้ถึงหูนางเฉียวอย่างรวดเร็ว นางโมโหทุบชุดชาลายครามไปหลายชุด “นังเด็กสารเลวนี่นับวันยิ่งอวดดีขึ้นเรื่อยๆ!”
“นางช่างโอหังยิ่งนัก!กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องคนของข้า!”
“ฮูหยินอย่างข้าสิถึงจะเป็นนายหญิงตัวจริง นี่นางคิดว่านางเป็นนายหญิงของจวนแม่ทัพรึอย่างไร!”
เยว่หงขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ฮูหญิง ข้าน้อยมีแผนเจ้าค่ะ……”
ถึงแม้ว่าข่าวลือจะสะพัดไปทั่วเมืองหลวง แต่ในวังหลวงกลับไม่มีผู้ใดพูดถึง ก่อนหน้านี้ขนาดการนอกใจของไป๋หลี่เหิงยังไม่มีผู้ใดเอ่ยถึง ดังนั้นข่าวลือนี้ก็เป็นได้แค่เพียงข่าวลือ
ซูหนิงซีไม่สนใจ ฮ่องเต้ไม่สนใจ ข่าวลือนี้จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหานัก
แต่หากว่าให้ไป๋หลี่เหิงพบเห็นซูหนิงซีและชายชู้ด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็……
เกรงว่านางคงต้องลำบากเป็นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาป่วนหัวใจ ท่านอ๋องจอมหึง
ไม่อัพต่อหรือคะ...
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ...