คิดไม่ถึงว่าไป๋หลี่จิ่นจะทำการตรวจสอบจริงๆ
“ท่านอ๋องโปรดตรวจสอบ ข้าน้อยถูกใส่ความเจ้าค่ะ !”
ขณะนี้ นางเฉียวไม่กล้ายอมรับความผิด ได้แต่บอกว่าตนถูกใส่ความ
“ถูกใส่ความ?”
ไป๋หลี่จิ่นเงยหน้าขึ้น มองดูเฮยเย่าโยนเยว่หงลงนั้งข้างๆนางเฉียวด้วยท่าทีสั่นกลัว
“แต่สาวใช้ของท่านยอมสารภาพมาหมดเปลือก แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยที่ท่านสั่ง นางก็ไม่มีปิดบังแม้แต่น้อย”
เฮยเย่าเอ่ยด้วยท่าทีแดกดัน
หน้าของนางเฉียวขาวซีด ซูหงเหว่ยเกิดความกังวล จึงช่วยร้องขอความเมตตาให้นางอีกครั้ง“ท่านอ๋อง ฮูหยินช่างโง่เขลา ทำผิดครั้งใหญ่ ขอท่านอ๋อง……”
“ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าจะลงโทษนางอย่างไร เจ้าจะรีบร้อนไปใย”
ไป๋หลี่จิ่นเหลือบมองซูหงเหว่ย “ยามหนิงซีถูกใส่ร้ายป้ายสี เหตุใดข้าไม่เห็นท่านจะปกป้องนางเยี่ยงนี้”
คำพูดของเขาแสดงออกชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่าต้องการปกป้องและเรียกร้องความยุติธรรมแก่ซูหนิงซี ไป๋หลี่เหิงผู้ที่สมองช้าในที่สุดก็กระจ่าง ดูแล้วเสด็จอาเจ็ดของเขาต้องมีใจให้แก่ซูหนิงซีเป็นแน่
แล้วสรุปนี่มันเรื่องอันใดกัน?
อย่างไรซูหนิงซีก็เป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขา ถึงแม้ยามนี้จะยกเลิกเลิกการหมั้นหมายไปแล้ว……แต่ไป๋หลี่จิ่นก็ควรหลีกเลี่ยงมิใช่หรือ?
ในฐานะคู่หมั้นของหลานชาย ถูกกลั่นแกล้งมิได้หรือ?
เรียกหนิงซี ช่างเอ็นดูกันเสียเหลือเกิน
ซูหงเหว่ยหุบปากด้วยความละอายใจ หลังจากนั้นจึงฟังไป๋หลี่จิ่นกล่าวต่อไป“ข่าวลือถูกปล่อยออกมาจากจวนของท่าน ข้าและหนิงซีถูกทำให้แปดเปื้อน ท่านควรรับผิดชอบถึงจะถูกต้องมิใช่หรือ ฮูหยินซู?”
นางเฉียวไม่กล้าแย้งต่อ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงผงกหัวรับ
เมื่อเขาเอ่ยแล้ว นางกล้าที่จะไม่เห็นด้วยอย่างนั้นหรือ?
“ข้าเคยบอกแล้วว่า ข่าวลือที่หลุดออกมานี้ ข้าและซูหนิงซีล้วนเป็นไปตามที่ข่าวลือว่าไว้
ไป๋หลี่จิ่นเอ่ยอย่างช้าๆ
ภายนอกท่าทีดูสงบนิ่ง แต่จริงๆแล้วภายในใจมิได้สงบเช่นนั้น เขาเกรงว่าซูหนิงซีจะปฏิเสธในสิ่งที่เขาพูด หากเป็นเช่นนั้นย่อมเป็นที่น่าอับอายยิ่งนัก
โชคดีที่ซูหนิงซีเพียงเลิกคิ้วขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามนางไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ไป๋หลี่จิ่นแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวต่อไป “ผู้อื่นอาจจะไม่รู้ว่าผู้ใกล้ชิดหนิงซีผู้นั้นคือข้า เพียงคิดว่าหนิงซีแอบพบชายชู้เท่านั้น ย่อมทำให้ชื่อเสียงของหนิงซีแปดเปื้อน”
“ดังนั้นจึงรบกวนขอให้ฮูหยินซู ชี้แจงเพื่อหนิงซีด้วย”
รบกวนสองพยางค์นี้ถึงกับทำให้นางเฉียวหน้าแดง“ข้า ข้าไม่เข้าใจความหมายของท่านอ๋องเจ้าค่ะ”
ซูหนิงซานเลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว นางกลับรู้สึกว่าเหตุใดจึงคล้ายมีอะไรแอบแฝงอยู่ในคำพูดของไป๋หลี่จิ่น
ดูเหมือนไป๋หลี่จิ่นจะไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด แต่เพราะอารมณ์ที่ยากจะคาดเดาของเขา จึงทำให้ผู้คนล้วนแต่หวาดกลัว
เฮยเย่าขยิบตาพลางกล่าวว่า“ความหมายของท่านอ๋องคือ ให้ฮูหยินซูออกมาอธิบายข่าวลือที่ว่า ชายชู้ของคุณหนูใหญ่ตระกูลซู แท้ที่จริงแล้วคือท่านอ๋องของข้าอย่างไงล่ะ”
ไม่ต้องพูดอันใดมาก วิธีการเช่นนี้ดีที่สุด
เดิมทีนางเฉียวต้องการที่จะทำลายชื่อเสียงของซูหนิงซีอย่างเต็มที่ วันนี้ถึงกับเชิญไป๋หลี่เหิงและซูหงเหว่ยมาเพื่อจับคนทรยศ กลับไม่สามารถทำลายซูหนิงซีด้วยมือของนางได้
และด้วยวิธีการเช่นนี้ แน่นอนว่าสำหรับซูหนิงซีนั้นแอบลำบากอยู่บ้างที่จะยอมรับ
ถึงอย่างไร แม้นางพึ่งยกเลิกการสมรสกับไป๋หลี่เหิง และคนนอกยังคงพูดถึงเรื่องของนาง นางมิใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เดิมก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของนางและไป๋หลี่จิ่นค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็ใช่ว่าอยู่ดีๆจะรับถึงการมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันรวดเร็วเช่นนี้ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
นางไม่รู้ว่า จริงๆแล้วไป๋หลี่จิ่นกำลังคิดอันใดอยู่ ทำเช่นนี้ด้วยมีความจริงใจต่อนาง หรือเพียงเพราะต้องการจัดการกับนางเฉียวและไป๋หลี่เหิงเท่านั้น?
หากให้นางเฉียวลุกขึ้นมาเพื่อชี้แจงถึงความสัมพันธ์ของไป๋หลี่จิ่นและซูหนิงซี นั่นยิ่งทำให้นางเหมือนถูกมีดทิ่มแทง ยิ่งทำให้รู้สึกแย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาป่วนหัวใจ ท่านอ๋องจอมหึง
ไม่อัพต่อหรือคะ...
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ...