“ท่านพ่อ ท่านเรียกคนมาช่วยยกกระสอบอาหารของพวกเราในวันนี้หน่อย”
ซ่งฝูหลิงบอกเสร็จ นางก็ยื่นกระเป๋าที่ใส่เงินเมื่อวานส่งให้พ่อของนาง ก่อนจะรีบวิ่งไปล้างหน้า
ซ่งฝูเซิงหยิบกระเป๋าขึ้นมา เขานับเงินที่เหลืออยู่อย่างรีบร้อนและและรีบคำนวณเงินค่าอาหารแห้งให้กับเถ้าแก่ไป๋
ซ่งหลี่เจิ้งเห็นเหตุการณ์ เขาก็รีบใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินมาทำบัญชี
ในตอนนี้เงินที่ทุกคนหามาได้กับเงินที่ทุกคนรวบรวมกันก่อนหน้านี้ที่ประตูเมืองโยวโจว จำนวนสี่สิบกว่าตำลึง ทั้งหมดอยู่กับซ่งฝูเซิง รวมทั้งเงินที่เก็บรวบรวมไว้ก็ไม่ได้ถูกแบ่งออก
เพราะทุกคนบอกให้วางเงินรวมกันไว้ เวลาใช้จ่ายในช่วงเดินทางจะได้ไม่ต้องยุ่งยากจ่ายทุกวัน ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่พักและอื่นๆ ซ่งฝูเซิงจะเป็นคนคำนวณสรุปบัญชี โดยมีซ่งหลี่เจิ้งรับผิดชอบเป็นคนจดบัญชี
เถ้าแก่ไป๋โบกมือด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ไม่ต้องจ่ายเงิน”
เพราะอะไร?
“เพราะลูกสาวของเจ้าจิตใจดี มีคนจ่ายให้แล้ว เจ้าดูตอนนี้สิ นี่คืออาหารที่เจ้าออกเดินทางนำไปด้วย ไม่ใช่อาหารแห้งเหมือนเมื่อก่อน เจ้ามองดู มันเป็นเส้นหมี่”
ซ่งหลี่เจิ้งตลอดจนชายหนุ่มหลายคนที่เคลื่อนย้ายอาหารมาถึงกับอ้าปากค้าง แต่ละคนเมื่อได้ยินก็ถึงกับนิ่งงัน
“น้องพั่งยา พั่งยา?”
ซ่งฝูหลิงรีบกลับไปยังห้องรวม
พี่สาวกัว “เชือกฟางที่มัดเครื่องนอนไม่พอแล้ว”
ซ่งฝูหลิงปีนขึ้นไปบนเตียงควานหาสิ่งของ “นี่ไง”
เชือกฟางหนึ่งม้วนใหญ่
“เอามาจากที่ไหน?”
“ก่อนหน้านั้นตอนที่ขายถั่วเมล็ดสน เถ้าแก่โรงเตี๊ยมก่วงหยวนให้มา” ซ่งฝูหลิงพูดจบก็วิ่งออกไป นางออกไปหาซ่งฝูเซิง “ท่านพ่อ ถั่วเมล็ดสนที่พวกท่านนำมาเมื่อวานได้ชั่งน้ำหนักว่ามีเท่าไรแล้วหรือยัง?”
“ชั่งทำไมกัน? ตอนนี้ก็ไม่ได้ขาย”
ซ่งฝูหลิงพูดเสียงเบา “แต่ท่านก็ต้องให้ทุกคนกับตัวท่านเองรู้จำนวนที่แน่นอน ท่านไม่สามารถให้ทุกคนมาขายของด้วยกันทั้งหมด ต้องแบ่งกันขาย และยังต้องคัดลูกสนที่ข้างในไม่มีถั่วกับถั่วที่ขึ้นราทิ้งไป ท้ายสุดเงินเข้าบัญชีเท่าไหร่ก็ควรจะรู้ไว้ ไม่เช่นนั้นจะแบ่งกันได้ไม่ชัดเจน”
ซ่งฝูเซิงได้ฟังก็เข้าใจ แม้ว่าทุกคนจะดูเป็นคนใสซื่อ แต่หลังจากมีความมั่นคงแล้วก็ควรให้ความระวังในด้านนี้ เพราะแม้แต่เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ก็ต้องทำบัญชีให้ชัดเจน
แต่ว่า “จะไปเอาเครื่องชั่งมาจากไหน?”
“ท่านตามข้ามา”
ซ่งฝูหลิงพูดคุยกับพ่อครัวที่ดูแลการจัดซื้อของเข้าโรงเตี๊ยมว่านางต้องการใช้เครื่องชั่ง
พ่อครัวไม่มีอาการลังเลแม้แต่น้อย เขายังคงทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “วันนี้จะไปแล้วหรือ? วางอยู่ตรงนั้น ไปชั่งเถอะ กระสอบมีพอใช้ไหม? ไม่พอใช้ก็บอกนะ สาวน้อย ข้าสามารถเทออกมาได้หลายกระสอบ”
“ขอบคุณท่านลุงมาก”
ช่วงเวลานี้ซ่งฝูเซิงเข้าใจแล้วว่า ลูกสาวของเขาใช้เวลาเพียงวันเดียวก็เกือบจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานภายในโรงเตี๊ยม
ทุกคนก็รู้สึกเหมือนได้รับความสะดวกสบายไปด้วย พวกเขาประหลาดใจมาก พั่งยาช่างเป็นเด็กที่มีความสามารถจริงๆ
ไปที่ไหนก็พบเจอคนดีให้การช่วยเหลือ ไม่ว่าจะทำอะไรหรือประสบปัญหาอะไร ก็มีคนยื่นมือเข้าช่วย
เกาถูฮู่ลากกระสอบมาชั่งบนเครื่องชั่งและพูดหยอกเย้าเล่น “เมื่อวานคิดผิดไป ควรให้พั่งยาตามเข้าป่าไปด้วย ไม่แน่ว่าพวกเราทุกคนอาจจะไม่ต้องพลาดตกลงมา เด็กคนนี้เป็นเด็กนำโชคจริงๆ”
ซ่งฝูเซิงได้ฟัง เขาทำงานไปด้วยแล้วหัวเราะไปพลาง
เมื่อชั่งเสร็จเรียบร้อย ก็ได้น้ำหนักประมาณเก้าร้อยกิโล
ต้องออกเดินทางแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...